x close

ยายชา เถิดเทิง เผยสาเหตุป่วยมะเร็งปอด ไอเป็นเลือด-สั่งเสียภรรยา อย่าปล่อยถึง 3 วัน

          ยายชา เถิดเทิง เปิดใจครั้งแรก หลังป่วยมะเร็งปอด ภรรยาทำใจ ด้านสามีสั่งเสียไว้ ถ้าไม่อยู่แล้วอย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน เผยสาเหตุ ดูดบุหรี่ตั้งแต่ 7 ขวบ
ยายชา เถิดเทิง

          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นักแสดงตลกเจ้าของบทในตำนาน "ยายชา เถิดเทิง" ควงภรรยา คุณกุ้งนาง เปิดใจครั้งแรก หลังป่วยหนักเป็นมะเร็งปอด ถึงขั้นสั่งเสียครอบครัว หากไม่อยู่แล้วอย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน พร้อมเผยที่มาโรคมะเร็งปอดและไอหนักจนเป็นเลือด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

มีข่าวใหญ่ว่าหามยายชาส่งโรงพยาบาลเมื่อ 31 มกราคม แล้วไปตรวจพบโรคมะเร็งในปอด ?

          ยายชา : ไม่ได้อยากได้มันมาเอง

พอเรารู้ว่าเป็นมะเร็ง รู้สึกยังไง ?

          ยายชา : ในความรู้สึกเรา เราเป็นบุคคลธรรมดา ไม่อยากได้ แต่เมื่อมันมาก็ปล่อยมัน ช่างแม่ง

กลัวไหม ?

          ยายชา : ไม่กลัว

คุณกุ้งกลัวไหม ?

          กุ้งนาง : ไม่กลัว เราจะสู้ไปด้วยกัน

มันอยู่ในระยะที่เท่าไร ?

          กุ้งนาง : ตอนนี้คุณหมอยังวินิจฉัยไม่ได้ รอโรงพยาบาลนัดตรวจอีกที

ย้อนกลับไปช่วง 31 มกราคม วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?

          กุ้งนาง : วันนั้นไอหนักมากทั้งวันและทั้งคืนก็เลยไม่ไหว ตี 3 เรียกพี่ชายไปส่งที่โรงพยาบาล ไปถึงหมอก็ให้แอดมิต 1 คืน อีกวันนัดทำ CT Scan แล้วหมอก็นัดมาฟังผลอีก 1 อาทิตย์ แต่เรารอไม่ไหว ไอเป็นเลือด 2 วัน ประมาณเป๊กหนึ่งได้ เลยให้พี่ชายไปส่งโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพอดีผล CT Scan ออกก่อน  คุณหมอบอกว่าแฟนคุณเป็นมะเร็งปอด ในชั่วโมงนั้นเราก็เข่าอ่อน รู้สึกทรุดนิดหน่อย แต่ต้องตั้งสติ เพราะว่าเราอ่อนแอไม่ได้

แสดงว่าก่อนหน้านี้เราไม่รู้เลย ?

          กุ้งนาง : เราไม่รู้เลยค่ะ เพราะเขาเลิกบุหรี่มาได้เกือบ 3 เดือน

ในความเป็นจริงยายชามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ?

          กุ้งนาง : ใช่ค่ะ มีไขมัน ความดันสูง แล้วก็น้ำท่วมปอดค่ะ ที่เป็นมาประมาณปีหนึ่งแล้ว

คุณหมอได้แจ้งไหมว่าต้องรักษายังไง ?

          กุ้งนาง : ยังค่ะ เพราะตอนนี้คุณหมอทำเรื่องส่งตัว ย้ายโรงพยาบาลอยู่ ให้โรงพยาบาลนครปฐมอีกทีว่าเป็นระยะไหน ขั้นไหนแล้ว วันที่ 16 นี้ ทราบผล

ยายเอากำลังใจมาจากไหน ?

          ยายชา : 1. คนข้าง ๆ 2. รายการที่เรากำลังทำอยู่ ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้เราทำก็ต้องทำ จนกว่าชีวิตเราทั้งสองจะไม่มีแล้ว

ตอนเราจะไปตรวจ เราเริ่มรู้สึกแล้ว ?

          ยายชา : ใช่ มันมีอะไรแปลก ๆ ในร่างกาย แล้วกูเป็นอะไรเนี่ย ก็เลยบอกแฟนว่าพาพ่อไปโรงพยาบาลหน่อย ไปให้เขาเช็กจะดีกว่าว่าเราเป็นอะไร

          กุ้งนาง : เขาไอผิดปกติ 2 วัน

          ยายชา : เพราะเวลาไอมีเลือดออกมาด้วย

ตอนนั้นสภาวะร่างกายเป็นยังไง เราทำงานได้ไหม เราต้องนอนอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่าเรายังใช้ชีวิตได้อยู่ ?

