ช่วงที่มีกระแสเกี่ยวกับการไม่ต่อสัญญาช่อง ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ?
การเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่เป็นจุดเปลี่ยนในตอนนั้นอารมณ์ความรู้สึกเป็นยังไง ?
ณิชา : จริง ๆ ไม่เคยเล่าให้ใครฟังว่าเป็นช่วงที่เครียดมาก ๆ ด้วยความที่เราอาจจะไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องตัดสินใจกับชีวิตของตัวเองที่รู้สึกว่า เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่ช่องมานาน 10 ปี ถ้าไปตรงโน้นจะเป็นยังไง สิ่งอะไรมันจะเกิดขึ้น เหมือนกังวลอนาคตเหลือเกินในตอนนั้น เป็นความเครียดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตนี้
แต่พอผ่านมาได้ก็รู้สึกว่าเป็นความเครียดที่ดีจังเลย แปลกมากค่ะ คือรู้สึกว่าดีแล้วที่เครียด หมายถึงว่าเพราะมันคือการตัดสินใจ เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง คงไม่แปลกหรอกที่เราจะเครียดกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราไม่ได้สตรองจนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เหมือนประสบการณ์ใหม่ในชีวิตมาก ๆ ที่ทำให้รู้ว่าความเครียดไม่ได้เลวร้ายเสมอไป การที่เราใช้เวลากับการคิดทบทวนไปมา ตอนนั้นเราอาจจะเครียดแต่พอผ่านมาได้รู้สึกว่าเราจะไม่เสียใจทีหลังแล้ว เพราะเราทบทวนมันมามากที่สุดแล้ว คือมันเป็นวัฏจักรหนึ่ง ความไม่แน่นอนคือเรื่องปกติ
ก่อนที่จะมาเป็นนางเอกภาพนี้เคยอยู่ในหัวเราไหม ?
มีคอมเมนต์ไหนที่เราจำขึ้นใจเลย ?
หลังจากวันนั้นเราไปต่อยังไงกับคำพูดที่มันทำให้เราเจ็บ ?
เรื่องที่ได้บทเรียนมากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาคืออะไร ?
ณิชา : จริง ๆ เยอะค่ะ เรื่องคอมเมนต์เรื่องคำพูดคนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ณิชาว่าคนที่เข้ามาในวงการหรือคนที่อยู่ในสังคมตรงนี้ อาจจะต้องรับมือเหมือนกัน เพราะว่ามันมาจากหลายทางมาก ๆ เลยค่ะ เป็นเรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเข้าใจความเป็นมนุษย์แบบนี้มากขึ้น
เคยอยู่ในมุมที่ไม่เข้าใจทำงานไม่ได้เลยเราแคร์แต่คำพูดของคนอื่น แล้วก็เอาคำพูดของคนอื่นมาตัดสินตัวเองด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็ทำงานไม่ได้ สภาพจิตใจแย่มาก ความมั่นใจหายไปหมดเลย กลัวไม่ถูกใจคนนั้นกลัวไม่ถูกใจคนนี้
จนมาวันหนึ่งช่วงนั้นเล่นละครเรื่องสามใบไม่เถาโดนคอมเมนต์เยอะมาก แต่ว่าต้องขอบคุณกอง ๆ นั้นเลยที่พี่ ๆ ทุกคนสนับสนุนเราเต็มที่ จำได้ว่ามีคำพูดหนึ่งที่เปลี่ยน ทำให้เป็นเราอย่างทุกวันนี้เลย ก็คือมีพี่ผู้ช่วยผู้กำกับชื่อพี่กอล์ฟค่ะ เขาเห็นสภาพหนูคงแย่มาก ตอนนั้น ดูเศร้าอะไรอย่างนี้ค่ะ เขาก็เลยบอกว่าณิชามานั่งคุยกันหน่อยไหม เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นเราก็เล่าให้ฟัง เขาก็พูดว่าให้ลองตั้งสติ ลองมองภาพให้กว้างขึ้นนะ แล้วก็แทนตัวเองเหมือนเป็นที่กรองน้ำทุกคอมเมนต์ที่เขาโยนลงมา ต้องกรองให้ได้ว่าสิ่งนี้มีประโยชน์กับเราหรือเปล่า สิ่งนี้ปรับปรุงได้ไหม หรือสิ่งที่เขามาว่าเราไม่สวยแต่เราพอใจหรือยังกับสิ่งที่เป็น ต้องแยกให้ดีว่าอันไหนเอามาติเพื่อก่อ หรือว่าอันไหนที่มันไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆ เขาก็สอนให้หนูแยกระบบความคิดได้ โอเคพอเจอมันก็นอยด์อยู่แล้วแต่ว่าสุดท้ายมันต้องมาตั้งสติให้ได้ ว่าเขาคอมเมนต์อย่างนี้มาเรายังแสดงไม่ดี ต้องปรับตรงนี้อันนี้มีประโยชน์งั้นไม่ต้องนอยด์พัฒนาตัวเอง
แต่ว่าอันนี้ที่บอกว่าเราไม่สวยก็เราประมาณนี้ทำอะไรไม่ได้ ก็คงไม่อยากไปทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าเพื่อให้ทุกคนชอบงั้นก็ช่างมัน เหมือนฝึกระบบความคิดนี้มาเรื่อย ๆ เลยเปลี่ยนมาเป็นเราทุกวันนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายค่ะ แต่พอทำได้แล้วเราเบาขึ้นเยอะ
ในชีวิตของคนไม่มีวันรู้หรอกว่าอะไรมันจะคู่ควรกับตัวเราเอง จนกระทั่งเราได้ลองทำ ?
สามารถติดตาม WOODY INTERVIEW ได้ที่ช่องทาง Facebook: Woody, Youtube: Woody
ชมย้อนหลัง : คลิกที่นี่