มีข่าวเมาท์มาให้นักสืบโซเชียลตามกันไม่พัก โดยล่าสุด (18 มีนาคม 2566) ก็ถึงทีของ มาดามกุ๊งกิ๊ง แห่ง เดลินิวส์ ที่มาเปิดประเด็นเมาท์นางเอกตัวท็อปคนหนึ่ง ที่ตอนแรกชิลมาก แต่พออยู่ไปนาน ๆ ก็เรื่องเยอะ แถมมีคนให้ท้ายเลยหยิ่งขึ้นมา
มาดามกุ๊งกิ๊ง โปรยคำใบ้ว่า เป็นนางเอกตาโตคนหนึ่ง มีสังกัดชัดเจน เป็นนางเอกตัวท็อปของช่อง มีงานมาแล้วกลาง ๆ ไม่เยอะมาก แต่ก็ดังพอสมควร จริง ๆ ก่อนจะดัง ช่องก็ดันเต็มที่ ไม่รู้เพราะสวยมาก หรือรู้จักวางตัวเข้าหาผู้ใหญ่ก็ไม่รู้ เลยอนาคตไกล คนในวงการช่องเดียวกันเลยเมาท์กันให้แซดว่านางเอกคนนี้อยู่เป็น จนได้ดีและมีวันนี้
ถ้านับฝีมือการแสดง ก็ต้องยอมรับตรง ๆ ว่าไม่ได้เก่งกาจหรือเป็นตัวแม่ขนาดนั้น แค่เป็นคนที่กล้าเล่น กล้าเสี่ยงและกล้าลอง เลยทำให้ละครออกมาถึงใจผู้ชมและกระแสดี บวกกับตัวประกอบในเรื่องมันส่ง นางเอกคนนี้ก็เลยปัง
ตอนแรกเป็นขวัญใจของช่างแต่งหน้าและช่างผมช่อ เพราะสวยและวางตัวดี แต่หลัง ๆ มานี้ แหล่งข่าววงใน เป็นพี่ช่างแต่งหน้าคนใหม่ที่เพิ่งไปแต่งกับนางเอกคนนี้เมาท์มาว่า มารับงานแต่งหน้างานหนึ่ง ตอนแรกดีใจมากที่ได้เจอ เพราะรุ่นพี่เป็นช่างแต่งหน้าเก่าของนางเอกที่รู้จักมานมนาน แต่รุ่นพี่ติดอีกงาน จึงให้พี่ช่างคนนี้มาแทน
ตอนเจอกันนางเอกก็ทักทายแค่ปาก ไม่ยกมือไหว้ ช่างแต่งหน้าก็ชิล ไม่คิดอะไรมาก แต่ด้วยความที่แต่งหน้ามันนาน จึงมีการสนทนากันเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเครียดมาก ช่างแต่งหน้าก็ถามไปคำสองคำ นางเอกก็ตอบสั้น ๆ และทำท่าเหมือนจะนอนแล้ว ประมาณว่าตัดบท ช่างเลยไม่พูดต่อและแต่งหน้าจนเสร็จ พอนางเอกลืมตามาอีกที ก็บอกว่า "หนูไม่ได้อยากทาตาสีนี้อะ ขอเป็นสีเดิมของหนูเวลาที่เข้ากองดีกว่า"
ดอกแรกให้ลบตา ดอกต่อมานาวเอกก็รีเควสกับทีมสวัสดิการในกองว่าขอน้ำเปล่าแบบสะอาด ๆ เป็นน้ำแร่ ไม่เอาน้ำปกติ ทีมงานก็ไปหามาให้ พอเข้าฉากได้แป๊บเดียวก็เดินมาใหม่ ขอซับหน้า พร้อมบอกช่างว่า "วันหลังพี่ต้องดูเลยนะคะ เผื่อหน้าหนูมันในฉากจะได้เติมทัน"
ก่อนที่พี่ช่างแต่งหน้าจะเลิกงานกลับมาแล้วต่อสายหาพี่ช่างแต่งหน้าคนเก่า ช่างคนเก่าก็บอกว่า "ใช่แล้วล่ะ เจอเหมือนกันเนอะ อีหนูนางนี้ตอนแรกชิลมาก ไม่มีพิษอะไรเลย แต่อยู่นาน ๆ ไปเรื่องมากเฉยเลย แถมมีคนให้ท้ายเลยหยิ่งขึ้นมา"
งานนี้เลยถึงบางอ้อว่า ดังแล้วมีคนให้ท้าย เลยเรื่องเยอะ ลองเขาเล่ากันขนาดนี้ ไม่นานเรื่องก็คงหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนจะหมายถึงใครนั้น ขาเผือกคงต้องลองเดากันดูค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
