คบหากันได้เกือบ 1 ปี แล้ว สำหรับคู่รักสุดหวานอย่าง กัน นภัทร และ มารี เบรินเนอร์ ที่ทั้งคู่มีฉายาว่า "คู่หวานน้ำตาลท่วมช่อง" ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นฉายาที่ไม่โอเว่อร์เกินไป เพราะไม่ว่าจะทำอะไร โลกของทั้งคู่ก็ดูจะเป็นสีชมพูไปซะหมด
และล่าสุด (28 กุมภาพันธ์ 2563) กัน มารี ก็ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวความรักผ่านทางรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่ทั้งคู่ได้ออกมาเผยโมเมนต์สุดโรแมนติกในวาเลนไทน์ปีแรก พร้อมจัดหนักของขวัญเซอร์ไพรส์ราคาเฉียดแสน แถมเปรยเคยคุยเรื่องสร้างครอบครัวในอนาคตด้วยกันแล้ว !!
ถูกยกให้เป็นคู่หวานคู่ใหม่ของวงการ หวานยังไง ?
กัน : น่าจะเป็นเพราะว่าเราแตกต่างกันมาก เป็นศิลปินดาราทั้งคู่ พอมาคบกันคนอาจจะมองว่าเป็นไปได้เหรอ อีกคนหนุ่มสุพรรณไทยจ๋า อีกคนสาวเยอรมันลูกครึ่ง แต่พอได้มาคุยมาคบกัน เขาคงเห็นเคมีบางอย่างที่มันน่ารัก ได้ฉายาด้วย “คู่หวานน้ำตาลท่วมช่อง”
หนุ่มสุพรรณเดินหน้าจีบสาวเยอรมันยังไง ?
มารี : พื้น ๆ เลยค่ะ ไดเรกต์เมสเสจ
กัน : เล่นละครลูกกรุงเป็นพระเอกนางเอกด้วยกัน เล่นไปประมาณค่อน ๆ เรื่องแล้ว ก็เริ่มทักไปในไอจี
ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเมื่อไหร่ ?
กัน : ไม่ได้มีสเปก ไม่ได้คิดว่าจะไปเอื้อมจีบสาวลูกครึ่งขนาดนั้น จะคุยกันรู้เรื่องไหม แต่พอช่วงหลัง ๆ ที่เขาโสดแล้ว เราก็ยังถ่ายละครอยู่ด้วยกัน
โสดนานเท่าไหร่ ?
มารี : ก็สักพัก หลายเดือนอยู่ ก็ไม่ได้บอกใคร
รู้ได้ไงว่าเขาโสด ?
กัน : ในกองคุยกัน พอรู้ว่าโสดก็กล้าคุยมากกว่าเดิม กล้าส่งไดเรกต์เมสเสจมากขึ้น
ส่ง DM ไปหาเขาว่าอะไรบ้าง ?
กัน : ก็ทักเขาบ้าง บางทีเขาฟิตเนสต่อยมวยอยู่ก็ถามว่าเหนื่อยไหม
ส่งเมสเสจไปเรื่อย ๆ จนได้มาคุยกันจริง ๆ แล้วจับมือกันครั้งแรกวันไหน ?
กัน : จับมือที่เป็นตัวผมกับตัวเขาจริง ๆ คือดูหนังรอบสอง
มารีคือสายรุกเหรอ คืออะไร ?
กัน : คือถ้าเราเข้าไปจีบเขาฝ่ายเดียว แล้วอีกฝ่ายไม่ได้โต้ตอบก็คงไม่กล้าที่จะสานต่อ สมมุติเราไป 5 เขามา 10 เราไป 15 เขามา 20
แสดงว่ามารีก็เริ่มมีใจ ?
มารี : ก็ดูรู้ว่าเหมือนเขามาทางจีบแล้วก็เลยเปิดโอกาสเต็มที่
อย่างงี้ถือว่าเป็นสเปกไหม ?
มารี : ไม่ได้มีสเปกอยู่แล้ว ชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
เปิดโอกาสเต็มที่คือยังไง ?
มารี : ก็คือดูหนังเรื่องแรกจบเราก็กลับไปคุยโทรศัพท์กัน ช่วงหวาน ๆ ก็คุยโทรศัพท์ก่อนนอนทุกคืน เขาก็บอกว่าดูหนังดูเกร็ง ๆ นะ ไม่คุยอะไรกันเลย ไม่มองหน้ากัน ก็เลยบอกว่า “ก็รอให้จับมืออยู่นะ”
กัน : ผู้หญิงที่ไหนจะบอกว่าก็รอให้จับมืออยู่นะ (หัวเราะ)
มาเป็นแฟนกันปีที่แล้ว วันที่ 3 เดือนมีนาคม ทำไมถึงเลือกวันนั้น ?
มารี : คือเขาพูดขึ้นมาแบบผ่าน ๆ ว่าเราน่าจะเป็นแฟนกันเลยเนอะ นั่งกันอยู่ในรถกำลังจะกลับบ้าน แล้วเราเห็นนาฬิกามันเป็นวันที่ 3 เดือน 3 พอดี
จะครบรอบ 1 ปีแล้ว วางแผนไว้แล้วหรือยัง ?
