คู่รักคู่ไหนที่เพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์หรือความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น ทว่าต่างฝ่ายก็ต่างยังไม่มั่นใจหรือไม่กล้าฟันธงว่าตกลงเราคบกันแบบไหนละก็ เชื่อเลยว่าคุณทั้งคู่จะเข้าใจถึงความรู้สึกต่อไปนี้ ที่เว็บไซต์ wmnlife บอกว่า คู่รักที่ยังกั๊กความรู้สึกต่อกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ และถ้าดูแล้วว่ามันตรงกับคุณก็แสดงว่าตอนนี้คุณรักเขาไปทั้งหัวใจแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่เก็บงำความรู้สึกเลยค่ะ สู้ชัดเจนไปเลยดีกว่า หากว่าใจตรงกันก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลากั๊กความรู้สึกกันอยู่แบบนี้
1. พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกแต่ก็ทำไม่ได้
คุณกับเขาอาจมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่ต่างฝ่ายต่างปากแข็งหรือมัวรักษาฟอร์มกันอยู่ก็อาจทำให้คุณยังไม่กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกออกไปทั้งหมด หรือพยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้ แต่จนแล้วจนรอดคุณก็ไม่สามารถเก็บมันไว้ได้ เอาเป็นว่าปล่อยหัวใจตัวเองไปเถอะค่ะ หากว่าคุณรู้สึกดี ๆ กับใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องห้ามใจตัวเอง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีใจตรงกันกับคุณก็ได้
2. ข้อความกั๊ก ๆ
คุณเคยได้รับข้อความกลางดึกหรือไม่ และแทนที่คุณจะงัวเงียตื่นขึ้นมา แต่คุณกลับตาลุกวาวเมื่อเห็นว่ามันเป็นข้อความจากคนที่คุณชอบ ที่สำคัญคุณยังตอบกลับเขาไปในทันทีประหนึ่งว่าคุณกำลังออนไลน์อยู่ ณ ตอนนั้น หากเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าคุณกับเขามีซัมติงแล้วล่ะ เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเผยความในใจออกมาจริง ๆ ก็เท่านั้น
3. คิดถึงเขาตลอดเวลา
ไม่ว่าคุณจะกำลังแดนซ์อยู่กับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานแค่ไหน แต่ในใจของคุณยังคิดถึงเขาตลอดเวลาเพียงแต่ไม่สามารถโทรศัพท์หรือส่งข้อความไปบอกเขาได้ว่าคุณคิดถึงและอยากให้เขามาอยู่ใกล้ ๆ หรือฝันหวานให้เขาโทรศัพท์หาคุณแล้วชวนคุณไปเดท หากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าคุณหลงรักเขาแบบเต็มเปาแล้วล่ะ แทนที่จะเป็นฝ่ายรอเขาอยู่อย่างนี้ ทำไมไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นชวนเขาไปดูหนังฟังเพลงล่ะ อย่างน้อยหากเขาปฏิเสธ ความไม่ชัดเจนต่าง ๆ ก็จะทำให้คุณเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าเขาคิดกับคุณแค่เพื่อนเท่านั้น และคุณจะได้ชัดเจนกับตัวเองสักที
4. คุณพยายามทำให้เขาหึง
แม้จะยังไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร แต่คุณก็จะแอบเข้าข้างตัวเองแล้วนิดหนึ่งว่าเขาอาจมีใจให้กับคุณบ้าง หรือไม่คุณก็พยายามพิสูจน์ว่าเขาคิดกับคุณอย่างไรโดยการทำให้เขาหึงหวงคุณ โดยที่คุณอาจจะแกล้งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนหนุ่ม หรือโต้ตอบกับใครบางคนผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้เขาเห็น พฤติกรรมแบบนี้ก็บอกได้เลยว่าคุณรักเขาเข้าแล้ว และก็อยากให้เขาชัดเจนกับคุณเสียที
5. คุณไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเขาคือ "เพื่อน" หรือ "คนรัก"
หากมีใครบางคนถามว่าคุณกับเขาอยู่ในสถานะใด หากคุณกระอักกระอ่วนและไม่รู้จะตอบอย่างไรก็เป็นเพราะว่า คุณสับสนในความสัมพันธ์ตอนนี้ เช่น หากคุณตอบว่า "เขาเป็นแค่เพื่อน" ก็กลัวว่าคุณอาจจะพลาดบางอย่างไป หรือหากคุณตอบว่า "เขาเป็นแฟน" ก็อาจดูเหมือนว่าคุณออกตัวแรงไปทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยเอื้อนเอ่ยขอคุณเป็นแฟนเลยสักครั้ง ซึ่งความไม่ชัดเจนเหล่านี้เองที่ทำให้คุณปวดหัวไม่น้อยเลย
6. เพื่อน ๆ ของคุณยังรู้เลย
แน่นอนว่าเพื่อนสนิทของคุณและเขารู้ดีว่าคุณทั้งคู่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน เพียงแต่คุณเองนั่นแหละที่ยังไม่ยอมเปิดเผยมันออกมาแบบจริง ๆ จัง ๆ สักทีไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งบางครั้งเพื่อน ๆ ของคุณก็อาจจะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องพยายามทำให้คุณทั้งคู่รู้ใจตัวเองจนยอมปริปากสารภาพรักซึ่งกันและกัน แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพราะคุณยังมัวกั๊กกันอยู่จนทำให้กองเชียร์เบื่อหน่ายในความไม่ชัดเจนของคุณ
7. ประโยคสุดท้ายก่อนร่ำลากัน
อีกเรื่องที่คู่รักไม่ชัดเจนไม่มั่นใจก็คือ ประโยคสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านหลังกินข้าวกัน หรือกำลังจะวางหูโทรศัพท์ ในใจลึก ๆ ของคุณอาจจะอยากบอกคำหวาน ๆ ให้เขานอนหลับฝันดี แต่ด้วยที่ยังกั๊กกันอยู่ก็อาจจะบอกเพียงว่า "แล้วเจอกัน" หรือ "ไว้คุยกัน" ใครที่กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ก็เปิดเผยความในใจออกไปได้แล้วนะคะ เพราะหากมัวแต่คิดแบบนี้จะทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ และเสียเวลาในการเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบจริงจังเสียที
เชื่อว่าหลายคู่ก่อนที่จะตกลงปลงใจคบกันเป็นแฟนก็ต้องเคยตกอยู่ในสภาวะกั๊กความรู้สึกกัน แต่ถ้าหากว่าคุณมั่นใจแล้วว่าต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกันก็อย่ามัวกั๊กหรือเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้เลยค่ะ ความจริงใจและความชัดเจนเท่านั้นที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณพัฒนาขึ้นได้ หากมัวแต่กั๊กกันอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริง ๆ