          ยายชา : 1. ทำงานไม่ได้ 2. นอนอย่างเดียวก็ไม่ได้ สภาวะแวดล้อมในร่างกายเรา สิ่งที่เราเป็นอยู่ ถามว่าในชีวิตจะอยู่ได้ไหม ถ้าในกระเพาะอาหารเราไม่มีอะไรเลย

          กุ้งนาง : เราก็ไม่สามารถสู้โรคได้

          ยายชา : เราต้องมาเปลี่ยน ต้องสู้โรค สู้กับมันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้

ตอนที่คุณหมอบอก เรารอนานไหมในการบอกยายชา ?

          กุ้งนาง : ไม่นานนะคะ เพราะยายเขาเคยสั่งไว้ว่าถ้าเกิดเขาเป็นอะไรอย่าปิดปังเขา เพราะเขาจะได้เตรียมตัว เขาจะได้รู้ตัว ป้องกันของเขา คือเรื่องนี้เราคุยกันมาก่อนแล้ว เป็นอะไร เราจะไม่ปิดบังกัน เราเลยตัดสินใจตอนออกจากโรงพยาบาล ค่อย ๆ ลูบหลังเขา เขาก็ถามแหละ แม่พ่อเป็นอะไร แม่บอกพ่อมาตรง ๆ พ่อรับได้ ก็บอกยายใจเย็น ๆ นะ เป็นอะไรก็ได้ เราสู้ไปด้วยกันนะ ไม่ต้องกลัวนะกุ้งอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างยาย บอกว่ายายเป็นมะเร็งปอด

          ยายชา : เรื่องเล็ก คนอื่นเขาก็เป็นกัน

ยายชา เถิดเทิง

คนรอบข้างยายบอกว่าจริง ๆ ยายก็กังวล แต่ยายพยายามเข้มแข็งเหมือนยายห่วงทุก ๆ คน ?

          ยายชา : ใช่ ถามว่าเรากังวลเรื่องตรงนี้ไหมชัวร์ เรากังวลเรื่องตรงนี้มาก ๆ แต่ถามว่าเราจะอยู่ตรงนี้กับพวกเขาได้ยังไง มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเรารู้จัก รู้สึก ที่จะเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลี กับคนที่อยู่ข้าง ๆ เรา คนนี้ถ้าเขามีความสุขเราก็มีความสุข เราดีใจ เราภูมิใจ

          กุ้งนาง : เขาเข้มแข็ง

สิ่งที่ยายกลัวที่สุดคืออะไร ?

          ยายชา : จะหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ คำว่าที่สุดคืออะไร ที่สุดคือที่สุดที่เราไม่สามารถไปจับมันได้ มันเหนือการควบคุม แต่มันก็เอาเราไปไม่ได้เหมือนกัน เราต้องสู้

ทุกวันนี้ได้เข้ารับการรักษาหรือยัง ?

          กุ้งนาง : ยังค่ะ รอคุณหมอ

ระหว่างที่รอหมอพี่กุ้งดูแลยายชายังไง ?

          กุ้งนาง : ดูแลเรื่องการกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ อาหาร ยา เราจะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แล้วจะไม่ให้ใครทำและไม่ฝากใคร ต้องดูแลด้วยตัวเองตลอด

ก่อนที่จะเจอหมอวันที่ 16 ส่วนตัวเรากังวลอะไรที่สุด ?

          กุ้งนาง : ถามว่าทุกวันนี้กังวลไหม แรก ๆ กังวล แต่ ณ วันนี้ ที่ยายมาที่นี่ได้ คือไม่กังวลอะไรแล้ว คือเป็นอะไรก็เป็น เราจะอยู่เคียงข้างเขารักษาเขา มาโรงพยาบาลบ่อยแค่ไหนเราก็จะมา เตรียมพร้อมค่ะ

          ยายชา : เขาถามเรา พ่อสู้ไหม สู้

กังวลอะไรไหม ?

          ยายชา : ไม่กังวล

ถึงแม้ยายจะป่วยเขาไม่ลงโซเชียล ไม่อยากให้คนตื่นตระหนก แต่ตอนหลังพี่กุ้งเป็นคนลงใช่ไหม ?

          กุ้งนาง : ใช่ ณ ชั่วโมงนั้น เป็นช่วงที่เราค่อนข้างจิตตกอยู่ เราจะทำยังไงดีให้แฟนคลับยายได้รู้ว่าความคืบหน้ายายเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ไปขายของที่วัด 2-3 วันแล้ว เดี๋ยวลูกค้าจะหายจะสงสัยว่ายายเป็นอะไร เราก็หากำลังใจให้ยายด้วยเพราะแกทรง ๆ วัน สองวัน ไม่ค่อยจะดี ก็เลยตัดสินใจลงโซเชียล ทุกคนก็ให้กำลังใจยาย คอมเมนต์เป็นร้อย คนดูเป็นแสน ก็มาอ่านให้ยายฟัง ยายใจชื้นขึ้นเยอะเลย ยายมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ

          ยายชา : ตั้งแต่วันนั้นก็ลุยมาด้วยกัน มันใจฟู ขอบคุณที่คุณทั้งหลายมาช่วยยายชา

ยายชาสั่งเสียไว้หมดแล้วเหรอ ?

