ข่าวฉาววงการบันเทิงเกาหลีใต้ ของนักร้องหนุ่ม ซึงรี บิ๊กแบง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาพัวพันคดีค้าประเวณี รวมถึงมีประเด็นถูกแฉว่า ผับ Burning Sun ที่เจ้าตัวเป็นหุ้นส่วน มีการมอมยาสาวและข่มขืน ซึ่งข่าวฉาวดังกล่าวสะเทือนมาถึงประเทศไทย เมื่อมีสาวชาวเกาหลีออกมาแฉว่าตกเป็นเหยื่อข่มขืน และคนก่อเหตุคือคนไทย ประเด็นจึงมุ่งเป้าไปที่ ไฮโซปั๊บ ชวยศ รัตตกุล เพราะมีภาพหลุดถูกแฉออกมา ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ไฮโซปั๊บ ตอบชัด !! หลังโดนโยงข่มขืนสาวเกาหลีที่ผับซึงรี ชี้ ถ้าผิดจริงตำรวจคงไม่ปล่อย)
ล่าสุด (18 มีนาคม 2562) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานบทสัมภาษณ์ นายชวยศ รัตตกุล หรือ ไฮโซปั๊บ เปิดเผยยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองตกเป็นเหยื่อ ทั้งหมดเป็นการจัดฉาก โดยยอมรับว่าตนไปเจอผู้หญิงคนดังกล่าวในผับจริง โดยที่อีกฝ่ายเข้ามาเต้นด้วย มาขอทำความรู้จักก่อน ในคืนนั้นตนขอตัวกลับที่พักก่อน โดยที่หญิงสาวคู่กรณีเดินตามมาหาที่ห้องพักและเข้ามาในห้อง และยอมรับว่ามีอะไรกันจริง จนก่อนกลับหญิงสาวได้ขอถ่ายรูปคู่ชู 2 นิ้ว และตอนเช้า ตำรวจก็มาขอค้นห้อง บอกว่าหญิงสาวไปแจ้งความว่าตนมอมยาที่ผับและพามาข่มขืนที่ห้อง ตนจึงเอาหลักฐานเป็นรูปถ่ายในผับและรูปถ่ายในห้องให้เจ้าหน้าที่ดู เพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีการมอมยา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าหญิงสาวเดินตามไปที่ห้องเอง ไม่ได้ถูกมอมยาจนสลบตามที่กล่าวอ้าง จึงได้ปล่อยตัวตน บอกว่าตนบริสุทธิ์และเตือนว่ามาเที่ยวให้ระวังตัวจะเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่รู้จัก ซึงรี บิ๊กแบง แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายชวยศ หรือ ไฮโซปั๊บ ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดผ่านรายการโหนกระแส ยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องราวที่ถูกเอามาแฉนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
รู้สึกว่าตัวเองซวย ?
ไฮโซปั๊บ : โคตรซวย
เป็นไฮโซ ?
ไฮโซปั๊บ : ผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นไฮโซ ฟังแล้วก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่
เหตุการณ์เกิดเมื่อไหร่ ?
ไฮโซปั๊บ : เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อน 15 ธ.ค.
คุณไปทำอะไรที่เกาหลี ?
ไฮโซปั๊บ : ผมเป็นคนชอบเดินทาง ตอนนั้นเดินทางไปชิมอาหารที่เกาหลี ไปกับเพื่อนผู้ชายคนไทย ไปกัน 2 คน เหตุการณ์ก็คือพอไปทานข้าว เพื่อนผมก็ชวนว่ามีผับที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม อยู่บริเวณเดียวกัน ก็โอเคไปดูก็ได้เพราะไม่เคยไป ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเบิร์นนิ่งซัน เพื่อนผมเขามีเพื่อนที่เกาหลี เป็นผู้ชาย เขาก็จองโต๊ะให้ โต๊ะก็อยู่กลางร้าน ไม่ได้อยู่ในห้องวีไอพี
เพื่อนเกาหลีเป็นดาราหรือเปล่า ?
ไฮโซปั๊บ : ไม่ใช่ครับ
ไม่ใช่ซึงรี ?
