โดยแม่ไอซ์เล่าย้อนกลับไปในวันที่กำลังจะคลอดว่า ไอซ์อยากคลอดธรรมชาติ ซึ่งลูกสาว น้องเลอา ก็เลือกวันเกิดเอง เพราะแม่มีเลือดออก จึงไปที่โรงพยาบาลตั้งแต่ตี 5 อยู่ที่นั่นถึงประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ จนรู้สึกว่าไม่ไหว คุณหมอมาบอกว่าลูกหนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม ก็คิดว่าไอซ์คลอดได้ แต่ก็แอบกลัว
เวลาผ่านไป 17 ชั่วโมง ปากมดลูกเปิดแค่ 2 เซนติเมตร ซึ่งไอซ์ไม่ได้เตรียมใจมาว่าจะเจ็บขนาดนี้ เพราะมีคนบอกว่าปัจจุบันคลอดลูกแบบบล็อกหลังจะไม่เจ็บ แต่การจะบล็อกหลังได้ปากมดลูกต้องเปิดประมาณ 4 เซนติเมตร จนไอซ์ทนไม่ไหวให้หมอผ่าเลย พร้อมเผยอีกว่า แผลผ่าตัดยังไม่เจ็บเท่านวดหน้าอกเพื่อให้มีน้ำนม
ตอนจะคลอดไอซ์รู้สึกตัวเย็น มีอาการหนาวสั่น คุณสามีก็พยายามช่วยปลอบให้ดีขึ้น ให้ใจเย็น ๆ ซึ่งก่อนที่ลูกจะออกมา เหมือนมีคน 3 คน ไปขย่มบนตัว ช่วยกันดึงขึ้น จากนั้นลูกก็ออกมา วินาทีนั้นเงียบไปแป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นได้ยินเสียงเด็กร้อง น้ำตาแม่ก็ไหลออกมา
แต่ตอนที่ปวดถึงขีดสุด ไอซ์ก็คิดขึ้นมาว่า เราทำอะไรอยู่ ทำไมเราต้องเจ็บขนาดนี้ ไม่ได้มีความแบบ "ลูกจ๋า" อะไรอย่างนี้เลย คิดว่าเพื่อใครนะ เพื่อคนนี้เหรอ เธอคือใคร แต่พอออกมาก็น้ำตาไหล กว่าที่จะมองหน้าลูกแล้วรู้สึกรัก มันไม่ใช่มองปุ๊บรักปั๊บ มองหน้าแล้วต้องทำความรู้จักนิดหนึ่ง ประมาณว่า "คนนี้ลูกฉันเหรอ เธอคือใคร จริงเหรอ หน้าเหมือนใครนะ" ซึ่งลูกก็มองหน้าไอซ์ตาแป๋วเหมือนกัน ลูกก็ต้องทำความรู้จักกับไอซ์ว่า "เธอจะมาเป็นแม่ฉันเหรอ"
ไอซ์ เล่าไปก็น้ำตาซึมว่า เกิดมาไม่เคยร้องไห้ แต่พอนวดหน้าอกเสร็จ กลับไปที่เตียงแล้วนอนร้องไห้ว่ามันเจ็บ รู้สึกถึงความเสียสละของคนเป็นแม่ ในหัวก็ยังรู้สึกว่านี่เราทำเพื่ออะไร แต่พอเห็นหน้าลูกก็รู้สึกว่านี่แหละ ทำเพื่อเขา รู้ว่ามันไม่ง่ายเลยในการเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง 9 เดือนในท้อง คลอดออกมาหลังจากนี้ก็ยาวไม่มีวันหยุด แต่ก็ทำได้ มันต้องมีพลังใจ พลังความรัก พอเห็นหน้าลูกแล้วมันคุ้มความเจ็บ
มีความตั้งใจว่าหลังจากนี้ ไม่ว่าลูกจะเลือกอะไรยังไง ลูกเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ไอซ์เป็นผู้ให้กำเนิดและจะเป็นคนไกด์ลูกเฉย ๆ สุดท้ายแล้วแต่เขา ไอซ์กล่าวทิ้งท้ายถึงลูกสาวว่า "เธอคือคนแรกที่ฉันยอมเต็มใจที่จะเจ็บ ยอมเต็มใจที่จะไม่ได้นอน ยอมเต็มใจที่จะนั่งมองแล้วมีความสุข ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"