
ภาพจาก Instagram wiphakorn15

ซึ่งข้อความนี้ทำเอา กานต์ วิภากร ถึงกับปรี๊ดลั่นขึ้นมึง-กู ว่า "มึงเคยเป็นลูกกู", "กูกับมึงเป็นศัตรูกัน" เลยทีเดียว โดยกานต์ได้โพสต์ข้อความโต้ตอบว่า "ต้องการเล่นกับกูเองนะ กูเอามาแชร์ให้จะได้ให้ชาวบ้านเค้ารู้กันไปเลยว่ามึงทำร้ายอะไรกูยังไง
มึงเคยเป็นลูกกู กูเคยให้ทุกสิ่งทุกอย่าง มึง เรื่องเก่าที่คิดว่าเป็นเรื่องจริงที่มึงพูดหรือหมายถึงก็คือ เรื่องเงินของกูไง มึงเอาเงินของกูคืนมาสิ แล้วกูจะถอนฟ้องทั้งหมดรวมถึงครอบครัว ไฮโซสร้างโปรไฟล์หลอกมึงหมดไปเท่าไหร่แล้วล่ะ
ที่ศาลถามแล้วมึงบอกศาลว่าเดี๋ยวขอไปนับก่อนว่าเงินเหลือเท่าไหร่ เงินของกู เอาคืนกูมาถ้าคิดว่าจะเป็นลูกผู้ชายจริง นี่คือเรื่องเก่าที่กูพูดแล้วพูดอีกจนเป็นนิทาน และคิดว่าเป็นเรื่องจริงเพราะเงินนั่นมันเงินของกูจริง ๆ มันก็เลยต้องเป็นเรื่องจริง
คนอย่างมึงอะถ้ากูจะทำกูทำไปนานแล้ว ที่ผ่านมากูให้โอกาสสำนึกผิดมาขอขมาเพื่ออนาคตของตัวมึงเองแต่ตอนนี้กูกับมึงตัดขาดกันนับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และผัวของกูก็ไม่เกี่ยวอะไรกับมึงเหมือนกัน มึงกล้าพูดกับผัวกูว่าให้ศาลตัดสิน กูจะเอาโพสต์นี้แหละที่มึงโพสต์ได้ถ่อยขนาดนี้และให้อีพวกเปรตปลิง ทำร้ายด่าแม่ ลามปามพ่อตัวเองอย่างสะใจ โดยที่มึงไม่คิดอะไรเลย ไม่สนใจ มีความสุข บาปกรรมหนักมาก
ถ้าเป็นคนอื่นใครแตะพ่อแม่เค้าโดนกระทืบไปนานละ มีแต่พวกมึงที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านและทุกคนฝ่ายมึง ด่าแม่มึงทุกวัน มึงเป็นคนหรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน !!
เสียดายส่งเสียไปถึงเมืองนอกเมืองนาเรียนชั้นสูงหมดเงินไปหลายสิบล้าน แต่ที่ได้กลับมาคือความโง่งมและต่ำตม "กูกับมึงเป็นศัตรูกัน กูจะไม่สงสารมึงอีกแล้ว มึงจะเล่นทางโซเชียลมาเลย แล้วมึงจะรู้ว่านรกมีจริง"
แต่สำหรับคนที่คิดต่าง แค่อยากจะด่าอยากจะสะใจ
มึงไปไกลตีนเลย กูรำคาญไม่ต้องมายุ่งในพื้นที่กูไม่ต้อนรับ !!"