ไฮโซปั๊บ : จะบอกว่าผมเพิ่งรู้จักชื่อซึงรีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ไปก็ไม่มีใครเป็นดาราเลย ไปกันเกือบ 10 คน กลุ่มใหญ่ ก็ไปเจอผู้หญิงคนนี้ที่ผับ เขาก็มาดื่มเหล้าด้วยที่โต๊ะเรา ตอนนั้นก็ไม่ได้อะไร เขาก็เข้ามาคุย ก็ดื่มเหล้ากับเขา ก็รู้สึกว่าพอคุยกัน แล้วอยู่ด้วยกัน ถูกคอกัน ก็ยืนเต้นอยู่ด้วยกัน มีบางจังหวะ ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมกลับ ก็คงถูกคอกัน ถ้าไม่ชอบผม เขาก็ไม่กอดเราหรอก แล้วก็อยู่กับเราทั้งคืน
เขาดื่มไหม ?
ไฮโซปั๊บ : ดื่มครับ เขาดื่มเหล้า เขาก็ชนกับเพื่อนผู้หญิง เพื่อนผู้ชายในกลุ่มนี้
ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเขาคอแข็ง ?
ไฮโซปั๊บ : เขาบอกว่าเขาดื่มแก้วเดียวแล้วน็อกไปเลย ตอนนั้นเราอยู่กันตั้งหลายคน มีเพื่อนผมเป็นพยานได้ มีเพื่อนผู้หญิงเขาไม่ได้ดื่มชอตเดียว เขาบอกเขาดื่มแก้วเดียวแล้วสลบไปเลย ก็คุยกันถูกคอเขาก็ให้คอนแทคผมมา เราก็แฮปปี้ ก็เลยเซลฟี่กันในร้าน สักพักผมบอกว่าผมจะกลับโรงแรมแล้วนะ ประมาณตีสองตีสาม แล้วเขาก็กลับด้วย
เขายังมีสติอยู่ ?
ไฮโซปั๊บ : ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะจะบอกด้วยว่าตอนกลับโรงแรม ผมไม่ได้โดดขึ้นรถนะ ผมเดินกลับโรงแรม เพราะโรงแรมห่างผับประมาณ 400 เมตร ผับอยู่ชั้นบน ต้องเดินขึ้นเนิน
ผู้หญิงคนนี้ก็เดินตามมาด้วย ?
ไฮโซปั๊บ : ถ้าบอกว่าไม่มีสติคงไม่ใช่ จะบอกว่าช่วงนั้นอากาศประมาณ 2 องศา ผมก็มึน ๆ งง ๆ เดินเลยโรงแรมด้วยซ้ำ ก็บอกให้เขาช่วยดูโรงแรมให้ด้วยนะ ก็เดินตาม ๆ กันมา
เข้าไปในห้อง ?
ไฮโซปั๊บ : จะบอกว่าตั้งแต่เข้าไปในโรงแรม ก็มีซีซีทีวีมองเห็นตลอด ว่าเขายังมีสติดีอยู่ คุณเดิน 300-400 เมตรนะ แล้วอากาศ 2 องศา ผมเดินเพื่อให้สดชื่นนะ แล้วเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีสติแล้วจะเดินไปที่โรงแรมแบบนี้ ในกล้องวงจรปิด ไม่มีการใช้กำลัง ไม่มีการแบกเขาจากผับไปโรงแรม ตอนผมเปิดประตู ผู้หญิงก็เดินตามเข้าไป
มันค่อนข้างหักล้างพอสมควร กับการที่ผู้หญิงบอกวาดื่มไปชอตนึงร่วง มาฟื้นอีกทีอยู่โรงแรมในสภาพที่ถูกข่มขืน ?
ไฮโซปั๊บ : ครับ
แสดงว่าเขาไม่ได้หลับที่ผับ ?
ไฮโซปั๊บ : เป็นไปไม่ได้ ไม่งั้นผมก็ต้องแบกเขามา
หลังจากนั้นเข้าไปที่ห้อง ?
