วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์ New York Post มีรายงานกรณีอื้อฉาวของ ทาริน แมนนิ่ง (Taryn Manning) นักแสดงหญิงชาวอเมริกันวัย 44 ปี ที่เพิ่งจะปล่อยคลิปเล่าประสบการณ์เล่นชู้กับชายที่แต่งงานแล้วแบบโจ่งแจ้ง พร้อมลงลึกถึงรายละเอียดสยิว ซ้ำยังส่งคำท้าทายไปถึงภรรยาของฝ่ายชายอย่างมั่นหน้า ก่อนที่สุดท้ายนักแสดงหญิงจะต้องเป็นฝ่ายลงโพสต์ขอโทษด้วยตัวเอง
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อ ทาริน แมนนิ่ง โพสต์คลิปลงอินสตาแกรม เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชายที่แต่งงานแล้ว โดยเผยถึงรสนิยมทางเพศของชายคนนี้ ที่ชอบให้เธอเลียรูทวารให้ระหว่างมีเซ็กส์กัน
"ทุก ๆ คืน เป็นเวลา 3 คืนติดกัน ฉันจะเลียรูก้นให้เขาเพราะเขาชอบ และฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้ มันแปลกหรือไง นี่คือสิ่งที่ปีศาจทำ" แมนนิ่ง กล่าว
เธอยังเล่าถึงความคลั่งรักของตัวเองด้วยว่า เธอกับเขาเคยขับรถมาถึงชายหาดนิวพอร์ต ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อที่เธอจะได้ซื้อเรือให้เขา โดยตอนนั้นเธอยังเตรียมเงินสดไปวางเป็นเงินดาวน์ให้พร้อม ทั้งหมดก็เพราะเธอรักเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอทนไม่ได้จริง ๆ เห็นจะเป็นภรรยาของชายคนดังกล่าว ที่เรียกเธอว่า "ยัยบ้า" แถมยังขู่ว่าจะขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามเธอเข้าใกล้ด้วย ซึ่งแมนนิ่งก็เลือกที่จะพูดท้าทายในคลิปด้วยว่า "ยังไงซะ ฉันก็เลียรูก้นของผู้ชายแกมาหลายสัปดาห์แล้ว เพราะเขาชอบมาก และฉันก็ทำให้เขา เขามาหาฉัน และมันก็เกิดขึ้น"
แมนนิ่งอ้างว่าความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นขึ้นเพราะเธอโสดมาก และผู้ชายเข้ามาหาเธอ แถมครั้งหนึ่งระหว่างขับรถไปชายหาดด้วยกัน เขายังใช้นิ้วสร้างความสำราญแก่เธออีกด้วย
"ฉันไม่กลัวแกหรอก" แมนนิ่ง กล่าวท้าทายไปถึงภรรยาของฝ่ายชาย
แม้ว่าต่อมาคลิปดังกล่าวจะถูกลบไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ได้กลายมาเป็นประเด็นอื้อฉาวจนได้ กระทั่งไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดแมนนิ่งก็ต้องออกมาโพสต์ขอความขอโทษผ่านอินสตาแกรม ที่ลงคลิปเปิดเผยความสัมพันธ์ของตัวเองกับชายที่แต่งงานแล้วแบบโจ่งแจ้ง ในลักษณะอนาจาร
"ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ฉันมีเวลาทบทวนถึงสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ ฉันเจ็บปวดอย่างยิ่งและเลือกจะจัดการกับเรื่องนี้บนพื้นที่สาธารณะ ทั้ง ๆ ที่ฉันควรจัดการมันอย่างเงียบ ๆ ด้วยการสนับสนุนจากเพื่อนสนิทและครอบครัว" แมนนิ่ง ระบุ
ทั้งนี้ แมนนิ่งยังขอความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ตัวเองได้เยียวยาและซ่อมแซมจิตใจ โดยเธอยังหวังว่าจากนี้จะได้พบกับคนที่ทะนุถนอมเธอ ได้เจอกับความรักที่ดี พร้อมยกเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนครั้งใหญ่
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post, Page Six