หลังจาก เจ็ง วิไลลักษณ์ ภรรยา พีท ทองเจือ ได้เผยภาพลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ได้ไปถ่ายรูปกับ 3 หนุ่ม เติร์ด ปอร์เช่ และแจ๊คกี้ จาก 9x9 อย่างใกล้ชิด แต่เกิด #ดราม่าลูกดารา เมื่อแฟนคลับหลายคนไม่พอใจ เข้าไปคอมเมนต์แขวะว่าเป็นการโกง เป็นแฟนคลับเหมือนกัน แต่กลับใช้อภิสิทธิ์ความเป็นลูกดารา จนได้ใกล้ชิดมากกว่าคนอื่น ๆ
ล่าสุด พีท ได้ควงภรรยา เจ็ง มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ นุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร
จุดเริ่มต้นของดราม่าคืออะไร ?
เจ็ง : จริง ๆ ดราม่าเรื่องนี้มีมาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่อยากเอามันมาเป็นเรื่อง เพราะว่าเขาไปว่าในพื้นที่ส่วนตัวของเขา คำด่าที่หยาบ ๆ คาย ๆ ก็มี แต่เราก็อธิบายให้ลูกฟังว่าช่างมัน มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ลูกก็เข้าใจนะคะ แต่ครั้งนี้ที่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างเพราะว่าเขาเริ่มล่วงล้ำในพื้นที่ของลูก มาเมนต์ว่าในไอจีลูก แล้วมี DM มาด้วย แล้วเจ็งมีรหัสของลูกทุกคน เราห้ามลูกไม่ให้เล่นโซเชียลไม่ได้ แต่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็คือพอเข้าไปอ่านปุ๊บเราก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ แล้ว อย่างคำว่า การที่พ่อแม่ทำแบบนี้คือการให้ท้ายลูก
พีท : ซึ่งอันนี้ลูกไม่ตอบ แต่พี่ตอบเอง ก็บอกว่า แฝงตัวมาต้องการอะไร เขาก็ตกใจ พี่บอกว่าคำว่าให้ท้ายมันไม่โอเคนะ ฟังดูไม่เป็นมิตร เราไม่พูดคำว่าให้ท้ายกับคนที่เรารู้สึกดีด้วย เพราะฉะนั้นต้องการอะไร ประมาณนี้
เหตุผลที่เกิดดราม่าหนัก ๆ มันเกิดจากอะไร ?
เจ็ง : ครั้งนี้ที่เจ็งออกมา มันเกิดการเอาไปว่าก็คือรูปไอจีล่าสุดที่น้องมิย่าลง แล้วตัวเจ็งเองก็แค่อยากลงขำ ๆ ว่าลูกสาวขาเดี้ยงอยู่ แล้วลูกเพิ่งรู้ว่าศิลปินกลุ่มนี้ไปด้วย เขาก็แบบดีใจมาก จากที่ต้องใช้ไม้เท้าก็วิ่งได้เลย แล้วเพื่อนพี่พีทก็เป็นคนจัดงาน ก็ไปสวัสดีผู้ใหญ่และบอกว่าหลานชอบศิลปิน ขอถ่ายรูปได้ไหม หลานจะเรียกว่าคุณปู่ ซึ่งคนถ่ายเยอะมาก แต่ลูกก็ยืนรอจนได้ถ่ายคนสุดท้าย ซึ่งคุณปู่ก็อนุญาต ผู้จ้างงานก็อนุญาต เราก็เลยถ่าย ทีนี้น้องก็เลยเอามาลง เลยกลายเป็นกระแสดราม่าโกงบ้าง งานปิดโกงได้ยังไง แล้วแอบถ่ายรูปแบบใช้อภิสิทธิ์ลูกดารา เจ็งว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งถ้าท้าวความจริง ๆ น้องเซย่า กับน้องมิย่า ชอบศิลปินคนนึงในนั้น ชื่อน้องเติร์ด ตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ค่ายเก่า แล้วที่มาตาม 9x9 ก็เพราะว่าศิลปินที่เขาชอบอยู่ในนั้น
น้องชอบขนาดไหน เวลามีคอนเสิร์ตตามไปทุกงานเลยไหม ?
