บอย ภิษณุ ยันไม่ใช่คนที่ยืมเงิน ต้นหอม ศกุนตลา 4 ล้าน แล้วไม่คืน เผยรู้ว่าเป็นใคร แต่พูดไม่ได้ ลั่นถ้าไม่สุดจริงจะไม่เอ่ยปากขอใคร จากกรณีที่ ต้นหอม ศกุนตลา ออกมาเปิดเผยสุดช้ำว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกบุคคลหนึ่งยืมเงินไป 4 ล้านบาท แต่ไม่ยอมคืน งานนี้ทำเอาหลายคนตามหากันให้ควักว่าบุคคลปริศนานั้นเป็นใคร ก่อนหวยจะไปตกที่ บอย ภิษณุ เพื่อนซี้ของเจ้าตัว ล่าสุด (18 ธันวาคม 2568) บอย ภิษณุ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองที่ยืมเงิน ต้นหอม ศกุนตลา ไป 4 ล้านบาท โดยเผยว่า อย่าคิดว่าเป็นผม เพราะหมื่นหนึ่งมันยังไม่ให้ผมเลยครับ ก็สงสารนางนะ ยืนยันว่าไม่ใช่ผม ที่ผ่านมาผมไม่รู้เลยว่าโดนโยง แต่ก็ไม่ใช่ผม ถ้ายืมเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็คงให้อยู่แล้ว แต่คงไม่ยืมถึง 4 ล้านหรอก ถามว่าปกติเรายืมเขาบ่อยไหม เขายืมเราครับ บ่อยมาก เราดูมีฐานะนะ แต่หลัง ๆ ไม่ให้แล้ว ข่าวมันเยอะ อย่างต้นหอมเป็นเพื่อนสนิทกัน ทุกครั้งก็จะมีเหตุผลเรื่องเศร้า ๆ มาให้หน่อย เราก็ต้องใจอ่อนให้เขายืม ยกตัวอย่างเช่น บอยโอนให้หน่อย 200,000 เลยตอนนี้ พ่ออยู่โรงพยาบาล เราก็ต้องโอนจริง ๆ แต่เราก็ประหลาดใจว่าธนาคารไม่มีเหรอ ทำไมต้องให้เราโอน ต้นหอมให้โอนไปโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวเขาโอนคืนให้ แต่เราก็โอนให้มันนั่นแหละ แล้วมันก็ค่อยโอนต่อไป ซึ่งผมก็เช็กเรียบร้อยแล้วว่าไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะหลังจากโอนเสร็จแล้วก็โทร. ไปถามอีกทีหนึ่งว่าใช่ต้นหอมหรือเปล่า หรือเป็น AI ปลอมเสียงมา บอย ยังเผยว่า หลังเกิดเรื่องราวก็ถามต้นหอมแล้ว ก็อยากรู้ว่าคนอย่างมันโดนเหรอ ไม่เอา ไม่ใบ้ ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่ง ถ้าผมพูดมันจะมีอะไรถึงผมไหม ก็เป็นห่วงเขา เลยอยากรู้ว่าใครยืมไป 4 ล้านบาท คือมันเป็นเรื่องของต้นหอม ผมไม่รู้ว่ามันจะไปละเอียดอ่อนกับใครหรือเปล่า ผมขอไม่ตอบดีกว่า แต่มันก็เป็นเรื่องเงิน มีการสูญเสียจริง ๆ ถามว่าตกใจไหมที่เพื่อนเราใจป้ำให้ถึง 4 ล้าน มันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องของการให้ก็ได้ อาจจะทำงานหรือเปล่า ลงทุนไปแต่ยังไม่ได้คืน ผมเชื่อว่าคนอย่างต้นหอมเงินสด 4 ล้าน ไม่มีทางให้ครับ เรื่องการยืมเงินเพื่อนหรือเพื่อนไปยืมเงินเรา มันแล้วแต่คนจริง ๆ นะ ในเรื่องของการยืมเงินผมว่ามันเป็นสิ่งสุดท้ายในการให้ แต่ถ้าเพื่อนรักกัน รู้จักกันมา ถ้าเพื่อนมีปัญหาแล้วเรายังไม่มีปัญหา ถ้าช่วยได้เราก็อยากจะช่วย แต่สุดท้ายแล้วมันแล้วแต่บุคคล อย่างผมตอนยังไม่มีชื่อเสียง ผมยืมใครก็ไม่มีใครให้ เพราะว่าคนก็รู้สึกว่าเรื่องเงินมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่พอเรามีชื่อเสียง คนก็จะเข้ามาขอยืมเงินเรา เรามีความรู้สึกว่า ทำไมไม่ค่อยยุติธรรม ทีเวลาเราไม่ค่อยมี เรายืมคนอื่นไม่ค่อยได้ แต่วันที่มีกลับมีคนวิ่งมาหาเราเพื่อมายืม เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าเพื่อนสนิทกันจริง ๆ ถ้ามันไม่ได้เยอะมาก มันก็คงได้แหละ ยืมแล้วก็คืนนะ ถ้ายืมแล้วเงินมันมากจริง ๆ จะทำให้เราลำบาก อันนี้มันก็คงหนักหน่อย บอย ยังเผยอีกว่า ส่วนตัวผมไม่ยืม ผมยังมี ยังไม่ถึงขนาดแย่ แต่ตอนที่ออกมาพูดที่นักข่าวถามว่าช่วงนี้เป็นไง เราก็บอกว่างานน้อย แล้วเงินมันก็ไม่เหมือนเดิม ก็ใช้เงินเก็บอยู่ ผมไม่ได้สิ้นหวังในชีวิต เที่ยวไปยืมเงินคนอื่นมาเพื่อดูแลครอบครัว ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น งานมันน้อยก็เลยต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เพราะเหมือนที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เราอยู่วงการมานาน 20 ปีแล้วไม่เคยเจอแบบนี้ ที่อยู่ดี ๆ งานมันหายไปเลย 90% พอมันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันว่า เราทำธุรกิจอื่นไหม อย่างนี้มากกว่า ย้ำชัดว่า ถ้าเราไม่สุดจริง ๆ คงไม่เอ่ยปากยืม ผมก็เข้าใจได้ว่าการที่จะไปยืมใครมันก็คงลำบาก เพราะว่าผมว่าทุกคนมันก็ลำบากกันหมด ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ มันคงไม่มีใครสบายหรอก แต่ละคนมันก็ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายของตัวเอง เราไปยืมเงินเขา เราไปเพิ่มภาระให้เขาอีกหรือเปล่า อย่างถ้าเขามายืมเงินเรา เราก็มีความรู้สึกว่าภาระเราตอนนี้มันก็แน่น ๆ แล้วนะ อย่าต้องให้อะไรเลย ถ้ามันไม่ได้มีผลกระทบกับชีวิตมากก็โอเค แต่ไม่ต้องมาดีกว่า ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์