คอร์เซ็ตเป็นไอเทมเสื้อผ้าที่กลับมาฮิตในปัจจุบัน การใส่คอร์เซ็ตมีข้อดี-ข้อเสียยังไง อันตรายต่อสุขภาพไหม ช่วยให้รูปร่างเป๊ะขึ้นยังไงบ้าง มาหาคำตอบกัน
ทุกวันนี้เทรนด์หุ่นเอวเอสหรือหุ่นนาฬิกาทรายกลายเป็นภาพในฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยภาพผู้หญิงเอวบางร่างน้อย หนึ่งในไอเท็มแฟชั่นที่มักถูกพูดถึงคือ “คอร์เซ็ต” หรือ “เสื้อรัดเอว” ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยปรับรูปร่างให้ดูมีส่วนเว้าโค้งมากขึ้นในเวลาไม่นาน แต่เบื้องหลังของความเป๊ะนี้ก็มีคำถามสำคัญว่า. “จริง ๆ แล้วคอร์เซ็ตอันตรายไหม?” และ “จะใส่ยังไงให้ได้หุ่นสวยโดยไม่ทำร้ายสุขภาพ?”
คอร์เซ็ตมีที่มายังไง ใส่เพื่ออะไร
คอร์เซ็ตถือกำเนิดขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าในยุคกรีกและโรมันโบราณ มีการใช้ผ้ารัดลำตัวเพื่อเน้นทรวดทรงของผู้หญิง ต่อมาในยุโรปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 คอร์เซตได้ถูกพัฒนาให้มีโครงแข็ง ทำจากไม้ โลหะ หรือกระดูกวาฬ เพื่อรัดเอวให้เรียวและทำให้ช่วงลำตัวตั้งตรง
ในอดีต คอร์เซ็ตไม่ได้เป็นเพียงเครื่องแต่งกายแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังสื่อถึง “ฐานะทางสังคม” เพราะผู้หญิงชนชั้นสูงนิยมใส่เพื่อแสดงความสง่างามและระเบียบเรียบร้อยของร่างกาย ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป คอร์เซ็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นที่ใช้ในงานราตรี ชุดแต่งงาน หรือแม้แต่ในงานแสดง โดยการใส่คอร์เซ็ตมีจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น
- ปรับสัดส่วน - ให้เอวดูคอดกิ่ว ทรวดทรงโดดเด่น
- เสริมความมั่นใจ - คนใส่รู้สึกดีเมื่อเห็นทรวดทรงตัวเองชัดเจนขึ้น
- ใช้ในแฟชั่นหรือชุดราตรี - เพื่อใ้เกิดดีไซน์ที่ส่งเสริมรูปร่างของผู้สวมใส่
- การฟื้นตัวหลังคลอด - บางคนใช้เพื่อช่วย "ซัพพอร์ต" กล้ามเนื้อหน้าท้องในช่วงที่ยังคืนตัว
- ใช้ในวงการแฟชั่น - เป็นชิ้นตกแต่งให้ลุคโดดเด่น
ทำไมปัจจุบันคนนิยมใส่คอร์เซ็ตมากขึ้น
แม้จะเป็นของเก่า แต่คอร์เซ็ตก็กลับมาฮิตอีกครั้งในยุคปัจจุบัน สาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
- อิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย ดาราและคนดังจำนวนมากใส่คอร์เซ็ตในชีวิตประจำวันหรือในงานแฟชั่น ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “อยากมีรูปร่างแบบนั้นบ้าง”
- ความมั่นใจและภาพลักษณ์ เมื่อใส่คอร์เซ็ตแล้วเห็นเอวคอดทันที หลายคนจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาสวมชุดรัดรูป
- แฟชั่นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ปัจจุบันคอร์เซ็ตมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบโครงเหล็ก แบบยืดได้ หรือแบบเนื้อผ้านิ่ม ทำให้คนทั่วไปสามารถเลือกใส่ได้ตามสบาย
