นุกนิก ตีสิบ เปิดใจหลังคิดสั้น ฆ่าตัวตาย บอกเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบหลังถูกปัญหาถาโถม อยากกราบขอโทษพ่อกับแม่ สัญญาจะไม่หนีปัญหาแบบนี้อีก
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว "นุกนิก ตีสิบ" คิดสั้นฆ่าตัวตาย ด้วยอารมณ์ชั่ววูบเมื่อทุกอย่างถาโถมเกินกว่าจิตใจจะรับไหว โดยเฉพาะภาระด้านการเงินของตัวเองที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ล่าสุดในวันนี้ (3 กันยายน 2558) นุกนิก ตีสิบ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านรายการ ข่าวช่อง 2 โดยชี้ว่า การฆ่าตัวตายในครั้งนี้เป็นเหมือนบทเรียนราคาแพง และอยากกราบขอโทษพ่อ-แม่ สัญญาว่าจากนี้ไปจะไม่คิดสั้นหนีปัญหาด้วยวิธีนี้อีก
ณ วันนั้นอะไรที่ทำให้เราไม่อยากมีชีวิตอยู่ ?
นุกนิก ตีสิบ : นุกนิกเป็นลูกคนที่ 2 มีพี่น้อง 2 คน พี่สาวเพิ่งเสียไปปีที่แล้ว เมื่อก่อนหนูเป็นครูสอนนาฏศิลป์ ข้าราชการเงินเดือนมันน้อย พอพี่สาวเสียทุกสิ่งทุกอย่างก็มาตกอยู่ที่หนูหมดเลย ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าคอนโด ค่ากินค่าอยู่ทุกอย่างเป็นหนูหมด
เราเป็นเสาหลักของบ้าน ?
นุกนิก ตีสิบ : ใช่ค่ะ แล้ววันนั้นทั้งค่าโน่นค่านี่มันโถมมาหาเรา เราคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก จะไปปรึกษาใครเรื่องเงินเรื่องทองก็ไม่มีใครช่วยกันได้ หนูบอกตรง ๆ หนูยืมพี่แสนหนึ่งพี่จะให้หนูยืมไหม
ปัญหาหลักคือเรื่องเงิน ?
นุกนิก ตีสิบ : ใช่ค่ะ
ถ้าวันนั้นเราไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แล้วพ่อแม่ล่ะ ?
นุกนิก ตีสิบ : ตอนนั้นไม่ได้คิด คิดแค่ว่าถ้าเราตายไปแล้วปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างจบ ไม่ได้คิดว่าพ่อแม่ต้องมารับผิดชอบภาระต่อจากเรา มันเป็นเพียงชั่ววูบหนึ่งเท่านั้น
วันนั้นเรื่องราวเป็นยังไง ?
นุกนิก ตีสิบ : วันนั้นใกล้ ๆ จะสิ้นเดือน เราหมุนเงินไม่ทัน คิดอยู่ว่าจะไปยืมใครแต่ก็ไม่กล้า ไม่ค่อยกล้ายืมเงินใคร ไม่มีก็คือไม่กิน คืออด ไม่ต้องให้ใครรู้ พ่อแม่เราก็จะไม่รู้
เรื่องเงินเนี่ยเรามีปัญหาก่อนหน้านี้ไหม ?
นุกนิก ตีสิบ : เมื่อก่อนตอนพี่สาวหนูอยู่ก็พอเจียดใช้ได้ เมื่อก่อนพ่อแม่ก็ส่งให้สบาย ๆ แต่พอพี่สาวเสียทุกอย่างก็ดรอปลงหมดเลย หนูต้องหาเอง ตระเวนหาหมดทุกอย่าง ร้องเพลงวันละ 200-300 หนูไปหมดเลยนะ ไม่เคยเกี่ยงเงินน้อย งานวัด งานฉลอง บุญบ้านใหม่ หนูไปหมด ไม่เคยเกี่ยง
เรามีปัญหาเรื่องเงินตั้งแต่เดือนไหน ที่หนัก ๆ ?
นุกนิก ตีสิบ : ตั้งแต่ต้นปี นุกนิกอยู่ต่างจังหวัดมาก่อน คราวนี้ก็เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ภาระมันก็ยิ่งเยอะ เราก็คิดอยู่ว่าทำยังไงให้ได้เงินมาส่ง มาจุนเจือครอบครัว ให้พ่อให้แม่ได้สบาย
ไม่คิดขายรถที่ใช้อยู่ ?
นุกนิก ตีสิบ : ไม่ คือตอนนั้นในความคิดของหนู หนูไม่คิดอะไรเลย อยากตายอย่างเดียว อยากหนีปัญหา ตายแล้วปุ๊บทุกสิ่งทุกอย่างจบประมาณนั้น
ขออนุญาตถาม คิดจะตายยังไง ?