ไฮโซปั๊บ : เขาก็เดินตามเข้าไป ตามเหตุการณ์จำลอง ถ้าเขาบอกว่าผมข่มขืนจริง ๆ เขามีโอกาสวิ่งหนี 400 เมตรแล้ว ไปโรงแรมก็ตะโกนให้ใครช่วยก็ได้ เข้าไปในห้องเกือบ ๆ ตีสาม
หลังเกิดความสัมพันธ์ขึ้น ?
ไฮโซปั๊บ : ผู้หญิงแฮปปี้ ดูยิ้มปกติ และขอผมถ่ายรูปด้วยกัน
เขาขอคุณถ่ายรูป เพราะที่เขาไปพูด คุณหรือชายไทย ไปขอเธอถ่ายรูปและให้พูดคำว่ากิมจิ ?
ไฮโซปั๊บ : ผมจะให้เขาพูดแบบนั้นทำไมครับ มันไม่เมกเซ้นส์ครับ เขาดูยิ้มแย้มปกติ ไม่มีอะไรเลย แล้วเขาเห็นผ้าพันคอที่ผมเอามาด้วยจากเมืองไทย ผมก็เลยบอกว่าผมให้เป็นของขวัญนะ เขายังใส่ให้ดูแล้วบอกว่าสวยมั้ย หลังจากนั้นเขาก็กลับไป
ภาพที่ถ่ายคู่กันคือภาพที่เกาหลีเอามาเปิดเผย ?
ไฮโซปั๊บ : อยากให้หน้ามันชัดมากเลยนะ อยากให้หน้าผู้หญิงชัดด้วย เขาก็ยิ้มและมีชูสองนิ้วด้วย
หลังแยกย้ายกัน ประมาณกี่โมง ?
ไฮโซปั๊บ : ประมาณตีสี่กว่า ก็แยกย้าย หลังเขาขอถ่ายรูป ให้ของ ลากัน เขาก็กลับ
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
ไฮโซปั๊บ : หลังจากนั้นพอเช้ามา 7-8 โมงเช้า ตำรวจมาโรงแรม เกือบ 10 คนมาที่โรงแรม มาแจ้งว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น เขาบอกว่าผู้หญิงไปแจ้งความกับแฟนเขา ว่าผมขโมยโทรศัพท์เขา มอมยาและข่มขืนเขา ผมก็ตกใจมาก
เขาเรียกคุณลงมาหรือบุกไปถึงห้อง ?
ไฮโซปั๊บ : เขาแจ้งขึ้นมาและมาที่ห้องด้วย เขาก็ไล่เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ว่าผู้หญิงคนนี้มากับแฟนมาแจ้งความ ตำรวจก็เลยให้ผมไปที่ สน. ระหว่างนั้นเข้ามาค้นห้อง ทุกอย่าง ถามทั้งหมดว่าผมกินอะไร ในห้องมีอะไร มีแซนด์วิช ใส่อะไร เขาเช็กทุกอย่างเพื่อหาเบาะแส
ผู้หญิงคนนี้เขาแจ้งความว่าคุณวางยา ?
ไฮโซปั๊บ : ครับผม ผมคิดว่าเขาน่าจะแจ้งความว่าผมวางยาเขาที่ผับ และมาฟื้นอีกทีที่โรงแรม ตำรวจก็เลยมาเช็กเส้นทาง ตรวจสอบทุกอย่างในห้อง ที่ทราบเพราะเขามาถามผมทุกอย่างเลย มีอะไรบนโต๊ะอาหาร ทุกอย่าง
เพื่อนคุณอีกคนล่ะ ?
ไฮโซปั๊บ : ตอนที่ผมกลับ เพื่อนอยู่ที่ผับ เราไม่ได้กลับด้วยกัน เราไม่ได้นอนห้องเดียวกัน
ตำรวจเช็กเส้นทางซีซีทีวี พบว่าผู้หญิงคนนี้เดินมาด้วย ?
