x close

บอย ปกรณ์ หลั่งน้ำตา สุดเสียใจ อาเปี๊ยก พิศาล เสียชีวิต รักเหมือนพ่ออีกคน

          บอย ปกรณ์ เปิดใจทั้งน้ำตา หลังทราบข่าว อาเปี๊ยก พิศาล เสียชีวิต เผยรักเหมือนเป็นพ่ออีกคนผู้ต่อชีวิตในวงการ เป็นทุกอย่างอีกพาร์ตหนึ่งของชีวิต
          ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงไทย หลังผู้กำกับและนักแสดงรุ่นใหญ่ เปี๊ยก พิศาล เสียชีวิตในวัย 73 ปี โดยพระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ได้เปิดใจทั้งน้ำตาเล่าถึงความรัก ความผูกพัน ที่มีต่อ เปี๊ยก พิศาล ผู้กำกับคนแรกในด้านการแสดง และผู้เปลี่ยนชีวิตในวงการ ซึ่งเคยร่วมงานละครเรื่องแรกในเรื่อง ไฟรักอสูร

อาเปี๊ยกถือเป็นคนแรกที่กำกับเรา ?
          บอย :
(นิ่งนาน หันหลังร้องไห้) อาเป็น…(ร้องไห้) อาเปี๊ยกเขาเป็นทุกอย่างอีกพาร์ตหนึ่งของชีวิตผมครับ คือผมโตขึ้นมาด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เกื้อหนุน ซัพพอร์ตไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่ทำงาน ทุกวันนี้พาร์ตชีวิตของผมนอกจากชีวิตส่วนตัวก็คือเรื่องทำงาน การที่ผมมาอยู่จุดตรงนี้ก็เพราะว่าอาให้โอกาสผมครับ (สะอื้น)

ความเมตตาที่อาให้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ากองเป็นยังไง ?
          บอย :
คือผมได้เข้ามาแคสที่ช่องก่อนครับ เข้ามาทิ้งโปรไฟล์ไว้ แล้วพอดีว่าอาเขากำลังหาตัวแสดงไปเล่นครับ ช่องก็ส่งไปแคสที่อา ก็คือถ้าผมผ่านการแคสของอา หมายถึงว่าได้เล่นละครของอา ผมก็ได้เซ็นสัญญาช่อง เหมือนว่ามีหลายครั้งที่ช่องถอดใจจากผม แต่ว่าอาเขายังเชื่อมั่น ยังสู้กับผม ก็รอผมประมาณ 2 เดือน (สะอื้น) มันมีหลายเหตุการณ์มาก ๆ นะครับที่อาทำให้ผมรู้และอาพูดกับผมเองเลยด้วยว่ายังไงก็จะรอผม ก็คือจะเอาผมเล่น

อาบอกมั้ยว่าเห็นอะไรในตัวเรา ?
          บอย :
เขาไม่ค่อยบอกอะไรผมครับ คือสำหรับผมแล้วอาเขาไม่ค่อยได้ชมผมเท่าไร เขาจะเป็นแนวนี้ แต่ผมก็รู้และกล้าพูดในระดับหนึ่งว่าอาเขาเอ็นดูผม แต่เขาไม่ค่อยแสดงออกว่าเอ็นดูผม แต่ผมรู้ว่าอาเขารักผมมากครับ

เหตุการณ์ประทับใจเป็นอย่างไรบ้าง ?
          บอย :
ก็เยอะครับ คือสิ่งที่อาสอนผมมันไม่ใช่แค่เรื่องการแสดง ที่ผมบอกคือผมไปอยู่กับอาประมาณ 2 เดือน ไปแคส ไปเรียนแอ็คติ้งครับ ถ้าผมเล่นไม่ได้ อาบอกว่าจะยังไม่เปิด กูไม่เปิด เพราะมึงยังเล่นไม่ได้ ถ้ามึงเล่นไม่ได้ ทีมงานก็ยังไม่มีกิน (ร้องไห้) มึงก็ดูเอาละกัน มึงรีบเล่นให้เป็นเร็ว ๆ ทีมเขาจะได้ไม่ต้องรอ แต่อาเขาบอกว่าสุดท้ายยังไงกูก็จะรอ แล้วก็กูจะเอามึง นี่คือคำที่อาพูดกับผมบ่อย ๆ ช่วงนั้นครับ ที่เขาเคี่ยวเข็ญเรา

ถือเป็นคนเปลี่ยนชีวิตในวงการเลยไหม ?
          บอย :
ก็เป็นจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ถึงผมจะผ่านงานอื่นมาบ้าง ผมมารู้จักการแสดงจริง ๆ มาทำงานจริง ๆ รู้จักการใช้ชีวิตตรงนี้จริง ๆ คืออาเป็นคนสอนผมหมด อาเป็นคนหนีบผมไปทุกที่ที่อาไป

ก่อนหน้านี้พอทราบไหมว่าอาเปี๊ยกป่วย ?
          บอย :
พอรู้ว่าอามีโรคประจำตัว

ช่วงหลังมีโอกาสได้เจออาบ่อยไหม ?
          บอย :
คือช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เจอเลยครับ แต่มียกหูคุยกันบ้าง

ตอนทราบข่าวตอนนั้นเป็นยังไง ?
          บอย :
ก็งงครับ ตอนนั้นเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อเช้า หน่องเป็นคนบอก พอดีหน่องเขาเปิดโทรศัพท์ก่อนเขาเห็นข่าวว่าอาเปี๊ยกเสียครับ

ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร ?
          บอย :
(เงียบ ร้องไห้) ช็อกครับ ก็เสียใจ ผมเพิ่งคุยกับพี่โอลูกชายและเพิ่งคุยกับโบว่าอยากจะหาเวลาเข้ามาเยี่ยมอา

สิ่งที่อาสอนเราและเรายังใช้จนถึงทุกวันนี้คืออะไร ?
          บอย :
เล่นละครไม่ต้องห่วงสวย ห่วงหล่อครับ (ร้องไห้)  อาบอกว่ามึงไม่ได้เป็นพระเอก มึงเป็นนักแสดงไม่ต้องห่วงหล่อครับ

วันนี้อยากจะขอบคุณอะไรอาเปี๊ยก ?
          บอย :
เยอะเลยครับ ผมก็..อย่างที่ผมบอกว่าอาไม่ได้เอาผมไปสอนเรื่องการแสดงหรืออะไร แต่ว่าเอาผมไปอยู่ด้วย พาผมไปนู่นไปนี่ เวลาอยู่กับอาก็จะเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง ค่อย ๆ ให้เก็บเรื่องราวชีวิตต่าง ๆ ให้ประสบการณ์ ให้ชีวิตต่าง ๆ โดยเฉพาะหนัก ๆ ในการใช้ชีวิตในวงการตรงนี้ เวลาผมเจอเรื่องราวอะไรที่ไม่ดี อาก็จะโทร. มาด่า เป็นเหมือนพ่อผมอีกคนหนึ่งครับ คือ…ผมก็ไม่รู้ขอบคุณแล้วมันจะพอที่อาทำให้ผมหรือเปล่า ก็ขอบคุณอามาก ๆ สำหรับทุก ๆ อย่างครับ

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บอย ปกรณ์ หลั่งน้ำตา สุดเสียใจ อาเปี๊ยก พิศาล เสียชีวิต รักเหมือนพ่ออีกคน อัปเดตล่าสุด 12 ธันวาคม 2561 เวลา 18:11:54 12,564 อ่าน
TOP