นุกนิก ตีสิบ : บอกตรง ๆ นะ ตอนแรกคิดจะผูกคอตาย คือรู้ว่าถ้าไม่ตายขึ้นมามันทรมาน แต่หนูเครียด ไม่กล้าโทรหาแม่ ไม่กล้าบอกปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง หนูรับผิดชอบคนเดียวทุกอย่าง ไม่เคยบอกญาติพี่น้อง ไม่เคยบอกเพื่อนให้ฟังเลย เป็นแบบนี้ ก็เลยตัดสินใจกินยาดีกว่า ยาพาราแต่ไม่รู้กินเยอะขนาดไหน จับเป็นกำ ก็ยัดใส่ปากเลย
หลังจากกินเป็นไงบ้าง ?
นุกนิก ตีสิบ : รู้สึกว่าเราไปนอนดีกว่า เก๋ ๆ สบาย ๆ แต่พอไปสักพักรู้สึกมันทรมาน ร้อนแบบ... มันบอกไม่ถูก แล้วคราวนี้ก็ประมาณว่ากูจะตายไม่ได้นะ ถ้ากูตายไปแล้ว พ่อกับแม่กูจะอยู่ยังไง ระหว่างที่เรานอนอยู่มันก็ฉุกขึ้นมาในหัวแวบหนึ่ง ถ้านุกนิกตายไปพ่อกับแม่จะอยู่ยังไง ประเด็นสำคัญคือเพิ่งจะเสียพี่สาวไปด้วย ก็เลยคิดขึ้นมาได้ ไม่ไหวนะ เราหนีปัญหาไม่ได้นะ พ่อกับแม่ต้องรับผิดชอบภาระทุกสิ่งทุกอย่างแทนเรา
ก็เลยโทรหายาม พาหนูไปโรงพยาบาลหน่อย ยามก็ถามว่าห้องไหน ตอนนั้นเราเบลอแล้ว บอกเขาชั้น 5 เขาก็ขึ้นมาก็เคาะหา แต่หนูไม่ได้ตอบ เขาก็ไม่กล้าเปิดห้องเพราะเขาเป็นยาม สักครู่หนึ่งเราก็บอกเขาว่าอยู่ห้องนี้ มันอึกอัก พูดอะไรไม่ถูก มันแน่นอกมันทำอะไรไม่ถูก ยาม 2 คน ตอนแรกมาคนหนึ่งยกไม่ไหว ยามเท่าหน้าแข้งหนูเองค่ะ ยามมา 2 คน หามลงลิฟต์เรียกแท็กซี่แล้วก็ไปส่งโรงพยาบาล
ตอนที่เห็นว่ามีคนมาช่วยแล้วรู้สึกยังไง ?
นุกนิก ตีสิบ : เรารอดตายแล้ว
คิดกลับกันกับตอนแรกเลย ?
นุกนิก ตีสิบ : มันเป็นอะไรแค่วูบเดียว วูบเดียวชีวิตเราเปลี่ยนเลยนะคะ หนูบอกตรง ๆ โชคดีที่หนูคิด หนูมีพ่อมีแม่ที่คอยดูแลเราอยู่ เราก็ต้องดูแลท่าน หนูคิดผิดมาก ๆ ที่ฆ่าตัวตาย
พ่อแม่รู้เรื่องแล้ว ?
นุกนิก ตีสิบ : ตอนแรกหนูจะไม่บอกท่านนะ
ตัดสินใจบอก ?
นุกนิก ตีสิบ : หนูไม่ได้บอกเขาหรอก แต่ที่บ้านมีโซเชียลมีเฟซบุ๊กกัน พอตกเย็นแม่ก็โทรศัพท์มาถาม เพราะมีคนไปบอกแม่ขณะสวดมนต์อยู่ที่วัด แม่ก็ตกใจ แต่โทรศัพท์มาก็ไม่ได้รับ เพราะตัวเราอยู่โรงพยาบาล โทรศัพท์อยู่ที่ห้อง
สุดท้ายได้คุยกับแม่ตอนไหน ?
นุกนิก ตีสิบ : อีกวันหนึ่งค่ะ โทรไปหาเพื่อน ก็จะบอกเพื่อนแหละว่าไม่ต้องบอกพ่อกับแม่นะ กลัวแกเป็นห่วง ไม่รู้หรอกว่าเขารู้แล้ว
วันที่ได้คุยกับพ่อแม่ หลังจากที่เขารู้เรื่องเขาว่ายังไง ?
นุกนิก ตีสิบ : ลูก แม่เหลือลูกคนเดียว แกบอกว่าหัวใจแกจะหล่นจากขวัญ (จะขาดใจ) สงสารแก ความเป็นพ่อเป็นแม่หนูเข้าใจ หนูสงสารแม่ หนูอยากกราบเท้าแม่ กับพ่อ ถ้าหนูมีโอกาสหนูจะพูดกับแกเลยว่า พ่อแม่คือหนูไม่ตั้งใจ นุกนิกทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพ่อกับแม่ ไม่ได้เพื่อตัวเองเลย ทุกวันนี้ที่เข้ามากรุงเทพฯ คืออยากหาเงิน อยากทำรายได้ให้พ่อกับแม่ได้มีความสุขเท่าเทียมกับคนอื่นเขา เพราะว่าหนูเป็นคนจน หนูไม่ได้มีเงินมากมายอะไรเลย หนูอยากโด่งดัง มีชื่อเสียง หนูทำทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงเงินน้อยเงินมากเลยพี่
world_id:55e5d0b84d265a0b7a8b4570