ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
หลังจากที่ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก ได้สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์ขายของจนยอดทะลุเป้าเป็นร้อยล้าน จนกลายเป็น เทศกาลเจนนี่ มีดาราคนดัง รวมไปถึงแบรนด์ต่าง ๆ มาร่วมไลฟ์กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าตัวมีแพลนทำโปรเจกต์ตลาดเทศกาลเจนนี่ขึ้นมา
แต่ล่าสุด (16 ธันวาคม 2568) เจนนี่ รัชนก ได้ออกมาเปิดใจว่า ได้ยกเลิกโปรเจกต์ตลาด เทศกาลเจนนี่ แล้ว เพราะกลัวลูกค้าไม่คุ้ม ที่สำคัญคือรู้สึกว่าเราโหมงานมาหนักประมาณ 2-3 เดือนมันควรที่จะพักได้แล้ว รวมถึงลูกสาว 2 คนที่เรารู้สึกว่าเราห่างเหินกับลูกคนเล็กมากเลย เราไม่ได้เลี้ยงเหมือนลูกคนโต แล้วเกิดว่าถ้าเราทำบูธ 5 ภาค 5 เดือนจริง ๆ แล้วคงไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย อีกอย่างยอดคนดูที่เคยดูหลักแสนตอนนี้มันถึงหลักหมื่นหลักพัน
ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
แล้วก็คิดว่าการที่เราขายงานลูกค้าไป เรารู้สึกว่ากลัวว่าเขาจะไม่คุ้ม แล้วรู้สึกว่าขอตัวไปตั้งหลักและคิดใหม่ให้มันพอดีกับสิ่งที่เรารู้สึกว่าลูกค้าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดก็จะดีกว่า คือเรารู้สึกว่าจัดไปก็อาจจะมีสิทธิ์โดนดราม่า หรือโดนว่าได้แล้วก็รู้สึกว่างั้นเราถอยมาตั้งหลักเพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนหย่อนใจทั้งเรื่องสภาพจิตใจและก็สภาพร่างกายที่ผ่านมาของเราด้วย
และมีทั้งเรื่องภายในครอบครัว เรื่องของดราม่าเทศกาลเจนนี่หลาย ๆ อย่าง แล้วก็เรื่องของความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันก็รวม ๆ แล้วมันก็ดีกว่า แต่ถามว่ามันเหนื่อยไหมมันก็สภาพจิตใจที่บางทีคอมเมนต์ต่างๆ ดราม่าต่าง ๆ มันก็ทำให้เราก็มีนอยด์ๆ บ้าง แต่ว่าสุดท้ายก็ดีใจที่มีเทศกาลเจนนี่เกิดขึ้น
ถามว่าหลังยกเลิกมีผลกระทบอะไรไหม เจนนี่ เผยว่า ตอนที่ยกเลิกไปตอนแรกมันอยู่ในช่วงที่เราลังเลว่าเราจะไปต่อหรือพอแค่นี้ คือเราก็พยายามถามพี่ ๆ ที่ซื้อบูธมาทุกเจ้า ก็มีหลายท่านมากเลยที่จะไปต่อ ก็ประมาณ 50 เจ้าที่เราบอกไป แต่ว่าเรารู้สึกว่าเราแอบกลัวด้วยแหละ ณ วันนั้นที่เราขายงานคนดูเราหลักแสน เราก็รู้สึกว่าถ้าวันนั้นเราจัดบูธนี้แล้วเราเดินไลฟ์สด คนดูก็ยังเยอะแบบนี้ลูกค้าคือคุ้ม 100% แต่ ณ วันนี้กระแสมันก็มีมาแล้วมันก็หายไป เราก็เลยรู้สึกว่างั้นเราอาจจะต้องเบรกก่อน หรือ ณ วันที่เราไปขายงานให้ลูกค้าเราก็ไปบอกเขาให้ชัดเจนมากขึ้นว่าอันนี้โซเชียลมีเดียของเรามันประมาณนี้ ๆ นะอะไรอย่างนี้ คือพูดง่าย ๆ ว่าลูกค้าที่เขาซื้อบูธเราในช่วงนั้น มันก็เป็นช่วงที่มันก็น่าซื้อ มันก็เป็นช่วงพีค แต่ว่าเรากลัวไม่คุ้มมากกว่า แล้วเรารู้สึกว่าพักด้วย
ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
เรื่องรายได้ถามว่าหยุดไลฟ์แล้วหายไปเยอะมากไหม มองว่าเรื่องเงินไม่ตายเราก็หาใหม่ได้ แล้วอีกอย่างเทศกาลเจนนี่ที่ผ่านมามันคุ้มค่ามาก ๆ แล้ว มันไม่จำเป็นต้องไปอยากได้เงินตรงนี้ของคนที่เขาคาดหวังกับเรา หรือว่าของลูกค้าที่เป็นพันธมิตรกับเรา ซึ่งลูกค้าที่ซื้อบูธทั้งหมดเป็นลูกค้าที่จ่ายเงินเราหลักแสนหลักล้านทุกท่านเลยที่ไม่ได้รวมค่าบูธ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเราได้มากพอแล้ว ถ้าเราจะจัดงานอะไรให้เขา หรืออยากร่วมธุรกิจกับเขาต้องเป็นงานที่มันต้องชัวร์ ๆ ว่าประสบความสำเร็จ เพราะว่านี่คือลูกค้าที่เขาพร้อมจะเคียงข้างเราตลอดไปทั้งชีวิต
เราทำงานเกี่ยวกับโซเชียล และถ้างานนี้มันไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับเราฆ่าตัวตาย เราก็เลยรู้สึกว่าในเมื่อมันมีความเสี่ยงขนาดนี้แล้วก็รวมถึงบูธภาคใต้ที่มันค่อนข้างยากที่เราจะไปจัดที่หาดใหญ่ แล้วมันเกิดเรื่องน้ำท่วม แล้วหนูยอมรับว่ามีผู้ประกอบการที่เป็นภาคใต้ยกเลิกค่อนข้างสูง เราก็เลยรู้สึกว่าในช่วงนี้เรายังไม่ควรโฟกัสงานรื่นเริง หรือว่าการจัดงานที่ภาคใต้ เราก็เลยรู้สึกว่างั้นเราพักก่อน
ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
ยอมรับว่ามันก็มีใจแป้ว ใครจะมานั่งบอกว่า เฮ้ยฉันดีใจจังเลย คนดูน้อยมันมีแป้ว แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เราจำไว้เสมอว่าเราเคยประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แล้วก็หลังจากนี้หนูต้องเอาความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำยังไงก็ได้ให้หนูสามารถใช้ชีวิตได้ทั้งชีวิต โดยที่ไม่กลับไปลำบาก หรือกลับไปจนเหมือนเดิม คือรู้สึกว่าที่เกิดขึ้นมาที่ผ่านมาถ้าเราใช้ชีวิตได้ดีมากพอ เราจะไม่มีทางกลับไปจนเลย คือเราต้องตระหนักตรงนั้นไว้มากกว่าที่เราจะมานั่งเสียใจว่าคนไม่ชอบฉันแล้วเหรอ หรือคนไม่ดูฉันแล้วเหรออะไรอย่างนี้ อีกอย่างหนึ่งคือถ้าตราบใดที่เรายังมีความสามารถ เราไม่มีวันตายหรอก คือเราก็ยังสามารถทำนู่นทำนี่ไปได้เรื่อย ๆ ที่ผ่านมาหนูก็พยายามพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วนะว่าหนูไม่ใช่แค่นักร้อง ไม่ใช่แค่เจ้าของค่าย หนูเป็นแม่ค้าได้ด้วย หนูร้องเพลงได้ด้วย หนูแต่งเพลงได้ด้วย หนูก็รู้สึกว่าอย่าไปซีเรียสเยอะ แต่ยอมรับว่าช่วงแรกๆ ที่โดนคอมเมนต์หนักเราก็จะแบบจริงเหรอ ๆ อะไรอย่างนี้ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว
ส่วนที่มีหลายคนเขาบอกให้ไปสร้างกระแสทะเลาะกับแม่อีก เจนนี่ เผยว่า ต่อไปต่อให้ทะเลาะอีกก็คงไม่พูดแล้ว เพราะว่าเป้าหมายของเราวันนั้นคือไม่ใช่ทะเลาะกันเพื่อมาขายของ เป้าหมายของเราคือทะเลาะกันเพื่อให้มันจบ เพื่อให้ชีวิตที่มันแบกอะไรหนัก ๆ มันเคลียร์สักที ถ้าใครได้ติดตามจริง ๆ คือจะรู้ว่าเราหนักมาทั้งชีวิตจริง ๆ กับเรื่องการเงินของที่บ้านซึ่งสะสมมาจนรู้สึกว่าทางออกมันมีทางเดียว แล้วก็โซเชียลที่จะช่วยขัดเกลาจิตใจได้ทั้งคนที่กำลังเดินทางผิด หรือว่าใครที่กำลังเดินทางผิด ก็คือคุณแม่นั่นแหละที่เดินทางผิดเกี่ยวกับเรื่องของการเงิน ซึ่งวันนี้พอมันเกิดขึ้นแล้วเรารู้สึกว่าเราได้เคลียร์แล้ว เราได้บอกทุกคนไปแล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันคืออะไร หลังจากนี้มันจะเปลี่ยนแปลงไหม จะกลับไปอยู่จุดเดิมหรือเปล่า คือมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
เจนนี่ ยังเผยว่า กลับมาคุยกับ แม่เกตุ แล้ว แต่ยังคุยน้อย บางทีอาจจะยังไม่ได้ตอบเรื่องนี้ในเวลาไลฟ์สด เพราะเรารู้สึกว่ามันก็จะมีหลายท่านที่เขารู้สึกเบื่อ แล้วก็รู้สึกว่าอีกแล้วเหรอ เอาเรื่องครอบครัวมาพูดเหรออะไรอย่างนี้ แต่ถามว่าคุยไหมก็คุยแต่ยังน้อยอยู่ เพราะว่าแผลมันเพิ่งเกิดขึ้น มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพัก หรือว่าอาจจะต้องมีข้อตกลงในการดำเนินชีวิตกันต่อ
ส่วนกับ บูม หมูทะ ที่แยกย้ายกันไปโต เจนนี่ เผยว่า กับบูมจริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ เลย ก็คือมันเป็นเรื่องปกติ คือจริง ๆ แล้วบูมกับเจนไม่ได้อยู่กันมาตั้งแต่แรก แต่ในช่วงการทำงานที่ผ่านมาบูมก็เข้ามาช่วย มันก็มีกระแสไวรัลต่าง ๆ ที่ส่งผลดีกับการไลฟ์สดของเจน เพราะวันหนึ่งที่งานมันน้อยลง คนดูน้อยลง บูมก็มีสิทธิ์ที่จะเติบโตในชีวิต เพราะว่าเราก็ไม่สะดวกที่จะต้องให้ความหวังหรือว่าแบกบูมไว้ตลอดไป แต่ถ้าวันหนึ่งวันใดที่บูมออกไปเติบโตแล้วแบบลำบาก หรือบูมเดือดร้อนอีกแล้ว วันนั้นเราค่อยเจอกันอีกครั้งก็ได้ แต่ในฐานะของความเป็นเพื่อนไอ้เรื่องทักแชต โทร. คุยมันยังมีความปกติ
ภาพจาก Instagram janey_suwannaket