เจ็ง : เกือบทุกงาน ถ้างานไหนที่น้องไม่ติดงาน ไม่ติดเรียน เขาก็จะขอให้คุณแม่พาไป ซึ่งถ้าเจ็งไม่ติดอะไรเจ็งก็พาไป ซึ่งเขาก็ตื่นเช้าไปกดบัตรคอนเสิร์ตเหมือนกับคนอื่นเหมือนกัน
เห็นว่ามีคนมาพูดต่อหน้าด้วย ?
เจ็ง : ใช่ ตอนงานคอนเสิร์ตคนก็เยอะ ระหว่างรอเข้างานก็มีน้อง ๆ ที่รู้จักน้องก็มายืนขอถ่ายรูป เขาก็ยืนแล้วทุกคนก็มารุมขอถ่ายรูป แล้วก็จะมีเด็กกลุ่มหนึ่งเดินมาเห็นน้องเซย่า แล้วก็หันหน้ามาบอกว่า อ่อ อีนี่เหรอ ซึ่งเราเป็นแม่ ถ้าจะมองว่าเจ็งใจร้อน หรือเจ็งหาเรื่องวันนั้นคงจะมีเรื่องไปแล้ว แต่เราพยายามช่างมัน คือเราต้องกลั้นใจมากเลยนะที่มีคนมาเรียกลูกเราแบบนั้น ตอนนั้นคิดในใจโชคดีมากพี่พีทไม่มา เพราะเขาจะใจร้อนมาก ยิ่งกับลูกไม่ได้เลย ถ้าพี่พีทมาวันนั้นได้ขึ้นหน้า 1 แน่ ๆ
เรื่องไอจีคุณเจ็งเป็นคนเขียนเอง ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
เจ็ง : จริง ๆ เจ็งไม่ได้ท้า แต่เจ็งต้องการจะสื่อสารว่าจะข้องใจ ติดใจอะไรอย่า DM ไปหาน้อง มาหาคุณแม่นี่ คุณแม่พูดเอง อธิบายเองได้หมด แล้วเด็กหลาย ๆ คนก็ DM มาหาเจ็งแล้วก็ขอโทษ เจ็งก็อธิบายให้เขาฟังว่าทำไม เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาก็บอกว่าขอโทษ เข้าใจแล้ว แต่ก็มี 3-4 คนที่ไม่เข้าใจที่ตอบโต้กันในคอมเมนต์ ซึ่งเจ็งจะบอกว่าเจ็งขอบคุณทุกคนที่รักครอบครัวเราและเป็นกำลังใจให้ ช่วยไปด่าไปตอบโต้ให้ ซึ่งเจ็งสงสาร เจ็งเลยซ่อนโพสต์อันนั้นไปแล้ว
แล้วน้องวางตัวยากไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ?
พีท : พี่ขอบอกก่อนเลยว่าชื่อเสียงผม ถ้าเอาในแง่ลบก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ผมผ่านมาเยอะ ได้หมดทุกรูปแบบ แต่ถ้าเปลี่ยนพาร์ตเป็นหัวหน้าครอบครัวเราก็ทำให้ดีเต็มที่ ที่ก่อนนี้ประวัติไม่ต้องสืบเราได้หมด แต่ประเด็นสิ่งที่เกิดขึ้นผมถือว่าผมต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่ใช้คำว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับน้อง เป็นการทำให้ลูกผมมีวัคซีนให้ลูกผมแข็งแรงขึ้น และเร็วขึ้น ในสังคมถ้าไม่รู้จักเอาตัวรอดมันจะยากมาก
ลูกถึงขั้นบอกว่าไม่ต้องไปดูคอนเสิร์ตเพราะกลัวเขามาว่าอีก ?
เจ็ง : ใช่ ในไม่กี่วันนี้ก็จะมีงานของศิลปินอีก เจ็งก็แกล้งถามว่าหนูไปไหม เดี๋ยวมามี้พาไป เขาก็บอกว่าไม่ไปแล้วดีกว่าเดี๋ยวมีปัญหาอีก ซึ่งไม่ใช่ว่าเขากลัวนะ แต่ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ และลำบากใจเพราะเรื่องของเขา
