สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟน ๆ ไม่น้อย สำหรับ มิน พีชญา ที่ได้ไปร่วมงานและเดินพรมแดงงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ไปในฐานะนางเอกภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากจีน ซึ่งเป็นการร่วมทุนสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท เรื่อง Double Action Mission Legend Siam แต่ก็มิวายโดนดราม่าเข้าจนได้ หลังมีคนตั้งข้อสงสัยว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนั้น ไม่มีรายชื่อฉายและเข้าชิงรางวัลที่เมืองคานส์ จนถูกมองว่ามีการจ่ายเงินเพื่อให้ได้ไปเดิน อีกทั้งเจ้าตัวยังถูกเหน็บแรงว่าเป็น นางเอกพรมแดงกำมะลอ อีกด้วย
ล่าสุด (6 มิถุนายน 2562) สาวมิน ก็ได้ออกมาเคลียร์ใจถึงเรื่องนี้ว่า งานในวันนั้นตนตื่นเต้นและสนุกมาก ๆ หลายคนบอกเซอร์ไพรส์ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บอกใครเหมือนกัน ก็ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นาน ส่วนเรื่องชุดก็ไปฟิตติ้งหน้างานเลยก็เพราะวันสุดท้ายก่อนไป ยังถ่ายละครอยู่เลย ถ่ายเสร็จก็ไปขึ้นเครื่อง ชุดทั้งหมดมีทีมงานช่วยเลือกให้ ว้าวเหมือนกัน เพราะทุกแบรนด์ที่ใส่เหมือนให้เกียรติเรามาก ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ได้รับการตอบรับจากแต่ละแบรนด์เป็นอย่างดี
ตนมองว่าไปครั้งแรกก็มองเป็นโอกาสดี ๆ ที่ตัดสินใจที่จะทำ อย่างตอนเดินมีเกร็งจนเลิกเกร็งไป วันแรกตื่นเต้นมาก ๆ ก่อนไปถึงงานต้องต่อแถวยาว เพื่อขึ้นรถลีมูซีน ก็ทำเต็มที่ เราเป็นคนไทยก็อยากให้คนไทยเห็นอะไรที่ได้ภูมิใจ ได้เจอพี่ปู ไปรยา กอดกันเลย ดีใจมากเพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว ส่วนพี่ชมพู่ อารยา ก็มีจังหวะได้เจอกันแว้บเดียว ส่วนตัวรู้สึกอุ่นใจเวลาเจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ คนไทย
ส่วนเรื่องดราม่านั้น ตนได้เห็นดราม่าไม่มาก เพราะเมื่อเสร็จงานหนึ่ง ก็ต้องเดินต่ออีกงานหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะรวม ๆ แล้วก็ดี และคนที่ดราม่าบอกว่าหนังจีนร่วมทุนเรื่องที่เราแสดง ไม่ได้มีรายชื่อฉายที่เมืองคานส์ แล้วมินไปเดินในฐานะอะไร คือ เอเจนซี่ที่เขาดูแลหนังจีนของเราได้ติดต่อมา มีการทบทวนว่ายังไงดี แต่พอเราตัดสินใจที่จะทำก็ต้องทำให้ได้ดี ตอนแรกยอมรับกังวล ด้วยความที่รู้สึกว่าหนังยังตัดไม่เสร็จเลย แต่ในเมื่อผู้ใหญ่พูดแล้ว เราเป็นเด็กและเป็นนักแสดงก็ต้องเต็มที่ ซึ่งทางผู้ใหญ่ตั้งใจให้เรานำหนังไปโปรโมต เพราะเขามีแพลนอยากให้เล่นเรื่องต่อไป ทั้งเอเจนซี่ และค่ายหนัง อันนี้ก็ไปเหมือนอยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น
สาวมิน ยังพูดถึงคนที่มองเธอว่าเป็น นางเอกพรมแดงกำมะลอ ว่า ตนคิดว่าไม่มีหรอก ส่วนที่คนเมาท์ว่าออกเงินไปเอง จริง ๆ ก็คือทางหนังออกให้ สำหรับดราม่านี้ ตนไม่ได้คิดอะไร และตนรู้สึกว่าตนได้รับหน้าที่ให้ทำอะไรตนก็ทำตรงนั้น มันคือหน้าที่ของเรา ที่เหลือมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ เพราะรู้สึกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ มันดี และเรามีกำลังใจ และหากในปีหน้า ถ้าเราได้ไปอีก ก็ดีใจค่ะ คิดว่าเราก็ต้องทำการบ้านให้ดีขึ้น สำหรับตนก็รอโอกาสอย่างเดียว
งานนี้เจ้าตัวยังได้เผยถึงแพลนกำหนดฉายของหนังซึ่งคาดว่าน่าจะได้ดูกันประมาณสิงหาคม ในประเทศจีน แต่ไม่มีในไทย ซึ่งต้องเดินทางไปโปรโมตที่จีนด้วย และตั้งแต่เสร็จงานคานส์ ทางประเทศจีนก็แฮปปี้ เอเจนซี่ก็แฮปปี้ ตอนนี้มีคุยไว้ก็คือ จะมีภาพยนตร์ อีก 2 เรื่อง ถ้าไปก็อาจจะใช้ระยะเวลาเป็นเดือนเหมือนกัน ต้องดูทางผู้จัดการ ส่วนตัวเราพร้อมโกอินเตอร์ ถามว่าคาดหวังกับงานที่จีนไหม ก็เป็นเรื่องของทีมว่าทีมวางไว้ยังไงอะไรที่เหมาะกับเรา เราก็พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองและเติบโตอยู่แล้ว จริง ๆ ตนรักประเทศไทย แต่ว่าก็อยู่ที่โอกาส กลับมาก็กินส้มตำปลาร้าเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
NineEntertain