วิธีกำจัดกลิ่นตัวและคุมให้อยู่หมัด 3 เทคนิคเด็ด ต้องทำอย่างไรบ้าง และมีวิธีเลือกโรลออนอย่างไรให้เหมาะ จะได้บอกลากลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อ และปัญหาใต้วงแขน
ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวเป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายคน บางทีก็รู้สึกว่าดูแลความสะอาดดีแล้วนะ อาบน้ำเช้า-เย็นทุกวัน แต่ทำไมกลิ่นตัวก็ยังมาเยือนอยู่ดี แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะกระปุกดอทคอมจะพาไปดูวิธีกำจัดกลิ่นตัว และวิธีเลือกโรลออนที่ใช่ เพื่อบอกลากลิ่นเหงื่อและปัญหาใต้วงแขน
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า “เหงื่อ” จริง ๆ แล้วแทบจะไม่มีกลิ่นเลย กลิ่นตัวที่เราได้กลิ่นเกิดจากการที่ แบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังไปย่อยสลายโปรตีนและไขมันในเหงื่อบางประเภทที่มาจากต่อมเหงื่ออะโพไครน์ แล้วปล่อยของเสียที่มีกลิ่นออกมาต่างหาก
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวแม้จะดูแลความสะอาดดีแล้วคืออะไร
ถ้าเป็นคนที่ดูแลความสะอาดอย่างดี แต่อาการกลิ่นตัวยังไม่หายขาด อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้
- เชื้อแบคทีเรียยังอยู่ : ถึงแม้จะอาบน้ำแล้ว แต่ถ้าล้างไม่สะอาดพอ หรือไม่ได้ใช้สบู่ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อบางส่วนก็อาจจะยังหลงเหลืออยู่
- ผ้าที่สวมใส่ : เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เช่น พอลิเอสเตอร์ มักจะกักเก็บความชื้นและแบคทีเรียไว้มากกว่าผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ทำให้กลิ่นติดฝังได้ง่ายกว่า
- อาหารการกิน : อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศรสจัด หรือแม้แต่คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ สามารถทำให้เหงื่อและกลิ่นตัวของเราเปลี่ยนไปหรือรุนแรงขึ้นได้
- ความเครียดและฮอร์โมน : เหงื่อที่ออกมาตอนเครียดจะมาจากต่อมเหงื่อคนละชนิดกับเหงื่อที่ออกมาตอนร้อน ซึ่งเหงื่อจากความเครียดนี้จะมีส่วนผสมของไขมันและโปรตีนที่แบคทีเรียชอบ ทำให้เกิดกลิ่นที่ฉุนกว่าปกติ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงมีประจำเดือน หรือวัยทอง ก็มีผลต่อกลิ่นตัวได้เช่นกัน
- ภาวะทางการแพทย์ : บางครั้งกลิ่นตัวที่ผิดปกติหรือไม่หายขาดอาจมีสาเหตุมาจากภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไป หรือภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ หากลองทำทุกอย่างแล้วยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาคุณหมอ
3 เทคนิคเด็ดคุมกลิ่นตัว
มาดู 3 เทคนิคเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้กลิ่นตัวเบาลงอย่างเห็นผลกัน
1. กำจัดแบคทีเรียให้สิ้นซาก (สครับบ้าง โกนบ้าง)
- เน้นอาบน้ำด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ : ลองใช้สบู่ที่มีคำว่า "Antibacterial" หรือ "Antimicrobial" ในการทำความสะอาดบริเวณที่เหงื่อออกเยอะ เช่น ใต้วงแขนและขาหนีบ เพื่อลดจำนวนแบคทีเรียโดยตรง