กัน : ทำงานทั้งวันเลย ก็คาดหวังว่ากลับบ้านไปจะเจอลูกโป่งลอยเต็ม
วาเลนไทน์ปีแรกที่ผ่านมาเป็นยังไง ให้อะไรกัน ?
มารี : เรามีนัดกันก่อนวันวาเลนไทน์ เพราะเราถ่าย Vlog กัน เราจะปล่อย Vlog ในวันวาเลนไทน์ ก็เลยบอกว่างั้นวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ของเรานะ
กัน : ก็ไปทำกิจกรรมกันวันนึง ไปเดินช้อปปิ้ง ไปเดินซื้อของ
มารี : เราก็ไปซื้อกระถางต้นไม้ให้เขา เพราะเขาชอบกระบองเพชรมาก ก็เลยซื้อกระถางสวย ๆ หลาย ๆ ใบให้
ตอนเขาได้กระถางจากเรา เขาทำหน้ายังไง ?
มารี : เขาดีใจมาก
นั่นคือสิ่งที่อยากได้จริง ๆ ?
กัน : อยากได้ อะไรที่เขาให้ก็ชอบหมด แต่ตอนนั้นเขารู้ใจว่าเราชอบปลูกกระบองเพชรอยู่ แล้วก็มีบางต้นต้องการกระถางไปอยู่ใหม่ เขาก็เลยเลือกกระถางสวย ๆ มาให้เราใส่
ฝ่ายชายซื้ออะไรให้ในวันวาเลนไทน์ ?
กัน : ซื้อกำไลให้เกือบ ๆ แสน
ผู้ชายซื้อกำไลเกือบแสน ผู้หญิงซื้อกระถาง 400 ?
กัน : เขาแก้ตัวในวันจริง
พอวันจริงเราแก้ตัวเป็นอะไร ?
มารี : พาเขาไปซื้อกระบองเพชร
กัน : เขาเรียกว่ายิมโน ยิมโนจะมีพันธ์ุที่มีสีสวย ๆ ถ้าเกิดว่ามันด่างทุกพูมันจะราคาแพงมาก ส่วนมากประกวดได้รางวัลแน่ ๆ เขาก็รู้ว่าเราชอบส่องกระบองเพชร รู้ว่าเราชอบต้นไหน เขาก็เลยพาไปซื้อที่ร้านร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่สวยที่สุดในการปลูกพันธุ์นี้
เท่าไหร่ ?
มารี : 1 แสนบาทค่ะ
กัน : ชอบต้นนี้มากเพราะมีความสีชมพูอยู่ เหมาะกับวันที่เลือก วันวาเลนไทน์ ไม้พวกนี้มันจะไม่มีชื่อ เราสามารถตั้งชื่อเองได้ ผมตั้งชื่อว่าวาเลนไทน์ เพราะมันเป็นต้นที่ได้วันวาเลนไทน์ด้วย แล้วก็มีสีชมพูด้วย
แต่ถ้าดูแลไม่ดีก็มีโอกาสตายถูกไหม ?
มารี : คือสิ่งที่เราซื้อให้เขามันเป็นสิ่งมีชีวิต แต่สิ่งที่เขาซื้อให้เรามันไม่มีวันตาย แล้วตอนนี้กระบองเพชรวาเลนไทน์ของคุณเป็นยังไงบ้างลองเล่าซิ
กัน : ใจผมก็อยากเอามาโชว์ แต่ว่าเอามาไม่ได้เพราะว่ามันเกือบตายแล้ว
เกิดอะไรขึ้น ?
กัน : คือก็เอาต้นที่ได้ไปใส่ที่โรงเรือน ซึ่งก็จะมีโรงเรือนเล็ก ๆ เอาไว้ที่บ้านมารีอีกหลังหนึ่ง ผ่านไปอาทิตย์นึงก็บอกมารีรดน้ำให้หน่อย คือต้นอื่น ๆ เราเพิ่งรดไป แต่ว่าต้นนี้เราไม่รู้ว่าผ่านการรดมานานหรือยัง
มารี : เพราะว่าเราเพิ่งซื้อมา เราไม่รู้ว่าคนเลี้ยงเขารดมาหรือยัง
กัน : แล้วก็แปลกสถานที่ จากที่อยู่อีกที่หนึ่งมาแล้วมาอยู่ที่ใหม่ กลับไปอาทิตย์นึงไปเจอ ฝั่งหนึ่งที่โดนแดดจัด ๆ ไหม้แบบคนละสีกันเลย ไหม้เหมือนตายเลย นั่งน้ำตาซึม แต่คนนี้น่ารักมาก เขาช่วยเอาดินใส่กระถาง เขาก็ไม่ชอบทำอะไรแบบนี้
คบกันมาได้เกือบปีชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม ?