ไฮโซปั๊บ : ใช่ครับ ตำรวจเกาหลีเขาละเอียดมาก ตอนผมไป สน. เขาให้ผมอยู่เกินครึ่งวัน ในการให้ปากคำ และหาหลักฐานในการสืบหลักฐานและเอาปากคำของผู้หญิงมาแมตช์กัน สรุปเกินครึ่งวัน เอาหลักฐานผม รูปถ่ายที่ถ่ายด้วยกันที่ผับ ที่โรงแรม หรือคอนแทคที่เธอให้ผม บวกกับคำให้การของผู้หญิง มีการใช้กำลังไหม ก็ไม่มีการใช้กำลัง ไปเช็กเสื้อผ้าก็ไม่มีฉีกขาด ไม่มีเรื่องยาเสพติด ถ้าเห็นภาพนั้นก็จะรู้ว่าผู้หญิงไม่มีบาดแผลอะไร
ตำรวจทำยังไง ?
ไฮโซปั๊บ : เขาบอกว่ามันไม่ได้มีจริง เราบริสุทธิ์ เขาก็เตือนว่าคุณต้องระวังเรื่องนี้ และอย่าไปติดต่อผู้หญิงคนนี้อีก หลักฐานทุกอย่างเขาก็เก็บไว้ที่ตำรวจที่เดียว เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ผมไม่ได้คิดนะ คิดว่าเขาทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า ที่มามีอะไรกับผม แต่พอตอนนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นการวางแผนหรือเปล่า เหมือนเขาพยายามใช้โอกาสตรงนั้นดึงผมไปใช้ประโยชน์เรื่องกระแสซึงรี ไม่มีใครหรอกถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าเบิร์นนิ่งซันมีปัญหา ผมก็ไม่ไปเที่ยวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ตำรวจปล่อยตัวคุณกลับเมืองไทย ?
ไฮโซปั๊บ : เพราะพิสูจน์แล้วไม่มีการใช้ยา ข่มขืน หรือแม้กระทั่งค้าประเวณี ไม่ได้ซื้อ เขาเดินตามผมมา
อีกมุมหนึ่ง ถ้าจะมองว่าเป็นไปได้ไหม คนอาจคิดว่าคุณเป็นไฮโซ มีเงิน ติดสินบนตำรวจหรือเปล่า ?
ไฮโซปั๊บ : ไม่ครับ หลักฐานทุกอย่างบอกอยู่แล้วว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วผมจะไปติดสินบนตำรวจทำไม เงินผมก็ไม่ได้เอามาเยอะ สามารถเช็กเส้นทางการเงินได้เลย ว่ามีโอนไปเกาหลีไหม ผมติดคุกเลยได้นะ เราบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว จะติดสินบนทำไม เอาเงินไปให้ผู้หญิงไม่ดีกว่าเหรอ จะได้จบ ๆ ไป
คุณคิดว่าคุณถูกแบล็กเมล์ ?
ไฮโซปั๊บ : ผมว่าน่าจะโดนแบล็กเมล์ เพราะผมไม่อยากโลกสวยเกินไปนะ เราคิดตอนแรกว่าเราคงตกเป็นเหยื่อผู้หญิงคนนี้ แต่ ณ วันนี้ผมว่ามันมากกว่านั้น
ยืนยันไม่รู้จักซึงรี ?
ไฮโซปั๊บ : ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเพิ่งรู้จักชื่อเขาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
บทเรียน ณ วันนี้ ได้อะไรบ้าง ?
ไฮโซปั๊บ : ผมว่าทำให้เรารู้เลยว่าเวลาเราไปเที่ยวที่ไหนที่เราไม่คุ้นเคย ไม่รู้จัก หรือเวลาไปเจอคนแปลกหน้า มันไม่ใช่ทุกคนที่เขาจะหวังดีกับเรา ถ้าเขาเป็นคนไม่ดี คุณอาจตกเป็นเหยื่อได้ เหมือนที่ผมตกเป็นเหยื่อผู้หญิงคนนี้ ตกเป็นเหยื่อของคดีเบิร์นนิ่งซัน รวมถึงคดีและกระแสของซึงรีด้วย มีการลากผมมาเกี่ยวข้อง
คุณมองว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร ?