- บางคนใช้เพื่อซัพพอร์ตกล้ามเนื้อหลัง โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดหลังหรือหลังคลอด ซึ่งใช้คอร์เซ็ตแบบอ่อนเพื่อช่วยพยุงลำตัว
ใส่คอร์เซ็ตอันตรายไหม
หลายคนสงสัยว่าใส่คอร์เซ็ตนาน ๆ จะส่งผลต่อสุขภาพหรือเปล่า คำตอบคือ “อาจเป็นอันตรายได้” หากใช้ไม่ถูกวิธีหรือรัดแน่นเกินไป โดยแพทย์จากหลายสถาบันอธิบายตรงกันว่า การใส่คอร์เซ็ตรัดแน่นเกินไปหรือใส่นานเกินควร อาจส่งผลต่อสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น
- หายใจติดขัด เพราะแรงรัดจะจำกัดการขยายตัวของทรวงอกและกระบังลม
- ย่อยอาหารยาก หรือทำให้เกิดกรดไหลย้อน เนื่องจากความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นจนส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะ
- การเคลื่อนตัวของอวัยวะภายในมีปัญหา หากรัดบ่อยและแน่นมากเกินไป อวัยวะบางส่วนอาจถูกเบียด
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง เพราะร่างกายพึ่งพาการพยุงจากคอร์เซตมากเกินไปจนกล้ามเนื้อไม่ทำงาน
- ผิวหนังระคายเคือง โดยเฉพาะหากใส่ในอากาศร้อนหรือขณะออกกำลังกาย
นอกจากนี้ผลการศึกษาในวารสาร The Effects of the Corset (PMC) ยังระบุว่า การรัดแน่นติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ซี่โครงบีบตัวและเปลี่ยนรูป ซึ่งพบได้ในหญิงยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19 ที่นิยม “รัดเอว” อย่างสุดขั้ว
ใส่คอร์เซ็ตยังไงให้ได้หุ่นสวยแต่ไม่ทำร้ายตัวเอง
แม้คอร์เซ็ตจะมีความเสี่ยง แต่หากรู้วิธีใส่ที่ถูกต้องก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยมีวิธีใส่ดังนี้
- เลือกขนาดให้พอดีตัว คอร์เซ็ตที่ดีควรรัดกระชับแต่ไม่ถึงขั้นอึดอัด หากรู้สึกแน่นจนหายใจไม่เต็มปอด หรือเจ็บซี่โครง แปลว่ารัดแน่นเกินไป
- ใส่ทีละน้อย ค่อย ๆ ปรับเวลา เริ่มจากวันละ 1–2 ชั่วโมง แล้วค่อยเพิ่มเวลาเมื่อร่างกายเริ่มชิน อย่าพยายามใส่ติดต่อกันหลายชั่วโมงตั้งแต่วันแรก
- อย่าใส่ตอนนอนหรือหลังอาหารทันที เพราะแรงกดอาจกระทบต่อการย่อยและการหายใจขณะหลับ
- ใส่เสื้อผ้าบาง ๆ รองไว้ข้างใน เพื่อป้องกันการเสียดสีและการระคายเคืองของผิว
- ดูแลร่างกายควบคู่กันไป การออกกำลังกายและควบคุมอาหารยังคงเป็นวิธีหลักในการปรับรูปร่างระยะยาว คอร์เซตเป็นเพียง “ตัวช่วยภายนอกชั่วคราว” เท่านั้น
- ฟังร่างกายตัวเอง หากมีอาการแน่น เจ็บ หรือวิงเวียน ให้หยุดทันที และคลายคอร์เซ็ตออกอย่างช้า ๆ
คอร์เซ็ตไม่ใช่สิ่งเลวร้าย หากใช้ด้วยความเข้าใจและไม่หักโหม เพราะสามารถเป็นเครื่องแต่งกายที่เสริมบุคลิกและเพิ่มความมั่นใจได้ แต่การมี “หุ่นสับ สุขภาพดี” อย่างแท้จริง มาจากการดูแลตัวเองในทุกด้าน เพราะความสวยที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การรัดเอวให้เล็กลง แต่อยู่ที่การรักและใส่ใจร่างกายของตัวเองในแบบที่ยั่งยืนที่สุดค่ะ






