x close

กิ๊บซี่-กิ๊ฟซ่า สาวเปรี้ยวซ่า เปิดใจสเป็คหนุ่มในฝัน

เกิร์ลลี่ เบอร์รี่


กิ๊บซี่-กิ๊ฟซ่า สาวเปรี้ยวซ่า เปิดใจสเป็คหนุ่มในฝัน (ทีวีอินไซด์)
   
          วงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ แจ้งเกิด 4 สาวเซ็กซี่ "กิ๊บซี่-กิ๊ฟซ่า-แนนนี่-เบลล์" นอกจากความเซ็กซี่แล้ว 2 สาว กิ๊ฟซี่ และ กิ๊บซ่า จะมีเรื่องความเปรี้ยว เฉี่ยว หลุดออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะภาพสาวปาร์ตี้ วันนี้ 2 สาวจะขอเปิดใจกับฉายา และบรรดาภาพหลุดต่าง ๆ ที่มีออกมา อยากรู้จักตัวตนพวกเธอต้องไปดูกัน

ช่วงนี้สาว ๆ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ มีงานแสดงเข้ามากขึ้น

          กิ๊บซี่ : ก็เป็นช่วงของเวลามากกว่าค่ะ คือตอนนี้มันเป็นโอกาสเข้ามาแล้วโอเค ในส่วนของอัลบั้มเพลงก็ยังทำอยู่ อัลบั้มล่าสุดก็เพิ่งออกไปเอง คิดว่าน่าจะกลางปีหรือปลายปีก็จะออกอีก ตอนนี้คิดว่าเป็นช่วงที่ออกคอนเสิร์ต แล้วก็งานหนัง งานละคร กิ๊ฟซ่า ก็มีงานหนังเหมือนกัน

          กิ๊ฟซ่า : ใช่ค่ะ มีหนังค่ายใหม่ของอาร์เอส ชื่อว่า ฟิล์ม อาร์ อัส เป็นเรื่องแรกของค่ายนี้ค่ะ ชื่อเรื่องสามย่าน

งานแสดงกับงานเพลง ชอบงานไหนมากกว่ากัน

          กิ๊ฟซ่า : ก็จริง ๆ หนูชอบงานแสดงอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าชีวิตก็ดำเนินมาสายนักร้องตลอด แต่ก็ชอบๆที่จะร้องเพลง ชอบที่จะเต้นอยู่แล้ว แต่พอมีงานแสดงเข้ามา มันเป็นสิ่งที่เราชอบมานานมากแล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีค่ะ รู้สึกแฮปปี้ที่ได้ทำ

กิ๊บซี่ เล่นหนังมาหลายเรื่องเหมือนกัน

          กิ๊บซี่ : เล่นมาหลายเรื่องแล้วค่ะ (ยิ้ม) ก็ดีค่ะ ถือว่าเป็นการทำงานที่เดินไปข้างหน้า ถือว่าเป็นการพัฒนาแบบว่าไม่ได้กระโดดข้าม ไม่ได้แบบว่าอยู่ดี ๆ ไม่รู้เป็นใครมาเล่นหนังเรื่องนี้แล้วดัง แต่เราเป็นนักร้องมาก่อน เหมือนเดินไปเรื่อย ๆ ค่ะ โอเคเรามาเล่นหนังได้การตอบรับที่ดีในหลาย ๆ เรื่อง อีกอย่างได้มาเล่นละครเรื่อง มงกุฎดอกส้ม ก็ดีค่ะ

ตอนนี้ 2 สาวถือเป็นเซเลบ ออกงานนู้นงานนี้ด้วย

          กิ๊ฟซ่า : คือเรียกว่าเซเลบคงไม่ถูกค่ะ เพียงแต่ว่าเรามีโอกาสไปรู้จักเพื่อนที่เค้ามีหน้ามีตาในสังคมอย่านี้ดีกว่า แล้วบางทีเราไปที่ในงานส่วนตัวก็จริง แต่ว่ามีการถ่ายรูปลงออนไลน์ ซึ่งใครก็ได้ก็สามารถไปดึงได้ ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจว่าอยากเป็นเซเลบหรือไฮโซ เราแค่เป็นเพื่อนกัน แค่คบคนที่รู้สึกว่าเค้าจริงใจกับเรา แล้วก็คบเพื่อนที่มีอะไรใกล้เคียงกัน ไปไหน กินอะไรคล้าย ๆ กัน ประมาณนี้ค่ะ

          กิ๊บซี่ : ใช่ค่ะ คือไลฟสไตล์ของเราค่อนข้างชัดเจน คือการทำงานก็ส่วนนึง พาร์ทของชีวิตส่วนตัว การเรียนก็ส่วนนึง ชีวิตสนุกสนานก็ส่วนนึง เราก็อยู่ของเรา เรียกว่าเป็นธรรมชาติมากกว่า คนมักจะเข้ามาล้วงมันออกไปเอง ซึ่งก็ไม่ได้อยากจะโปรโมทอะไร (ยิ้ม) เพราะว่าใช้ชีวิตตามปกติค่ะ ทุกคนใช้ชีวิตของตัวเอง ถ้าพยายามก็ตลกแล้ว ที่ทุกวันจะพยายามใช้ชีวิตที่ไม่ใช่เรา

