กวาง ฟ้ารุ่ง มิสยูนิเวิร์ส 2007 ที่วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2566) จะมาเปิดใจครั้งแรก หลังเพื่อนสนิท พิ้งค์กี้ สาวิกา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมเผยความรู้สึกหลังพิ้งค์กี้โดนแอบอ้างเป็นผู้จัดการโกงเงิน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
พิ้งค์กี้เขาน่ารักหรือดียังไง เราถึงมั่นใจที่จะเปิดเผยและอยู่เคียงข้างเขา ?
กวาง : พิ้งค์กี้เป็นเพื่อนกันมา 10 กว่าปีแล้ว เราผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข เขาไนซ์กับเราตลอด แล้วเขาซัพพอร์ตเรา เวลาเรามีเรื่องทุกข์เขาก็คุยกับเรา เวลามีความสุขเราก็แชร์กัน มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน
ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ เราซัพพอร์ตเพื่อนเต็มที่เลย ?
กวาง : กวางว่าอันนี้มันคือหน้าที่ของเพื่อน เพื่อนที่ดี เราเป็นเพื่อนที่จิตวิญญาณ เหตุการณ์ที่แฮปปี้มีความสุขเราก็อยู่ด้วยกัน แต่คำว่าเพื่อนจริง ๆ คือตอนที่อยู่ด้วยกันคือตอนที่ทุกข์ที่สุด แล้วกวางก็เลือกตรงนั้น
ก่อนที่กวางตัดสินใจโพสต์ข้อความ ตอนนั้นกวางได้คิดไหมว่า ถ้าเราคิดไปแล้ว เราจะโดนกระแสแบบไหน และเชื่อว่ากวางรู้ว่าต้องโดนทัวร์ลง แต่กวางก็เลือกทำแบบนั้น เพราะอะไร ?
กวาง : ใช่ กวางมองเรื่องความสัมพันธ์เป็นอันดับ 1 แล้วยิ่งเรามีครอบครัว เรามีลูก เราตระหนักถึงความรักและความสัมพันธ์มาก ๆ พอคนที่ใกล้ชิดกับเรา ที่เรามีทุกข์ มีสุขร่วมกัน แล้วคนข้าง ๆ เขาเป็นทุกข์ ทำไมเราต้องมานึกถึงด้านอื่นเหรอ กวางรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวของเราก่อน คนใกล้ชิดของเราก่อน นั่นคือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นหมายความว่ากวางเลยไม่ได้นึกถึงตัวเองว่าเราจะต้องกลัวอะไรไหม
ช่วงนั้นก็เครียดมากเหมือนกัน เครียดเพราะโดนทัวร์ลงหรือเพราะสงสารเพื่อน ?
กวาง : สงสารเพื่อน มันค่อนข้างจะช็อก ก่อนที่เรื่องอะไรก็ตามกี้ก็มาที่บ้าน 2 วัน เขาก็จะมาเล่นกับน้องอารยา
ก่อนที่จะขึ้นศาลถูกไหม ?
กวาง : ใช่ ก็มาเล่นที่บ้าน มีความสุขร่วมกัน พอมีข่าวมาปุ๊บ ตอนแรกกวางคิดว่าข่าวปลอมหรือเปล่า แต่พอมาเจอตอนนั้นมันเป็นความจริง ก็เครียดมากเลย แล้วก็มีไปตามข่าวทุกอย่าง ตามหาความจริงว่ามันเป็นยังไง เราไปที่ศาลด้วย คือรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้คำตอบอะไรใด ๆ แต่คือแบบจะต้องทำยังไงให้เราแบบรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ได้มีโอกาสถามน้องไหม ?
กวาง : คือถ้าช่วงนั้นไม่ได้คุยกันแล้ว เพราะว่ามันเกิดเหตุการณ์พร้อมกันหมดที่ทุกคนได้ทราบ
แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางศาลก็อนุญาตว่ามีบุคคลแค่ 10 คนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยม แล้วกวางเป็นคนเดียวในวงการบันเทิงที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมน้อง กวางรู้สึกยังไงบ้าง ?
กวาง : ตอนแรกที่เราจะรู้ว่าเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ได้มันต้องใช้เวลา ต้องเขียนรายชื่อ ใจเราคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องเขียนชื่อเราลงไปนะ
คนที่เขียนคือคนข้างในใช่ไหม ?
