เจมส์ จิรายุ เล่าโมเมนต์ขอ โฟม แต่งงาน บอกขอโทษที่ช้า... รู้สึกยิ่งกว่าละคร ตอนนั้นมีสั่น !

          เรียกว่าประกาศข่าวดีส่งท้ายปีกันเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ที่ได้ขอ โฟม แฟนสาวนอกวงการแต่งงาน หลังคบหาดูใจกันมานาน 10 ปี ท่ามกลางความยินดีของแฟน ๆ และเพื่อน ๆ ในวงการ

อ่านข่าว : เจมส์ จิรายุ ขอแฟนสาว โฟม แต่งงานแล้ว ! ฉลองรัก 10 ปี ด้วยข่าวดีสุดชื่นมื่น

          โดยล่าสุด (25 ตุลาคม 2567) เจมส์ จิรายุ ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรกว่า โมเมนต์นั้นไปเซอร์ไพรส์เขา เราจะขอเขาแต่งงานแล้ว จริง ๆ คิดและคุยเรื่องนี้มาสักระยะนึงแล้ว แต่ด้วยความที่ทุกอย่างดูจะไม่ลงตัวเท่าไร งานยังคั่งค้างเยอะ เลยยังไม่ได้สักที
 

          - ตอนนั้นโฟมเขาบอกว่า หรือว่าจะไม่แต่งเลยก็ได้ คือเขาก็เห็นว่าเรากังวล แล้วก็งานยังคงเต็มไปหมดเลย แต่เรารู้สึกว่า สิ่งที่อยากขอเขา หรือว่าอยากจะขอเขาแต่งงาน ผมรู้สึกว่าผมอยากให้เกียรติเขา และแสดงความรักให้กับเขา ว่าเราแคร์เขานะ เรารักเขา

          - ในคลิปไม่มีตอนคุกเข่า คือผมคุกเข่าแล้วเขาเดินหนี เขาไม่รู้ เลยบอกให้กลับมาก่อน เขาบอกว่าไม่คุกเข่าได้ไหม เขาเขิน ปกติชีวิตผมไม่เคยเซอร์ไพรส์เขาได้ แต่ครั้งนี้เซอร์ไพรส์เขาแล้วเขาเขินจริง ๆ เลยเดินหนีไปแล้วกลับมา

          - ตอนนั้นตื่นเต้นมาก มือสั่น ประโยคตอนนั้นผมพูดกับเขาว่า "ขอโทษที่ช้า อย่าโกรธพ่อนะ แต่งงานกับพ่อนะครับ" เป็นประโยคที่ผุดขึ้นมา ณ ตอนนั้นด้วย มีคิดว่า เราก็ไม่รู้ว่าด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป แล้วมันจะทำร้ายจิตใจเขาไหม ก็เลยบอกขอโทษที่ช้า

          - ความรู้สึกยิ่งกว่าละครอีก มือสั่นมาก ตอนแรกก็คิดว่าชิล เพราะเราคุกเข่าในละครมาแล้วหลายเรื่อง พอมาเจอจริง ๆ ก็สั่นเหมือนกัน ตื่นเต้น ตอนนั้นเขาไม่รู้ตัวว่าเราจะขอ พอขอเสร็จเขาก็บอกว่าเดี๋ยวรูปต้องออกไป ติดกิ๊บคิตตี้อยู่เลย เล็บก็ไม่ได้ทำ

          - สถานที่ขอ คือฟาร์มที่สวนผึ้ง ที่เราชอบไปเที่ยว เราชอบบรรยากาศนี้มาก ๆ เคยคุยกัน เคยคิดกันว่าถ้าเรามีโอกาสได้แต่งงานกันที่นี่ มันคงเป็นที่ที่น่ารักดี ก่อนขอก็ได้บอกครอบครัว คุยกันว่าจะขอเขาแต่งงานแล้วนะ แต่ขอให้เก็บเป็นความลับ

          - เขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นได้ ในหลาย ๆ เรื่อง เป็นคนที่อยู่ข้างหลัง คอยเห็นว่าเราเป็นคนคิดเยอะ ทุกอย่างที่เขาซัพพอร์ตมา คิดว่าพิสูจน์ได้ด้วยระยะเวลาที่เขาอยู่ด้วยกัน และเขาก็สามารถเข้าใจผมได้

          - มีความคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นคนนี้ ตอนเราคุยกันแรก ๆ มันจะมีความหวือหวาประมาณนึง พอระยะเวลามันผ่านไป ผ่านเรื่องราวกันมาเยอะแยะ เราก็รู้สึกว่าคนนี้แหละ ที่เราจะประคองและจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันไปอีกเรื่อย ๆ

          - มีฤกษ์แต่งแล้ว เดี๋ยวมาบอกอีกที จริง ๆ มีแพลนไว้หมดแล้ว ได้คุยกันมาก่อนแล้ว คิดมาสักระยะนึง เรื่องแหวนก็เคยลองแย้บ ๆ ถามเขาดู แล้วซื้อไปเซอร์ไพรส์เขา เรื่องขนาดนิ้วก็เคยพาเขาไปวัด เก็บไว้นานแล้ว ไม่ได้ออกแบบพิเศษ แต่สั่งทำ เรื่องขนาดอาจไม่ใช่สาระสำคัญ คิดว่ามันต้องเป็นอะไรที่คู่ควรกับเขาจริง ๆ ประเมินค่าไม่ได้จริง ๆ