ภาพจาก Instagram wiphakorn15
หลังจากนั้น กานต์ ก็โพสต์ข้อความร่ายยาวเป็นข้อ ๆ เกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าอยากจะให้ทุกคนได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตัดขาดลูก
"1. ทรัพย์สินทุกอย่างบ้านสามสี่หลังเป็นชื่อเค้า และตอนที่ตกลงกันตอนมีเรื่องใหม่ใหม่เค้าตกลงที่จะเซ็นคืนทุกอย่างรวมถึงเงินสด แต่เค้าไม่คืนหรอกซึ่งไม่เข้าใจว่านิสัยนี้เกิดขึ้นได้ยังไง
- บ้านสามสี่หลังนี้รวมกันก็ได้ประมาณร้อยล้านได้
2. ทำไมต้องไม่คืนไม่โอนคืนบ้านเงินสดในธนาคารก็บอกจะคืนก็ไม่คืน
3. เงินบิตคอยน์ก็โอนคืนให้ไม่ครบขาดอีก 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินของเราคนเดียวในการลงทุนเพื่อหารายได้เข้ามาดูแลครอบครัวเพราะช่วงนั้นโควิดเรารับคอนเสิร์ตไม่ได้
4. และยังมีโฉนดที่ดินอีก 10 กว่าฉบับเป็นชื่อของเค้าทั้งหมด โฉนดที่ดินเหล่านั้นมีมูลค่าเยอะมาก และตอนนี้เราทำอะไรกับโฉนดที่ดินนั้นไม่ได้เลย
5. ความผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดจากเค้าแต่เค้ามาโทษเราคนเดียวว่าเราทำพลาดและเลอะเทอะคนเดียว
6. ยังมีคดีความที่ตำรวจเรียกสอบมูลค่าทรัพย์สินของเรา 15.8 ล้านบาท ตำรวจเรียกสอบเพิ่มแต่เค้าไม่ทำเราเลย เลยให้เค้าเซ็นมอบอำนาจให้ทนายไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ แต่เค้าไม่ยอมเซ็น คือจะทิ้งเราไว้กลางทางโดยไม่สนใจแม้กระทั่งทรัพย์สินที่เสียไปจะทำลายคดีนี้ได้ยังไงใจร้ายที่สุด
7. เราไม่อยากจะแฉเพราะมันก็เป็นเรื่องเซนซิทีฟมาก แต่ตอนนี้เค้าไม่เกี่ยวกับครอบครัวเราแล้วเราเลยจะบอกความจริงให้ทุกคนฟังว่าอะไรบ้างที่เค้าทำร้ายครอบครัวเรา
8. เด็กคนที่เป็นผู้หญิงเรียกเราว่าอีหลอนอีเหี้ยต่อหน้าสามีเรา บาปมหันต์
9. ยังไม่พอเมื่อสองวันที่แล้ว มือที่สามที่คอยโทร. มาหาสามีเราอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดโทร. มาบอกว่าเด็กผู้หญิงเค้าบอกว่า "ผิดหวังในตัวสามีเรา"
กูอยากจะถามมึงผิดหวังเรื่องเ_ยอะไร เรื่องจั_ไรมีแต่พวกมึงอะทำ พวกกูทำงานหนักหาเงินงก ๆ เพื่อดูแลทุกคน พวกมึงก็เอาแต่เสวยสุขเอาของทุกสิ่งทุกอย่างของกูไป ศาลบอกให้คืนพวกมึงรีบออกจากศาลเลยไม่ยอมคืน และเด็กผู้ชายยังพูดอีกว่าพูดกับสามีเราว่า "ให้ศาลตัดสิน"
งั้นก็ไม่ต้องโทร. มาอีกแล้วนะ รอศาลตัดสิน รอเจ้าหน้าที่ตำรวจรับตัวส่งอัยการ หลายคดีจังนะเด็ก ๆ
10. กูเคยเป็นแม่ที่ดีกูไม่ใช่คนดีในสายตาคนอื่น กูเป็นคนเลว แต่กูเคยเป็นแม่ที่ดี และตอนนี้กูก็ยังเป็นแม่ที่ดีกับลูกของกู ที่อยู่กับกูอยู่ตอนนี้คือลอนดอน กูจะไม่ทำผิดพลาดกับลอนดอนอีกเป็นเด็ดขาด เค้าคือหัวใจของกู ! ส่วนพวกมึงเตรียมตัวคืนทรัพย์สินเงินสดและทุกอย่างคืนกูเร็วเร็วนี้และเตรียมตัวเดินเรียงเข้าไปในคุกแยกหญิงชายนะบอกก่อน เมื่อสอนแล้วให้อภัยแล้วทำอะไรให้ดีแล้วถูกต้องแล้ว แต่กลับโง่สัมผัสไม่ได้ก็ต้องรับกรรมของตัวเอง นี่คือการสั่งสอนลูก"