กวาง : ใช่ค่ะ คนข้างนอกไม่สามารถที่จะแจ้งได้ ต้องเป็นคนข้างในที่เขาจะเลือกให้เข้าพบได้ ไม่ได้โฟกัสเลยว่าเราจะเป็นคนเดียวหรือไม่ เพียงแต่เรารู้สึกว่าเราจะทำยังไงให้เพื่อนเรามีกำลังใจ และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเขา
ที่เจอเขา เขาบอกอะไร เขาพูดอะไรกับเราบ้าง ?
กวาง : ส่วนมากมันเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่าว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วเราเองดูแลหน้าที่ที่รับซัพพอร์ตจากเพื่อน ๆ เพราะเพื่อน ๆ จะรู้ว่าพอเราได้เจอก็จะมีการฝากข้อความแล้วก็ส่งจดหมาย มีรูปแนบให้เขา เพราะว่าเราสามารถส่งให้เขาได้ แล้วบอกถึงความเป็นไปว่าเป็นยังไง แต่ส่วนมากเราจะรับฟังมากกว่า เพราะว่าคนที่เป็นทุกข์เขาอยากจะพูด อยากจะระบาย เพียงแค่เจอหน้าเราปุ๊บเขาก็รู้สึกแล้วว่าเขามีกำลังใจ แล้ววันหนึ่งก็ได้แค่ครั้งเดียวที่เจอกัน
เห็นบอกว่าในบทสนทนาน้องจะพูดแต่เรื่องเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าเป็นห่วงตัวเอง แต่ในมุมพวกเราทุกคนเป็นห่วงน้อง ?
กวาง : ใช่ ๆ กวางยังพูดกับเขาเลยว่ายูโฟกัสกับตัวยูก่อนนะ แต่พอไปถึงปุ๊บเขาก็จะมีความเป็นห่วงคนอื่น งานเป็นยังไงบ้าง งานที่ค้างคา แล้วเขาก็พูดถึงภาวะที่เกิดขึ้นว่าด้านในมันเป็นแบบนั้นแบบนี้ เป็นปรัชญาออกมาเลย
ในขณะที่ห่วงคนอื่น แต่ตัวเองก็ทุกข์อยู่ แต่สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคืออยากให้กวางไปติดต่องานที่เรารับค้างไว้ โดยเฉพาะงานที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ เหมือนเราถ่ายเสร็จก็รับเงินมา แต่เหมือนน้องบอกอยากจะคืนเงินก้อนนั้น เพราะไม่สามารถทำงานให้เขาได้ จริงไหม ?
กวาง : เอาเป็นว่ากี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ อันนี้เป็นจุดเด่นของเขาเลย เขาไม่เคยคิดถึงตัวเขาเลย เขาเก็บตัวเองตลอด เวลาทำอะไรให้คนอื่นแฮปปี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเขารู้สึกว่าเขาทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขายินดีที่จะคืนเงินให้ เขาเป็นห่วงคนอื่นเสมอ เขาทำอะไรได้ที่ซัพพอร์ตคนอื่นเขาจะทำ แม้ตัวเองอยู่ในนั้น บางทีเราฟังเรารู้สึกว่า โอ๊ย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่รู้ว่าแม้กระทั่งที่เขาอยู่ ณ ตรงนั้นแล้ว เขายังเป็นแบบนั้น ซึ่งถ้าเป็นหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้สึกที่จะต้องทำ
อย่างล่าสุดก็มีข่าวว่ามีคนแอบอ้างว่าเป็นผู้จัดการของพิ้งค์กี้ไปเอาเงินค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ของพิ้งค์กี้มาแล้วเรียบร้อย อันนี้กวางได้มีโอกาสรับรู้เรื่องนี้บ้างไหม ?
กวาง : รับรู้ตามข่าว อย่างที่บอกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว พิ้งค์กี้เป็นคนทำอะไรเอง ดูแลตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ การรับงาน อันนี้เขาจะดูแลตัวเอง แต่มีผู้ช่วยของเขา ซึ่งคนนี้เป็นผู้ช่วยเฉย ๆ เพราะฉะนั้นเขาดูแลตัวเองมาตลอด
ในความเป็นจริงแล้วพิ้งค์กี้ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัว ?
กวาง : เท่าที่เห็นเขาดูแลตัวเองมาตลอดเลย
ทางนั้นเขาให้เงินมาแล้ว แต่เงินก็ไม่ถึงน้อง ?
กวาง : กวางก็ไม่แน่ใจ เป็นเรื่องของเขาที่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าเป็นไปตามที่เราทราบกัน
กวางได้คุยกับพิ้งค์กี้ส่วนตัวไหม ?
