กระชับสัดส่วน ด้วยเทคโนโลยี ปั้นหุ่นลีนด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ทางลัดสวยไว มีวิธีลดน้ำหนักและลดสัดส่วนยังไงบ้าง ตามมาดูกัน
หุ่นนาฬิกาทราย เอวเอส เป็นหุ่นที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยวินัยจากการลดน้ำหนักและออกกำลังกาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม้จะได้ผลยั่งยืน แต่ก็เป็นวิธีที่เหนื่อย ทว่าปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวหน้า หลายคนที่พอมีทุนทรัพย์จึงหันไปพึ่งพาวิทยาการทางการแพทย์ในการปั้นหุ่น ลดสัดส่วน สำหรับใครที่มองหาทางลัดอยู่ กระปุกดอทคอมขอพาไปทำความรู้จัก 5 เทคโนโลยีกระชับสัดส่วน จะมีวิธีใดบ้าง และช่วยให้หุ่นลีนได้ยังไง ตามมาดูกันเลยค่ะ
5 เทคโนโลยีกระชับสัดส่วน
สำหรับใครที่มองหาวิธีการปั้นหุ่นด้วยเทคโนโลยีอยู่ เราจะมาแนะนำว่ามีวิธีใดบ้าง และมีวิธีการทำงานยังไง
1. ฉีดสลายไขมัน
ไม่ว่าจะเป็น เมโสแฟต หรือ Lipo V เป็นวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยตัวยาจะทำให้เซลล์ไขมันส่วนเกินเกิดการแตกตัวและขับออกพร้อมของเสียในร่างกาย โดยจะฉีดเข้าไปในบริเวณชั้นไขมันโดยตรง เพื่อให้เซลล์ไขมันตายและสลายตัวลงตามบริเวณจุดที่ฉีด อีกทั้งตัวยาในปัจจุบันก็สามารถช่วยกระชับผิวได้ด้วย โดยมีข้อดีคือ ช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้รวดเร็วกว่าการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร สามารถฉีดสลายไขมันได้อย่างตรงจุดตามที่ต้องการ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และราคาไม่สูง แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ไขมันสามารถจับตัวขึ้นมาใหม่ได้เสมอ อาจจะต้องฉีดย้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น และไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเยอะ ๆ เป็นต้น
2. ความเย็นบำบัด
ซึ่งที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คือ Cool Sculpting เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันใต้ผิวหนังด้วยความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการสะสมของไขมันซึ่งกำจัดออกได้ยาก เช่น บริเวณหน้าท้อง บริเวณข้างลำตัว ใต้เสื้อชั้นใน ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น โดยเป็นแบบ Non-invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น วิธีนี้ถือได้ว่าเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่ปลอดภัยที่สุด ไม่เกิดความเจ็บปวดและรอยช้ำเหมือนกับการดูดไขมันทั่วไป ทำให้ผิวกระชับได้รูปได้สัดส่วน เรียบเนียน โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
3. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
มีชื่อเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า HI-EMT เป็นเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก โดยวิธีการทำงานคือ แพทย์จะทำการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลงไปกระตุ้นชั้นกล้ามเนื้อใต้ชั้นผิวหนัง กล้ามเนื้อจะเกิดการหดเกร็งอย่างรุนแรง และจะมีการหดเกร็งอย่างต่อเนื่อง ไขมันและกล้ามเนื้อที่เกาะกันอยู่ก็จะสลายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว และร่างกายก็จะสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่นมากกว่าเดิม หลังทำจะไม่รู้สึกเจ็บหรือปวด ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น เพียงแต่จะทำให้รู้สึกเมื่อยล้าในบริเวณที่ทำ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ แต่จะต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 4 ครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
4. ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เป็นวิธีแรก ๆ ที่ใช้ในการกระชับสัดส่วน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ คาร์บ็อกซี่ นั่นเอง โดยวิธีการคือ นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนให้แตกออก เพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลือง ใช้ในการสลายไขมันเฉพาะจุด ลดเซลลูไลท์ อีกทั้งเมื่อร่างกายมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปก็จะเร่งให้เกิดการใช้พลังงานเพื่อกำจัดก๊าซออกไป ทำให้ได้เผาผลาญไขมันเพิ่มเติม แต่มีข้อเสียคือไขมันสามารถกลับมาสะสมได้เช่นกัน
5. ใช้คลื่นเสียง (Ultrasound)
เป็นการส่งพลังงานผ่านผิวหนังโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เปรียบเสมือนการเข้าทำลายเซลล์ไขมันทีละเซลล์จนเซลล์แตกตัว จากนั้นเซลล์ไขมันเหล่านี้จะถูกขับออกทางกระบวนการธรรมชาติ สามารถลดได้ทุกบริเวณในร่างกาย เช่น หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา นอกจากนี้ยังช่วยเร่งระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ผิวที่เป็นเปลือกส้มมีเซลลูไลท์เรียบเนียนและกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ต้องพักฟื้นและไม่มีผลข้างเคียง
นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ เข้ามาช่วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น การนวดสลายไขมัน ซึ่งถือเป็นวิธีลัดที่ช่วยให้หุ่นดีแบบทันใจ ใครสนใจวิธีไหนก็ลองศึกษาข้อมูลและทำกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : patchaclinic.com, yanhee.net, starclinic.co.th, ayaskinclinic.com, clamourclinic.com