ไฮโซปั๊บ : ผมคิดว่าการที่เขาดึงผมเข้าไปเพื่อให้เป็นเหยื่อของเหตุการณ์เบิร์นนิ่งซัน ผมสันนิษฐานว่าเขาน่าจะได้ประโยชน์จากใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังตรงนี้ เพราะคดีนั้นใหญ่มาก และพัวพันกับคนหลาย ๆ คน
คุณทราบไหมที่เกาหลีเขาเอารูปคุณไปขึ้นเว็บไซต์ ?
ไฮโซปั๊บ : ผมยังไม่เคยเห็นหน้าซึงรีเลย จนเมื่อไม่กี่วัน จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว (หัวเราะ) ทั้งที่ผมไม่ได้รู้จักเขา
ในมุมหลายคนถามว่าคิดไหมว่าจะมีการตรวจสอบ หรือกลับไปขอหลักฐานจากตำรวจ เอามาเปิดเผยข้อเท็จจริง ?
ไฮโซปั๊บ : ตอนนี้เราได้ติดต่อทางทนาย นักกฎหมาย เพื่อดำเนินเรื่องนี้ต่อไป จริง ๆ คดีจบไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ถ้าผู้หญิงคนนี้เอามารื้อฟื้น ผมว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันคือการที่ต้องการผลประโยชน์จากส่วนอื่น เช่น พวกกระแสข่าวคนดัง ๆ เกาหลี
คุณจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้ได้รับผลประโยชน์บางสิ่งบางอย่างจากใครสักคน ?
ไฮโซปั๊บ : ใช่ครับ ผมว่าเป็นไปได้สูง ผมยังไม่เคยรู้เลยว่าเบิร์นนิ่งซันเป็นของซึงรี
เข็ดไหม ?
ไฮโซปั๊บ : เข็ดมากเลยครับ เป็นบทเรียนสำคัญเลย ทำให้เรารู้ว่าต่อไปนี้จะไปไหนต้องระมัดระวัง อย่าไปเชื่อใจคน อย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่ดี จริง ๆ อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุก ๆ คน ถ้าคุณจะไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป หรือเจอคนที่ไม่รู้จักต้องระมัดระวังตัวไว้ และอยากขอโทษครอบครัว เพื่อน ๆ ที่ทำให้เป็นห่วง และอยากขอบคุณกำลังใจจากทุก ๆ คนที่เข้ามา
ผลกระทบที่ได้รับจากเรื่องนี้ ?
ไฮโซปั๊บ : ผมตกใจและช็อกมาก ที่ห่วงสุดคือครอบครัวและคนรอบข้าง คนรู้จักผมจะรู้ว่าผมไม่มีทางทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่ทำให้เขาไม่สบายใจ
คุณบอกผมก่อนเข้ารายการ ว่าถ้าโดนแบบนี้อาจออกมาพูดแก้ตัวให้เข้าใจ แต่สิ่งที่คุณยอมไม่ได้คือถ้ามีผลกระทบกับประเทศไทย ?
ไฮโซปั๊บ : ใช่ครับ ถ้ากระทบประเทศไทยผมยอมไม่ได้ เราคนไทย ไม่อยากให้ภาพลักษณ์เสียหาย ถ้าทำให้ส่วนรวมประเทศเสียชื่อเสียง ผมยอมไม่ได้
คุณยืนยันว่าคุณเป็นเหยื่อผู้หญิงคนนี้ที่แบล็กเมล์คุณ เป็นเหยื่อเบิร์นนิ่งซัน ที่กำลังเป็นประเด็น เป็นเหยื่อคดีความซึงรี เลยมีการนำเรื่องของคุณที่จบไปแล้วมาตีเป็นประเด็นข่าว ?
ไฮโซปั๊บ : ผมเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นได้รับผลประโยชน์ครับ
ถ้ามีคนมาขุดประเด็นขึ้นมาอีก คุณจะทำยังไง ?
ไฮโซปั๊บ : จริง ๆ มันจบไปแล้ว ถ้ามีการขุดประเด็นขึ้นมา ผมคิดว่าเขาต้องการผลประโยชน์อะไรสักอย่างจากตรงนี้ และคิดว่าทางตำรวจมีข้อมูลของผมทุกอย่างอยู่แล้ว ทุกอย่างจบไปแล้ว