เรียกได้ว่าเจอกระแสดราม่าถาโถมเข้ามาไม่น้อย สำหรับสาว มิเรียน สุเดชา หวานใจคนใหม่ของ พีเค ปิยะวัฒน์ หลังจากที่เธอออกมาฟาดหลักฐานความผิดปกติบัญชีการเงินของฝ่ายชายกับอดีตภรรยา โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ จนถูกทัวร์ลงกระหน่ำ อีกทั้งวันก่อน หนุ่มพีเค ยังให้สัมภาษณ์เรื่องที่เธอออกโรงแทนว่า "หน้าเขาค่อนข้างจะด้านกว่าผมเยอะมาก อันนี้ชม" นั้น
ล่าสุด (18 สิงหาคม 2567) มิเรียน ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว บอกว่า ไม่โกรธพีเคที่ออกมาพูดแบบนั้น "เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบไหน สิ่งที่เขาพูดออกไปคิดว่า เพราะเขารู้ว่าเราสามารถที่จะพูดอะไรด้วยแบบไหนก็ได้ ไม่โกรธอยู่แล้ว แรงกว่านี้ก็เจอกันมาแล้ว"
ส่วนกระแสดราม่าที่ตีกลับมาลงตัวเองนั้น เจ้าตัวมองว่า เอาจริง ๆ ไม่มีใครคิดว่ากระแสจะไปทางไหน ขอบคุณสื่อมวลชนมากที่ให้ความสนใจและให้โอกาสได้ออกมาพูด เราก็จะได้เรียนรู้ว่า ที่ผ่านมาอะไรที่เราควรทำและไม่ควรทำ ก็เป็นการเรียนรู้ พี่พีเคก็บอกว่า ค่อย ๆ เรียนรู้ไป เพราะใหม่มาก ถามว่ากดดันไหมดราม่า หลาย ๆ คนก็น่าจะเคยเจอ อยู่ที่ว่าปรับตัวยังไง อย่างครอบครัวก็ให้กำลังใจ ไม่เคยซ้ำเติม อะไรที่ผิดไปก็ยอมรับแล้วมูฟออน ถ้าทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วย
เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าฝ่ายหญิงออกตัวแรงเกินไปนั้น มิเรียน ยอมรับว่าอาจจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับเธอ เพราะเวลาทำงานเมื่อเกิดปัญหาตนจะรีบแก้ทันที ซึ่งตนไม่ใช่ดารา ก็อาจจะไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะเข้ามา ส่วนคนที่เข้ามาคอมเมนต์แรง ๆ ก็เข้าใจ เพราะมันเป็นผลกระทบจากสิ่งที่เราทำ นอกจากนี้ ยังมีผู้ใหญ่เตือนว่าจะยอมรับได้ไหม เพราะนี่คือ digital footprint อีกหน่อยหากลูกมาอ่าน จะตอบลูกว่าอย่างไร
ซึ่ง มิเรียน บอกว่า "เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของใครบางคนเสมอ เราก็คงอธิบายให้ลูกฟังว่าวันหนึ่งแม่เคยทำอย่างนี้นะ แม่เป็นแบบนี้นะ ลูกจะทำไหม มันเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง เราก็มีการขอโทษเขา ขอโทษหลาย ๆ คนที่ทำให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะพี่พีเค เห็นเขาแบบนั้น แต่เขาไม่โกรธใครเลย เขาบอกว่าไม่เป็นไร นั่นคือวิธีการเรียนรู้ แต่ในครั้งหน้าการที่เราจะบอกว่าเขาน่ารักยังไง เราอาจจะต้องเบาลง ค่อย ๆ ทำ ไม่ต้องรีบ"
อย่างไรก็ตาม จากกระแสดราม่าที่เข้ามาอย่างหนัก มิเรียน บอกว่า ก็มองว่ายังเป็นตัวของตัวเองอยู่ เราอยากพูดอะไรออกมาจากใจ แต่บางทีใจอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องใช้สมองด้วย ก่อนหน้านี้อาจจะใช้ใจเยอะไปหน่อย ตอนนี้อาจจะต้องหายใจลึก ๆ ใช้สมองด้วย ก็เป็นการเรียนรู้ที่ดี แล้วก็คิดว่าถ้าไม่ใช่พี่เขา ก็คงไม่มีโอกาสได้มาเรียนรู้อะไรแบบนี้