โจอี้ ภูวศิษฐ์ นักร้อง 100 ล้านวิว ชีวิตพลิกทิ้งอาชีพครู ตามฝันนักร้อง เผยมูอะไรจนปัง

          เป็นนักร้องหนุ่มเสียงคุณภาพที่กำลังโด่งดังมากทีเดียว สำหรับ โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของเพลงฮิตติดหู ดวงเดือน ซึ่งปัจจุบันยอดวิว 170 ล้านครั้ง และเพลง นะหน้าทอง ที่ปล่อยออกมาได้ 3 เดือน ยอดวิวพุ่งกระฉูด 100 ล้านครั้งแล้ว
 

          ล่าสุด (18 กันยายน 2565) โจอี้ ภูวศิษฐ์ ไปร่วมพูดคุยให้สัมภาษณ์ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม เปิดใจเล่าชีวิตกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย รวมถึงอาชีพก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักร้อง หลายคนอาจไม่รู้ว่าเจ้าตัวเคยเป็นคุณครูมาก่อน ก่อนจะตัดสินใจทิ้งอาชีพครู เดินตามความฝันบนเส้นทางดนตรี
 

          สำหรับเพลง นะหน้าทอง ที่เพิ่งปล่อยออกมาได้ 3 เดือน กระแสตอบรับดีมาก ยอดวิว 100 ล้านครั้ง โจอี้ ภูวศิษฐ์ เผยความรู้สึกว่า ถือเป็นปรากฏการณ์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือชีวิตเราที่เปลี่ยนไป จากศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีผู้ติดตาม ไม่ค่อยมีชื่อเสียง พอเพลงดังก็เหมือนทุกอย่างพลิกไปเลย
 

          เมื่อก่อนเราไม่ได้เป็นที่รู้จัก ตอนนี้เพลง “นะหน้าทอง” ทำให้เป็นที่รู้จัก และมันเกินความคาดหมายไปมาก ทุกอย่างเร็วมากสำหรับเรา เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน กระทั่งตอนนี้มีคนต่างชาตินำเพลง นะหน้าทอง ไปคัฟเวอร์ด้วย มีทั้งจีน เกาหลี และประเทศอื่น ๆ

          สำหรับเพลง “นะหน้าทอง” ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนขอให้เราร้องเพลงนี้ แม้แต่ตอนไปสอบใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ก็ขอให้ร้องให้ฟังด้วย ส่วนคิวงานยาวไปจนถึงปีหน้าเลย
 

          หนูแหม่ม ถามว่าเพลงนี้เป็นสไตล์มูเตลู สายมูก็จะชอบกัน ก่อนจะถามว่าโจอี้เป็นสายมูด้วยหรือไม่ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นสายมูด้วยเหมือนกัน มีการเปลี่ยนชื่อตอนเข้าวงการแรก ๆ จากชื่อเดิม จักรกฤษ ขำจิต เปลี่ยนเป็น ภูวศิษฐ์ อนันต์พรศิริ โดยชื่อเก่าเขาบอกว่าเหมาะกับคนบวชเป็นพระ อยู่ในศาสนา และหลังจากเปลี่ยนแล้วชีวิตดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเราต้องลงมือทำด้วยควบคู่กัน
 

          นอกจากนี้ โจอี้ เผยว่าก่อนจะมาเป็นนักร้อง เคยเป็นครูฝึกสอนมาก่อน เด็ก ๆ จะชอบพูดว่าวัน ๆ  ไม่สอนเลย มีแต่นิทานให้ฟัง เพราะเราจะชอบให้เด็กทำกิจกรรมก่อนเรียน เด็ก ๆ ก็เลยชอบ ตอนนี้ขอเบรกอาชีพครูไว้ก่อนเพราะมาโฟกัสที่อาชีพร้องเพลงแล้ว เหมือนเป็นสิ่งที่เราถนัดที่สุดแล้ว คือ การร้องเพลง เราได้เป็นตัวเองจริง ๆ
 

          ตอนไปประกวดรายการเดอะ วอยซ์ แค่อยากออกทีวีให้ยายเห็น แต่พอไปรอบลึก ๆ รู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว เราสามารถไปต่อได้ แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหนเพราะหลังจบรายการเราไม่ได้เซ็นสัญญา แต่ได้เป็นแบ็กอัพให้พี่ป๊อบ ปองกูล พี่เขาช่วยเราไว้เยอะเลย ทำให้เราได้มีรายได้ในช่วงนั้น อยู่กับพี่ป๊อบประมาณ 2 ปีเลย พี่ป๊อบก็ให้เราได้โชว์ด้วย 4-5 เพลง ให้โอกาสเรา
 

          หลังจากเปลี่ยนอาชีพครูมาเป็นนักร้อง โชคดีที่ครอบครัวสนับสนุน ทุกวันนี้เขาภูมิใจกับเรามากแค่ไหนก็ไม่เคยถาม ตากับยายเขาดีใจกับเราอยู่แล้ว แต่แม่จะไม่ค่อยแสดงออก อย่างเพลง “ดวงเดือน” ที่มีความหมายเกี่ยวกับความคิดถึง เพลงนี้แต่งให้แม่และดวงเดือนก็เป็นชื่อของแม่ ก็เห็นว่าแม่เปิดฟังตลอดเลย