เจนนี่ ยังยืนยันว่าไม่เคยทักหาเพจที่สร้างข่าวดราม่าโจมตีตัวเองเลย อาจจะต้องระมัดระวัง เพราะว่าตอนนี้มันมีมิจฉาชีพแล้วก็เพจปลอมเยอะมาก แต่ส่วนตัวแล้วไม่มีเวลาทักหาใครเลยมีแต่คุยกับลูกค้า ซึ่งเราเห็นทุกอย่างที่เขาออกมาโพสต์ แล้วก็แรก ๆ ก็โกรธอยู่ มีหัวร้อน โมโหว่ามีคนโจมตีเรา แต่ว่า ณ วันนี้เราจะเย็นมากขึ้น แล้วก็มีคำแนะนำจากผู้ใหญ่ให้เราแก้ปัญหาให้ถูกทางแล้วก็มีสติมากกว่านี้ เพราะว่าสุดท้ายแล้วไม่มีใครทำร้ายเราได้ถ้าเรายังยึดมั่นในความดี หรือว่าเราพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองแล้วก็ปรับปรุงแก้ไขเอา จริง ๆ เพจที่โจมตีก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะ อันที่มันเป็นข้อเสียที่เรามองไม่เห็นเราก็จะได้รู้ตัวไงว่าเรื่องนี้เราโอนเงินลูกค้าช้าจริงหรือเปล่า อันนี้เกิดขึ้นจริงไหม หรือเรื่องไหนที่มันไม่ถูกต้องเราก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คน
เรื่องฟ้องก็ให้ทนายความดำเนินตามกฎหมายค่ะ ต้องปกป้องตัวเองค่ะ เพราะว่า ณ วันนี้ในวันที่เทศกาลมันจบลงแล้ว ในวันที่คนดูเราไม่ได้แมสขนาดนั้น มันก็ไม่แฟร์ที่เรายังจะต้องโดนโจมตีอยู่ในทุก ๆ วัน ซึ่งมันก็มีผลต่อสภาพจิตใจของเราและอีกอย่างลูกสาวของเรากำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ถ้าเขาต้องมาเรียนรู้หรือมาเจอเรื่องแบบนี้เรามองว่ามันก็ไม่ควร เพราะฉะนั้นอันไหนที่เราสามารถที่จะให้กฎหมายปกป้องได้เราก็จะทำ แต่ว่าอันไหนที่สามารถพูดคุยกันได้ ตกลงกันได้ หรือว่าไปในทิศทางที่ดีขึ้นเราก็ยินดี
ภาพจาก Instagram nanarybena
เจนนี่ ยังเปิดใจถึงคอนเสิร์ต land of music 2025 ที่ถูกยกเลิก ซึ่วเจ้าตัวได้ทำเพลงร่วมกับ เวย์ ไทยเทเนี่ยม ว่า พี่นานาก็ทักมาแจ้งยกเลิกแล้ว ก็เหมือนขอโทษเรา เราก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะหนูเข้าใจ เรื่องเพลงยังไม่ได้พูดกันเลย เพราะว่าอัดเพลงปุ๊บ มันก็เกิดเรื่อง หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าที่จะไปทักไปถามพี่ ๆ เขา เรื่องมัดจำไม่มีเลย เพราะว่าตอนคุยกันมันก็เหมือนเราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่ได้ฟีเจอริ่งกับวงระดับประเทศแล้วก็ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ระดับประเทศ เราก็เลยยังไม่ได้คุยเรื่องของเงินกัน
เราดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่เวย์ เพราะว่าตอนนั้นที่เราไปอัดเสียงมันก็เป็นความรู้สึกแบบใหม่ แล้วก็เห็นการทำงานที่มันระดับโปรดักชั่นใหญ่ระดับประเทศ ก็ดีใจที่ได้เรียนรู้ตรงนี้ แล้วก็ไม่ว่าทางพี่เขาจะปล่อยเพลงหรือไม่ปล่อยเพลง แต่อย่างน้อยเราก็ได้เข้าไปร่วมอัดเสียงกับเขา แล้วมันก็เป็นภาพจำให้เราแล้วว่ามันเกิดขึ้นแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก onebunterng