          ยายชา : ใช่

          กุ้งนาง : ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังนอนซม แล้วมีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใจเรายังตกอยู่

สั่งเสียว่าอะไรบ้าง ?

          ยายชา : ใจของเรามันหลุดหมดแล้ว เราบอกว่า แม่ถ้าพ่อเป็นอะไร อย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน 2 วัน ก็เผาเลย

          กุ้งนาง : ไม่อยากให้สิ้นเปลืองเยอะ

          ยายชา : แต่ถ้าพ่อยังไม่เป็นอะไรมันแค่เริ่มปล่อยเลย รักษาตามอาการต่อไป

          กุ้งนาง : ก็เสียใจนะเขายังไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น ทำไมต้องสั่งเสียขนาดนี้ ทำให้เราจิตตกลง เลยให้กำลังใจเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก เราก็ยังไม่รู้ว่าระยะไหน หมอเขาก็ต้องวินิจฉัยก่อน อาจจะเป็น 1, 2, 3 หรือ 4 เขาก็ยังรักษาได้ มียาดีหมอเขาเก่ง ก็ให้กำลังใจกันอย่างนี้ ไม่เป็นอะไรหรอก เราจะอยู่เป็นมิ่งขวัญ เป็นคู่ขวัญกันอย่างนี้แหละ

ยายชา เถิดเทิง

ตอบกับยายแบบนี้ แต่เวลาอยู่คนเดียวเห็นว่าแอบร้องไห้ ?

          กุ้งนาง : เราอ่อนแอไม่ได้ เพราะเรามีคนที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ถ้าเราอ่อนแอคนหนึ่งแล้วใครล่ะ เราอยู่กันแค่สองคน มีกันแค่สองคน ถ้าเขาอ่อนแอ เราก็ต้องเข้มแข็ง ถ้าเราทรุดลง แล้วเขาจะเป็นยังไง เขาต้องการกำลังใจ เราก็ต้องการกำลังใจ กำลังใจเราคือคนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตช่วยเราอยู่ตลอด เราเอากำลังใจตรงนี้มาเติมให้เขา ครอบครัวสำคัญค่ะ

พี่กุ้งเขาทำใจไว้แล้ว ?

          กุ้งนาง : ก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ เราก็เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ระหว่างที่อยู่ เราจะต้องดูแลประคับประคองเขาให้ดีที่สุด

ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ อาการของยายถ้าเกิดมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง ๆ คุณกุ้งเตรียมทำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ?

          กุ้งนาง : ถ้ามีปาฏิหาริย์ เราสวดมนต์ขอพร ไหว้พระ ถ้าเป็นไปได้ เราขอปาฏิหาริย์ ถ้าแกหายป่วย หรือมะเร็งสงบ เราเตรียมตัวบวชชีสัก 19 วัน บวชให้เขา สัญญาถ้าปาฏิหาริย์มีจริง

          ยายชา : แต่ถ้าปาฏิหาริย์ในโลกนี้มีจริง ยายหายปกติโดยที่ไม่ต้องไปกินยาเพื่อให้ตัวเองหาย ถ้ามีโอกาสก็จะบวชเหมือนกัน บวชพระ

หมอบอกไหมว่าสาเหตุของโรคมันมาจากไหน ?

          กุ้งนาง : ดูดบุหรี่หนัก เมื่อก่อนดูดบุหรี่มวนต่อมวน เขาดูดบุหรี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะสูบบุหรี่ไหม ?

          ยายชา : ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ยายชาไม่อยากให้คนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำมันเป็นผลพวง ให้กับตัวเองให้เกิดความลำบากลำบน ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ยายชาขอนะอย่าทำ

ทำไมถึงเลิกมา 3 เดือนแล้ว ?

          กุ้งนาง : เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตัวเขาเองแล้วตัวพี่ด้วย เขาบอกว่าเนี่ยมีของขวัญมาให้นะ พี่จะเลิกบุหรี่ให้ แล้วเขาก็ตัดสินใจหักดิบ ณ วันที่เขาเลิก บุหรี่ซองสุดท้ายเหลือ 4 มวน เขาก็เก็บไว้แบบนั้นพร้อมไฟแช็กไม่ได้ดูดเลย

ดูดมา 63 ปี หักดิบวันเดียว ?

          ยายชา : ก็ไม่ดูดสักอย่าง มึงไม่ใช่ญาติกู กูไม่ดูดสักอย่าง มึงทำอะไรกูไม่ได้อยู่แล้ว

ที่เราเป็นมะเร็งปอดหลัก ๆ เลยคือบุหรี่ ?

          ยายชา : ใช่

          ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยายชา เถิดเทิง เผยสาเหตุป่วยมะเร็งปอด ไอเป็นเลือด-สั่งเสียภรรยา อย่าปล่อยถึง 3 วัน อัปเดตล่าสุด 14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:28:53 13,955 อ่าน
TOP