9 เหตุผลควรให้อภัย หลังจับได้ว่าเขาโกหก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครไม่เคยโกหก การโกหกจึงถูกมองเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นอยู่กับว่าเรื่องที่โกหกเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แล้วจะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่างไร หลายคนจึงเลือกที่จะไม่ตัดสินว่าคนโกหก คือ คนไม่ดี แต่มักจะดูที่เจตนาลึก ๆ ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนคนนั้นโกหกกันแน่ สำหรับคู่รักเองก็เช่นกัน การโกหกเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเองหรือคนรักก็ตาม และหากคุณจับได้ว่าคนรักโกหกก็อย่าเพิ่งวู่วามตัดสินอะไร แต่ควรดูที่เจตนาแท้จริงของเขามากกว่า วันนี้เราจึงมี 9 เหตุผลดี ๆ ที่ควรให้อภัย หลังจับได้ว่าเขาโกหก จากเว็บไซต์ magforwomen มาแนะนำกัน

1. พิจารณาสาเหตุที่เขาโกหก

          เราเข้าใจดีว่าเมื่อคุณจับได้ว่าคนรักโกหก คุณอาจรู้สึกโดนหักหลังหรือมีความคิดแง่ลบมากกว่าแง่บวก หากเป็นเรื่องเล็กก็มองว่าทำไมเรื่องแค่นี้ไม่บอกกันดี ๆ และในขณะเดียวกันหากเป็นเรื่องใหญ่ คุณก็จะยิ่งรู้สึกช้ำใจมาก ดังนั้นก่อนจะเอาความคิดแง่ลบมาสุมไว้ในหัว ให้ตั้งสติแล้วพิจารณาสาเหตุที่เขาโกหกก่อนจะตัดสินใจอะไรต่อจากนี้

2. พยายามทำความเข้าใจเจตนาของเขา

          หลังจากใจเย็นลงแล้วก็ลองทบทวนถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา จริงอยู่ที่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ควรโกหก เพราะการโกหก ก็คือ การโกหกวันยังค่ำ ทว่าในบางครั้งเขาอาจยังไม่พร้อมพูดความจริงหรืออยากทำให้คุณสบายใจและไม่อยากให้คุณคิดมากกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมก็เป็นได้ แม้ฟังดูแล้วมันอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ แต่ลองย้อนถามตัวเองว่าคุณเองก็คงเคยโกหกแบบไม่ตั้งใจเช่นกัน

3. ฟังสิ่งที่เขาพูด

          เชื่อว่าหลังจากนี้นอกจากคำขอโทษแล้ว เขาเองก็คงมีคำอธิบายที่อยากให้คุณรับฟังเช่นกัน ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปก็ควรได้รู้ความจริงก่อนว่าคำอธิบายของเขามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งนี้เองจะทำให้คุณรู้เจตนาที่แท้จริงของเขา อย่ากลัวที่จะฟังเหตุผลหรือการเผชิญหน้ากับเขา โดยเฉพาะหากสาเหตุที่เขาต้องโกหกอาจเป็นเพราะความใจร้อนและวู่วามของคุณ เพราะบางครั้งเขาก็แค่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้น และไม่ได้มีเจตนาจะโกหกคุณจริง ๆ ที่สำคัญเคารพในสิ่งที่เขาพูด เพราะหากเป็นเช่นนั้นคุณเองก็ต้องปรับปรุงตัวเองเช่นกัน

4. การโกหกเกิดขึ้นได้เสมอ

          ฟังดูเหมือนตลกร้าย แต่ต้องยอมรับว่าการโกหกมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอกับทุกคน ซึ่งหลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา (ทั้งที่มันก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา) เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าการโกหกก็คือการโกหกวันยังค่ำ ทว่าคุณเองก็คงเคยตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนทำให้ต้องโกหกแบบไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ซึ่งหากคุณคิดได้เช่นนี้มันอาจเป็นเรื่องง่ายที่จะให้อภัยคนรักเมื่อเขาโกหก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูความสมเหตุสมผลและเจตนาของเขาด้วยเช่นกัน