- เช็ดตัวให้แห้งสนิท : หลังอาบน้ำ ต้องแน่ใจว่าใต้วงแขนและบริเวณข้อพับแห้งสนิทจริง ๆ เพราะความชื้นคือแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของแบคทีเรีย
- จัดการขน : ขนบริเวณใต้วงแขนเป็นที่สะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย การโกนหรือเล็มขนเป็นประจำจะช่วยลดพื้นที่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้
- สครับผิว : ลองสครับใต้วงแขนเบา ๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรียที่สะสมอยู่
2. เลือกเสื้อผ้าให้เป็นมิตรกับผิว
- เน้นผ้าธรรมชาติ : เลือกสวมเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือขนสัตว์ เพราะเป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดีกว่าและช่วยให้เหงื่อระเหยได้ง่าย
- ซักให้เร็ว : เมื่อออกกำลังกายเสร็จหรือเหงื่อออกเยอะ ควรรีบนำเสื้อผ้าไปซักทันที อย่าทิ้งไว้ในตะกร้านาน ๆ เพราะจะทำให้กลิ่นติดฝังแน่น
3. ปรับอาหาร ลดเครียด ชีวิตดีขึ้น
- ลดอาหารกลิ่นแรง : พยายามลดอาหารที่มีกลิ่นแรง หรือเครื่องเทศรสจัดที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
- จัดการความเครียด : เมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งเหงื่อที่มีกลิ่นแรงออกมา ลองฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เพื่อช่วยลดเหงื่อจากความเครียด
วิธีเลือกโรลออนที่ใช่
โรลออนหรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ซึ่งมีวิธีทำงานต่างกัน
- โรลออนระงับกลิ่น (Deodorant) มีส่วนผสมสำคัญคือ สารต้านแบคทีเรียและน้ำหอม มีหน้าที่ต่อสู้กับกลิ่น โดยการปรับสภาพผิวใต้วงแขนให้แบคทีเรียอยู่ไม่ได้ เหมาะกับคนที่เหงื่อไม่เยอะ แต่มีกลิ่นตัว
- โรลออนลดเหงื่อ (Antiperspirant) มีส่วนผสมสำคัญคือ สารประกอบอะลูมิเนียม คุณสมบัติหลักคือลดเหงื่อ โดยการสร้างฟิล์มบาง ๆ ไปอุดรูขุมขนชั่วคราว เหมาะกับคนที่เหงื่อเยอะมากและมีกลิ่นตัวตามมา
เลือกยังไงดี
- ถ้าเหงื่อเยอะ มีกลิ่น : เลือกใช้โรลออนลดเหงื่อ เพื่อลดต้นตอของปัญหา
- ถ้าเหงื่อไม่เยอะ แต่มีกลิ่น : เลือกใช้โรลออนระงับกลิ่น ที่มีส่วนผสมต้านแบคทีเรียที่ดี
- ถ้าผิวแพ้ง่าย : ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และปราศจากอะลูมิเนียม เพื่อลดการระคายเคือง
- สูตรแบบแท่ง หรือแบบครีม : มักจะมีความเข้มข้นกว่าสูตรโรลออน หรือสเปรย์ ลองเลือกใช้ตามความชอบและความสะดวก
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- ทาตอนกลางคืน : สำหรับโรลออนลดเหงื่อ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทาในช่วงกลางคืนก่อนนอน บนผิวที่แห้งสนิท เพราะเป็นช่วงที่ต่อมเหงื่อทำงานน้อยที่สุด ทำให้สารลดเหงื่อซึมเข้าไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรึกษาแพทย์ : หากเหงื่อออกมากผิดปกติจนรบกวนชีวิตประจำวัน หรือกลิ่นตัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยา หรือการฉีดสารบางชนิดเพื่อลดเหงื่อ
การจัดการปัญหากลิ่นตัวไม่ได้จบแค่การอาบน้ำอย่างเดียว แต่ต้องครอบคลุมทั้งการดูแลความสะอาดอย่างล้ำลึก การเลือกเสื้อผ้า การปรับอาหารการกิน และที่สำคัญคือการเลือกใช้โรลออนให้ถูกประเภท มั่นใจได้เลยว่าถ้าทำตามนี้ ชีวิตจะหอมสดชื่นและมั่นใจขึ้นอีกเยอะ






