ภาพจาก Instagram mootono29
เป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ สำหรับ โตโน่ ภาคิน ที่ทำภารกิจ One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ว่ายข้ามแม่น้ำโขงเพื่อระดมทุนหาเงินสนับสนุน 2 โรงพยาบาลฝั่งไทยและฝั่งลาว
และถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านถึงเรื่องความปลอดภัย แต่เจ้าตัวก็ยืนยันจะทำต่อ และสามารถทำภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ท่ามกลางคำชื่นชมและกระแสดราม่า ทั้งนี้ มีรายงานว่า ยอดบริจาคนั้นสูงถึง 63 ล้านบาทแล้ว จนหลายคนยกให้เป็น วีรบุรุษแห่งแม่น้ำโขง
ล่าสุด (23 ตุลาคม 2565) หลังทำภารกิจสำเร็จ โต่โน่ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรกกับ วันบันเทิง ว่า ถึงจะถูกยกให้เป็นวีรบุรุษแห่งแม่น้ำโขง แต่ตนไม่ใช่วีรบุรุษ พร้อมยกความดีให้ทุกคนที่ร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือความศรัทธา การว่ายน้ำในครั้งนี้รู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนกับเรานำความรักจากฝั่งไทยไปฝั่งลาว แล้วฝั่งลาวก็มอบความรักกลับมาให้ฝั่งไทย
ทั้งนี้ โตโน่ ยังเผยถึงเรื่องการบริหารจัดการเงินบริจาคกว่า 60 ล้านบาทด้วยว่า เงินบริจาคทั้งหมดที่ได้มาจะไม่ได้มอบเป็นเงินให้โรงพยาบาลโดยตรง แต่จะนำไปจัดซื้อเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์และมอบให้กับโรงพยาบาลต่อไป เพื่อจะได้ไม่ต้องมีข้อสงสัยภายหลังว่าเงินบริจาคเอาไปทำอะไร
ทั้งนี้ ได้มีการปรึกษากับ ผอ.โรงพยาบาลนครพนมและท่าแขก แล้วว่าอาจจะมีการปรับสเปกเครื่องมือการแพทย์ให้ดีขึ้น ราคาสูงขึ้น หรือเพิ่มจำนวนอุปกรณ์การแพทย์ตามยอดบริจาคที่เพิ่มขึ้น อย่างบางตัวที่เล็ก ๆ ก็อาจจะเอาตัวใหญ่ ๆ ไปเลย
ส่วนความโปร่งใสของเงินนั้นก็ขอให้คนบริจาคสบายใจได้ เพราะการจัดการทุกอย่างจะเป็นทางมูลนิธิเทใจจัดการ จะมีใบ ต้องได้ราคาที่เป็นธรรมที่สุด และจะมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล มีคุณหมอมาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพราะอย่างที่บอกว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง โครงการนี้คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือคุณหมอและพยาบาลของทั้ง 2 ฝั่งโขง
ขอบคุณข้อมูลจาก วันบันเทิง