5. บางครั้งเขาก็รู้สึกผิดจริง ๆ

          ไม่ว่าเรื่องที่เขาโกหกจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตก็ตาม บางครั้งเขาอาจจะรู้สึกผิดจริง ๆ ก็เป็นได้ แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อใจเขาได้เหมือนเดิม ซึ่งคงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วล่ะ เพราะการสำนึกผิดไม่ใช่แค่การขอโทษ แต่ต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น จึงจะเรียกว่าสำนึกผิดอย่างแท้จริง

6. ให้โอกาสเขา

          แน่นอนว่าคนที่รักและห่วงใยคุณคงไม่อยากเห็นคุณเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคำแนะนำของพวกเขา ก็คือ ให้คุณยุติความรักครั้งนี้ ไม่ผิดเลยที่พวกเขาจะคิดเช่นนี้ แต่คุณเองก็ควรคิดให้ดีก่อน เพราะอย่างน้อยคุณน่าจะรู้จักคนรักของคุณดีกว่าที่เพื่อน ๆ ของคุณรู้จักเขา หากทบทวนแล้วว่าสิ่งที่เขาโกหกไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อคุณก็ลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง คราวนี้หากเขายังโกหกคุณซ้ำแล้วซ้ำอีกก็คงต้องโบกมือลาแบบไม่มีวันรีเทิร์นแล้ว

7. อย่าโทษเขาหรือโทษตัวเอง

          ไม่ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขาโกหก ก็อย่าโทษเขาหรือโทษตัวเอง หากมันเลวร้ายจนเกินให้อภัยก็คิดเสียว่าคุณโชคดีแล้วที่ไม่หลวมตัวกับผู้ชายแบบนี้ไปทั้งชีวิต หรือถ้าหากการโกหกไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร สิ่งที่คุณต้องทำ ก็คือ การให้โอกาส ให้อภัย และลืมมันไปก็เท่านั้น

8. มันอาจเป็นความผิดพลาดครั้งเดียวของเขาก็ได้

          ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก ทุกคนย่อมมีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น และการโกหกครั้งนี้อาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งเดียวของเขาก็ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเอาความผิดพลาดครั้งนี้ของเขามาตัดสินทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ ไม่แน่ว่าหลังจากนี้เขาอาจจะเป็นเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนรักที่ดีที่สุดของคุณก็เป็นได้ ก่อนจะตัดสินหรือผลักไสเขาออกไป ลองให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

9. ทำข้อตกลงร่วมกัน (อีกครั้ง)

          เชื่อว่าคู่รักส่วนใหญ่คงมีข้อตกลงร่วมกันตั้งแต่แรก ๆ แล้ว โดยเฉพาะ "การไม่โกหกกัน" น่าจะเป็นข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าหากว่าเขาทำผิดคำสัญญาหรือผิดข้อตกลง และคุณเลือกแล้วที่จะให้อภัยก็ต้องทำข้อตกลงร่วมกันอีกครั้งว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามคุณและคนรักจะไม่โกหกกันและกัน นอกจากนี้ก็อย่าเอาเรื่องที่ผ่านมาแล้วมาพูดซ้ำ ๆ ในเวลาที่ทะเลาะกันด้วยนะคะ นอกจากจะไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณและเขาเจ็บด้วยกันทั้งคู่

          การคบกันด้วยความจริงใจและเปิดเผยเป็นกุญแจสำคัญของความรัก นอกจากนี้การให้โอกาสและการให้อภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ถ้าหากทบทวนแล้วว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดแต่ตั้งใจจะโกหกคุณจริง ๆ ก็คงต้องทำใจยอมรับและเดินออกมาดีกว่า เพราะชีวิตของคุณไปได้ไกลกว่านี้และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาปวดหัวกับคนที่ไม่จริงใจและสร้างเรื่องให้ตลอด





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 เหตุผลควรให้อภัย หลังจับได้ว่าเขาโกหก อัปเดตล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา 17:13:05 4,041 อ่าน
TOP
x close