มารี : จริงๆ เยอะ คนจับตามองเยอะ ทุกคนก็จะแซว ทุกคนก็จะถามถึงตลอด
กัน : เปลี่ยนเยอะ รู้สึกว่าเราได้เรียนรู้กันมากขึ้น ด้วยขนบต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน เราก็ไทยจ๋าสุพรรณมาเลย เขาก็ฝรั่ง ขนบบางอย่างมันจะไม่เหมือนกัน แต่พอมาเจอตรงกลางเราได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากเขามา เรื่องความมั่นใจต่าง ๆ ในชีวิตเรา คือเมื่อก่อนเราจะไม่มั่นใจในบางเรื่อง
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเลย ต่างคนต่างทำงานเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว พร้อมที่จะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วจริงไหม ?
กัน : ก็ต้องสะสมไปเรื่อย ๆ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง บางทีเราอาจะต้องฉุกเฉินเรื่องเจ็บป่วยในอนาคต อาจจะเป็นเราหรือเป็นคนในครอบครัวก็ตาม ต้องพร้อมดูแลเขา เรื่องอนาคตของเราสองคนก็มีคิด ๆ ไว้เหมือนกัน
เคยคุยกันไหม ?
กัน : เคยคุยกันแรก ๆ แต่หลัง ๆ พอทะเลาะกันบ่อย ๆ ไม่ค่อยคุยแล้ว (ยิ้ม)
ทะเลาะกันบ่อยเหรอ ทะเลาะกันเรื่องอะไร ?
มารี : ก็มีบ้าง แรก ๆ มันจะเป็นเหมือนฮันนีมูนเฟสมากกว่า หลัง ๆ ก็คุยกันด้วยเหตุผลมากขึ้น ดูเรื่องสถานการณ์ว่าทุกวันนี้เราคบกันเป็นยังไงบ้าง เหมือนตอนนี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร เรื่องของความพร้อมยังไม่ได้พร้อมด้วยกันทั้งคู่ด้วย
ครั้งแรกตอนเจอพ่อของมารีประหม่าไหม เพราะว่าเขามาอังกฤษเลย ?
กัน : ประหม่ามาก เพราะเขาเป็นคนต่างชาติด้วย แล้วจะคุยกันยังไงให้รู้เรื่อง มารีบอกว่าเค้าสปีกไทยพอได้ ผมก็อุ่นใจ
ตอนเจอครั้งแรก ?
กัน : เขาน่ารักมาก เขาไม่พูดภาษาอังกฤษกับผมเลย หลายคนคิดว่าคุยกับพ่อแล้วผมจะเก่งอังกฤษมากขึ้น เปล่า !! พ่อเก่งไทยขึ้น
พ่อพยายามจะปรับเข้าหา ?
มารี : ใช่ คือเขาน่ารักกันมากเลยตรงที่ว่าแฟนเราพูดภาษาไทย พ่อเราพูดภาษาอังกฤษกับเยอรมัน มันกลับกลายเป็นว่า 2 คนนี้เขาคุยกันเยอะมาก แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง คุยกันคนละภาษา แต่เขาพยายาม
กัน : เวลาเจอท่าน ท่านจะน่ารัก อยู่ด้วยแล้วเย็น สบาย เขาชอบดูละคร เขาก็จะชอบข้าวนอกนา เป็นหนังที่เขาชอบ แล้วเขาก็ชอบเที่ยวต่างจังหวัด เคยพาไปสุพรรณบุรีครั้งนึง ไปทานข้าวกัน
พี่เขาพาเราไปสุพรรณบุรีบ่อยไหม ?
มารี : รวม ๆ ก็บ่อยค่ะ กับที่บ้านก็สนิทขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ เป็นคนไม่ค่อยคุยอะไรมากเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่พอเจอเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับสบายใจ
กัน : หลัง ๆ เริ่มหายไปคุยกับแม่สองคน
พ่อแม่พูดอะไรถึงน้องบ้าง ?
กัน : เขาก็บอกว่าเป็นคนน่ารักดีนะ คือรู้ว่ารักลูกเราจริง ๆ ดูแล้วส่งเสริมกันดี เป็นห่วงแค่เรื่องแบบว่าไม่อยากให้ทะเลาะกันบ่อย
ทะเลาะอะไรกันบ่อย ทะเลาะใหญ่หรือทะเลาะเล็ก ?
มารี : มีทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ เรื่องเล็กก็เหมือนแบบเขาเล่นมือถือตลอดเวลา ถามอะไรก็ไม่ตอบ เพราะเล่นมือถือ อยู่ตรงหน้ากันควรจะใช้เวลาด้วยกัน
แล้วเรื่องใหญ่ ?
กัน : หึงหวง
สมัยก่อนคุณหวงน้องไหม ?
กัน : หวงครับ แรก ๆ พอเขาถ่ายละครมีฉากเลิฟซีนกับคนนั้นคนนี้ ก็จะมีแบบ ที่รัก มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ ก็มีบ้าง แต่หลัง ๆ มานี่เข้าใจละ รู้ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางนอกใจเรา
ตอนนี้กันไม่หึงหวงแล้ว แต่มารีกลับมาหึงหวงกันแทน ?
มารี : มีบ้าง ตอนนี้ก็เชื่อใจ ถ้าไม่ทำอะไรให้สงสัย