บอย ปกรณ์ ยันซื้อรถหรูสุจริต บอกเป็นดาราไม่ได้รับการยกเว้น
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
นักแสดงหนุ่ม บอย ปกรณ์ ยันซื้อรถด้วยความสุจริต พร้อมแสดงความบริสุทธ์ เผยเป็นดาราไม่ได้รับการยกเว้น แถมโดนจับตามองมากกว่า
วันที่ 12 มกราคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีคดียักยอกเงินสถาบันพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ที่เป็นข่าวนั้น ในส่วนของรถแลมโบกินี่ที่ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ขายต่อให้นักแสดงหนุ่ม บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ โดยมี นายภาดา บัวขาว หรือ โอ๊ต พราด้า เป็นคนกลางในการซื้อขายนั้น
ล่าสุด บอย ปกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ตนจะเข้าพบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีคำสั่งอายัติรถคันดังกล่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามคำสั่งของ พ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. ที่บอกว่า ต้องให้เจ้าของรถคันปัจจุบันมาชี้แจง
บอย ปกรณ์ กล่าวว่า จะเข้าพบ ปปง. เร็ว ๆ นี้ เพื่อเข้าชี้แจง โดยเฉพาะ ประเด็นที่ ปปง. ยังสงสัย ไม่ว่าจะเป็นราคาราคาของรถ และระยะเวลาที่เจ้าของเดิมครอบครองรถ ในส่วนของราคารถนั้น ไม่ได้ลดราคามากถึง 6 ล้านตามที่เป็นข่าว โดยตนทราบว่า นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด เป็นเจ้าของรถ ได้ซื้อรถมาจากร้านคาร์แม็ค ย่านพระราม 9 ราคาประมาณ 17 ล้านบาท และได้ขายต่อในราคา 15 ล้านบาท ส่วนระยะเวลาที่เจ้าของเดิมครอบครองนั้น เป็นระยะเวลา 6 เดือน ไม่ใช่ 2 เดือน ซึ่งเจ้าของเดิมมีประวัติซื้อมาเมื่อเดือนเมษายน 2557 หลังจากนั้นจึงนำมาขายต่อในเดือนกันยายนปีเดียวกัน โดยเลขไมค์ ใช้ไปประมาณ 5,000 กิโลเมตร ก่อนที่ตนจะซื้อรถคันดังกล่าว โดยติดต่อผ่านทางนาย โอ๊ต ภาดา จากนั้นก็มีการนัดไปดูรถ และจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บอย ปกรณ์ ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับนายกิตติศักดิ์และนายภาดา เป็นการส่วนตัว แต่รู้จักเพราะการติดต่อซื้อขายรถเท่านั้น ส่วนเงินที่นำมาซื้อรถตนก็ได้ให้ตำรวจตรวจสอบแล้วว่าเป็นเงินส่วนตัวที่หามาได้อย่างสุจริตและเก็บสะสมในบัญชีไว้นานแล้ว
นอกจากนี้ ดาราหนุ่มยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นคนมีชื่อเสียงต้องได้รับการช่วยเหลือ และยกเว้นในเรื่องคดีดังกล่าว ซึ่ง บอย กล่าวว่า "ผมยังมองว่ายิ่งผมเป็นดาราก็จะยิ่งเป็นที่จับตามองมากกว่า ถึงผมจะทำอาชีพนี้ แต่ในเรื่องการตรวจสอบทุกอย่าง ผมก็ทำตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่าเป็นดาราแล้วจะได้รับการยกเว้น ดาราก็เป็นคนปกติที่มีสิทธิ์เท่าเทียมกับทุกคน ตั้งแต่ทราบข่าวผมก็รีบประสานงานกับทางตำรวจทันที ซึ่งผมเองก็ไม่สบายใจ และไม่ว่าใครก็ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นผมก็รีบแสดงความบริสุทธิ์ใจ และรีบเอาเอกสารเข้าไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าหากว่าผมทำผิด ตำรวจไม่มีทางยกเว้นหรอก หากใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เป็นดาราแล้วจะได้รับการยกเว้นเนี่ย ไม่มีหรอก ยิ่งเป็นดารายิ่งถูกจับตามอง ทำอะไรผิดนิดเดียวเรื่องราวใหญ่โตมากกว่าด้วยซ้ำ"
ทางด้าน นายภาดา ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวรถหรูคันดังกล่าวว่า ตนเองเป็นผู้โพสต์ขายเอง และบอย ปกรณ์ ก็ได้ติดต่อเข้ามาซื้อ โดยที่ตนกับพระเอกหนุ่ม ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน อย่างไรก็ตาม ในการที่ลดราคาให้นั้น เพราะว่ารถคันดังกล่าวกำลังจะตกรุ่น ซึ่งบอย ปกรณ์ ก็ติดต่อเข้ามาซื้ออย่างถูกต้อง คือมีการวางเงินมัดจำ นำช่างเข้ามาตรวจเช็กเครื่องยนต์
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า นายภาดา ได้ให้ความร่วมมือในการสอบปากคำอย่างดี และในคดีนี้ โอ๊ต ภาดา ถือว่าเป็นพยานปากสำคัญ ที่ทำให้รู้ถึงเส้นทางความสัมพันธ์ระหว่างนายกิตติศักดิ์ และนายทรงกลด ศรีประสงค์ ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการ ธนาคาร 2 ธนาคาร ที่มีธุรกรรมกับทางสถาบันพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานหากใครเข้าข่ายว่าร่วมอยู่ในขบวนการยักยอกเงินดังกล่าว ก็จะต้องถูกออกหมายจับ