กวาง : มีเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ไปแตะมาก เพราะเป็นเรื่องของเขาที่เขาต้องมาจัดการตรงนี้ แต่อย่างที่บอกกวางเห็นเลยว่าทุกอย่างเขาทำด้วยตัวเอง รับงาน พิจารณางานด้วยตัวเอง
ครั้งแรกเลยที่เราได้ยินว่าเขาจะได้ออกมา เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
กวาง : ร้องไห้เลย เพราะว่าทุก ๆ ครั้งที่ไปเราใช้พลัง มันเหมือนคนที่อยู่เคียงข้างเราแล้วเป็นทุกข์ ต่อให้เรามีความสุขยังไง ตอนนั้นกวางไปต่างประเทศ 1 เดือนก็ยังคิดถึงตลอด แล้วพอวันที่เขาจะได้ออกมาก็รู้สึกว่าดีแล้ว ก็แฮปปี้
เจอกันได้พูดคุยอะไรกันบ้าง หลังจากที่น้องได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ?
กวาง : พิ้งค์กี้นี่คือ ถ้าเขามาแล้วเขาจะทำเลยคือเล่นกับลูกสาว แทบไม่ได้คุยเลย คือเขาคิดถึงหลาน เขาอยากเห็นหน้าอารยา เขาชอบความสดใส พอมาถึงเรารู้แล้ว บางทีเราไม่ต้องคุยกันเลย เขามาแล้วเขามาเล่นกับหลาน ส่วนมากจะเป็นแบบนั้นมากกว่า
เห็นว่าพิ้งค์กี้ตอนที่ออกมามีความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เห็นได้ชัดด้วย ?
กวาง : เติบโตขึ้น เติบโตทั้งภายใน คิดว่าสิ่งที่เขาเจอ แล้วเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่น เรียกว่าอัปเกรดเวอร์ชั่นเลย สมัยก่อนเราคิดว่าพิ้งค์กี้เป็นแบบนี้ พอมันผ่านจุดตรงนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปเลย วิธีคิดที่ดีขึ้น เราเห็นการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เรารู้สึกว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี
น้องร้องไห้บ้างไหม ?
กวาง : ร้องอยู่แล้วค่ะ กวางอยู่ข้างนอกขับรถบางทีคิดถึงเขาปุ๊บก็ร้อง ร้องเพราะอัดอั้น เพราะมันมีหลายสิ่งหลายอย่าง การเป็นเพื่อนเราก็มองตัวเองเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราทำหน้าที่เพื่อนได้ดีหรือยัง เราดูแลคนรอบข้างได้ดีหรือยัง เราก็ย้อนกลับมาเหมือนกัน
อีกจุดหนึ่งที่น้องเขาแคร์มาก ๆ คือคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาจะคิดยังไงกับเขา ?
กวาง : กี้เป็นคนห่วงอยู่แล้วว่าทุกคนจะคิดยังไงในสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่เวอร์ชั่นใหม่ของเขา เขาคงเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันก็ต้องเดินทางต่อ
อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญเลยคือลูกเรา น้องอารยา ทำไมถึงรักกันขนาดนั้น ?
กวาง : พิ้งค์กี้อยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว เราผ่านขั้นตอนชีวิตมา เขาก็จะเห็นเราตั้งแต่ท้องมา แล้วพิ้งค์กี้เขาชอบเด็ก ๆ อยู่แล้ว เขาเห็นคนนี้มา มาแล้วสบายใจ
น้องอารยาไปแข่งระดับประเทศ ได้รางวัลมาด้วย ?
กวาง : บาลานซ์ไบค์ หรือจักรยานขาไถ เป็นการชิงถ้วยสมเด็จพระเทพฯ มีการเก็บคะแนนเรื่อย ๆ ทุกอาทิตย์ต้องพาเขาไปแข่งเพื่อเก็บคะแนน แต่ละสนามก็ลองไปทำเลย 4 สนาม แล้วก็ได้รางวัลมาที่ 9 ของประเทศ
มีวี่แววจะผลักดันเข้าวงการไหม ?
กวาง : จริง ๆ เขาก็ชอบ ถ่ายรูปก็เข้ามาอยู่ด้วยตลอด เขาก็มาโพสต์ คุณพ่อเขาโอเค ไม่ค่อยหวง เขาเข้าใจ เขาเป็นเอเจนซี่ เจอนางแบบบ่อยอยู่แล้ว