เป็กกี้ ศรีธัญญา แฉอดีตสามีอีกรอบ ชี้มีแต่ตัวกางเกงในยังต้องซื้อให้ เผยความจริงของงานแต่งงาน ที่แท้สินสอด 4 ล้าน แหวนแต่งงาน จ่ายเองหมด หลังจากที่ เป็กกี้ ศรีธัญญา ได้รับหมายศาลฟ้องขอแบ่งทรัพย์จากอดีตสามี ฐากูร จนกลายเป็นข่าวฮือฮา ซึ่ง เป็กกี้ ได้ออกมาโต้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่สินสมรส เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส อีกทั้งยังจะฟ้องกลับอดีตสามีทุกคดี ล่าสุด เป็กกี้ ศรีธัญญา ได้มาเปิดใจในรายการแฉ ว่า หลังจากที่เลิกกับอดีตสามี มีแววเลิกไม่จบ และยังกลับมาอยู่เรื่อย ทั้งพยายามแฮ็กไอคลาวน์ จนกระทบกับเรื่องงาน ช่องทางทำมาหากิน ก่อนออกรายการก็โดนแฮ็กไอคลาวน์อีกรอบหนึ่ง พอจับได้เราก็บอกว่าพอแล้ว หยุดเถอะ ถ้าไม่หยุดจะฟ้อง แต่เขาก็ท้าทายกลับมาว่า ฟ้องเลยดิครับ ใช้ข้อหาอะไร เราก็ขี้เกียจจะคุยก็วางสายไป แต่เราก็ใจดี ไม่ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ไม่รู้อยากได้อะไร เป็กกี้ ศรีธัญญา เผยว่าเคยขอร้องอีกฝ่ายให้หยุดทำ เขาก็บอกว่า เก่งจริงก็แจ้งความเลยสิครับ เราก็บอกหยุดเถอะ พอแล้ว เหนื่อยแล้ว เอาจริง ๆ ทีวีมันก็ซบเซาแค่เราจะหาเงินไปได้ในแต่ละวันก็ยากอยู่แล้ว การจะเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวันในการทำงานหากินก็เหนื่อยพออยู่แล้ว แล้วต้องมารับศึกหลาย ๆ ด้าน บางทีเราตัวคนเดียว เราก็ไม่ไหวเหมือนกัน สายละครก็แย่ ทุกอย่างแย่หมด ในโซเชียลไม่ใช่ว่าทุกคนปักตะกร้าแล้วจะมีคนดู เงินก็ไม่ได้หาง่ายเหมือนสมัยก่อนแล้ว ก็สู้กันไป หลังจากได้หมายศาลฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินก็ตกใจเหมือนกัน หลายคนถามว่าจดทะเบียนไหม ไม่ได้จดทะเบียน วันที่แต่งงาน ไม่รู้พูดได้ไหมคะ ก็ไม่ได้จะแต่งงาน วันที่แต่งงานคือวันขึ้นบ้านใหม่ แล้วเขามาเซอร์ไพรส์ว่าเป็นการแต่งงาน จริง ๆ วันนั้นคือวันขึ้นบ้านใหม่ของเป็ก แล้วเซอร์ไพรส์ด้วยการแต่งงาน เงินสินสอด 4 ล้าน ทอง 100 หรือ 200 ถ้าจำไม่ผิด ก็เปิดออกมาจากตู้เซฟเรา หลังแต่งงานเสร็จ ทางร้านแหวนแต่งงานก็ โทร. มาบอกว่า จ่ายตังค์ด้วยนะจากร้านเพชรคุณชูชัย เมื่อถูกถามว่า เขาไปเอาของมาก่อนแล้วให้เราไปจ่าย เป็กกี้ ก็พยักหน้ารับ ทำเอาทั้ง มดดำ และพิธีกรร่วมอึ้ง ก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงดังว่า "อะไรนะ !!" ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเป็กกี้ เจ้าตัวยังเผยอีกว่า "แหวนเพชรหลักแสน แต่มันก็ไม่ควรไง เพราะแหวนเป็กก็มีอยู่แล้ว แล้วเพลง 90 ก็แวบขึ้นมาในหัว เจ็บแปลบขึ้นมาทันที" เป็กกี้ เผยต่อว่า ในระหว่างที่เขาอยู่กับตัวเอง และทำงานด้วยกัน เขาก็น่ารัก และมีเงินเดือนชัดเจน ถามว่าเขาก็มีทรัพย์ในส่วนของเขาไหม คือในส่วนที่เขาจะเอาไปใช้มันก็เป็นเรื่องของเขา แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินค่าอยู่ เที่ยวเมืองนอก เสื้อผ้า ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ค่าทุกอย่าง อยู่ที่เป็ก ถ้าเป็นพนักงานคนหนึ่งถือว่าบริษัทนี้ดูแลพนักงานได้ดีมาก ๆ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อะไรที่มันนิยมทุกอย่างก็ดูแล ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง รวมถึงกางเกงในของเขาอยู่ที่เป็ก เป็กดูแลได้ค่ะ ในช่วงที่รักกัน เป็กมีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่เป็นเบอร์ผู้จัดการ เดิมทีมาทำงานกันคือเขาไม่ได้มีงานทำ ก็เลยให้เขาเป็นผู้จัดการ ก็เอามือถือเครื่องนั้นให้เขาใช้ เขาสามารถเข้าถึงบัญชีธนาคารเป็กได้ สามารถเอาเงินออกจากบัญชีได้เลย สามารถใช้ได้เลย ตั้งแต่อยู่ด้วยกัน ถามว่าใช้เงินด้วยกันแบบผัวเมียไหม ถ้าเป็นทางพฤตินัยก็เป็นแบบนั้น แต่ทางกฎหมายก็เป็นพนักงานที่เป็กดูแลได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ได้จดทะเบียนกัน ส่วนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ต้องเลิกรามาจากเรื่องนอกใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็กกี้รับไม่ได้ที่สุด เพราะเราเติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เจ็บปวดจากเรื่องนี้ จึงถือว่าความซื่อสัตย์เป็นเรื่องใหญ่ แต่หลังจากเลิกรา เราก็ต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดและแพนิกเป็นนับปี สงสัยว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือไม่ที่ไม่ให้อภัยเขา และหลังจากเขาหายไปนานกว่า 1-2 ปี และกลับมาพร้อมการฟ้องร้อง โดยเตรียมเอกสารหลักฐานหนาปึกเพื่อแจงรายละเอียดทรัพย์สินที่เป็กกี้ทำมาหาได้ในช่วงที่อยู่ด้วยกัน อ้างสิทธิ์ในการขอแบ่ง ฝ่ายชายมีการเก็บข้อมูล รูปถ่าย และรายละเอียดทรัพย์สินต่าง ๆ ของเป็กกี้ไว้อย่างละเอียดตลอดเพื่อนำมาใช้ฟ้องร้อง ทำให้ เป็กกี้ ศรีธัญญา คิดได้ว่าแม้จะต้องการขึ้นศาลและสภาพจิตใจย่ำแย่จนต้องพบนักจิตบำบัดทุกวัน แต่หมายศาลฉบับนี้คือคำตอบที่ทำให้เป็กกี้หลุดพ้นจากความรู้สึกผิด และเลิกสงสัยแล้วว่าคิดถูกไหมที่เลิกกัน เพราะการกระทำนี้ยืนยันแล้วว่า "เขารักเงินของฉัน ไม่ได้รักฉัน" ขอบคุณข้อมูลจาก GMM25Thailand