เรื่องการแต่งตัวแบบนี้ เป็นสไตล์ของเราเอง หรือเป็นเพราะทำอัลบั้ม

          กิ๊บซี่ : (หัวเราะ) ไม่อยากบอกว่ากิ๊ฟซ่าเนี่ย แต่ก่อนเป็นคนไม่แต่งตัวเลย แล้วเสื้อผ้ามีน้อยมาก หน้าก็ไม่เคยแต่ง สีรองเท้าผ้าใบ กระเซอะกระเซิงเหมือนเด็กแก่น

          กิ๊ฟซ่า : กิ๊บซี่แต่ก่อนเค้าจะเป็นแนวโบฮีเมี่ยน (หัวเราะ) เค้าจะแบบอะไรก็ได้ ที่มีลูกไม้ สีขาว อย่างเบลล์จะเป็นอะไรก็ได้ที่สีชมพู แนนนี่จะเป็นแบบพั้งค์ ๆ

          กิ๊บซี่ :  บางวันแนนนี่จะหวานเป็นแนวเดียวกับเบลล์ค่ะ

          กิ๊ฟซ่า : พอมาออกอัลบั้มที่ 2 ปี 2547 ก็มาคุยกันว่าบางทีเราก็ไม่ได้นะ (หัวเราะ) แต่งตัวอะไรกัน ก็เริ่มพัฒนาจากตรงนั้นค่ะ คือพอเราทำอัลบั้มแล้วมันมีแฟชั่นเข้ามา เราก็พยายามคุยกับเค้ามากขึ้น หรือแบบช่วงแรก ๆ ก็ให้เค้าแนะนำ คือพยายามแต่งตัว

แล้วมาลงตัว เรื่องการแต่งตัวกันได้ยังไง

          กิ๊ฟซ่า : กิ๊ฟว่าเค้าดูจากคาแร็คเตอร์ของแต่ละคนมากกว่าค่ะ จริง ๆ ชุดที่ใส่อยู่ก็ไม่ใช่ตัวเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ว่าเค้าดึงคาแร็คเตอร์ของแต่ละคนออกมา

          กิ๊บซี่ : คือต้องบอกก่อนว่าคนเรามองภาพเหมือน สิ่งที่เหมาะกับเราหรือสิ่งที่เราชอบไม่เหมือนกัน อย่างของหนูสิ่งที่เหมาะกับสิ่งที่ชอบค่อนข้างคล้ายกัน แต่ว่าโอเคมันอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ไงค่ะ มันเป็นเรื่องของการมองจากตัวสไตล์ลิสด้วย

รู้สึกยังไงที่คนวิจารณ์เรื่องการแต่งตัว

          กิ๊ฟซ่า : ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อายค่ะ แล้วก็เครียด รู้สึกว่าบางทีเราลงจากเวทีปุ๊บต้องเปลี่ยนชุดเลย เอาเสื้อมาคลุม เพราะสมัยนั้นไม่มีคนใส่แบบนี้ไงค่ะ สมัยนี้คนใส่มากขึ้น เราก็จะมีความรู้สึกว่า อ๋อ...นี่กลายเป็นแฟชั่นไปแล้วนะ คือทุกคนก็ใส่กันหมด เราก็มีความรู้สึกว่าการใส่สั้นมันไม่ได้เรียกว่าเซ็กซี่แล้วล่ะ ความตั้งใจที่จะโชว์เซ็กซี่เราไม่มีตรงนั้น

ผู้ใหญ่เตือนเรื่องการแต่งตัวบ้างมั้ย

          กิ๊บซี่ : ผู้ใหญ่เค้าเข้าใจค่ะ แต่เรารู้ตัวอยู่แล้วว่าถ้าเราทำไป เราเป็นของสังคม คนอื่นคิด เราอาจจะต้องคิด คือไม่เป็นเรื่องที่ต้องมาด่าค่ะ เพราะโตแล้ว ไม่ถึงขนาดนั้น

          กิ๊ฟซ่า : จากที่ดูกระแสที่เขียนกันเรื่องที่นุ่งสั้นไปรับงานรับปริญญาของแนนนี่ คือทุกคนพูดในแนวว่ากิ๊บซี่ไม่มีกาละเทศะ และตั้งใจที่จะแต่งตัวแบบนั้นออกมา ทำไมถึงทำแบบนี้ ใช้อะไรคิด กลายเป็นเรื่องใหญ่เลย คือไม่มีใครรู้เลยว่าเมื่อคืนกิ๊บซี่ถ่ายละครดึก ตื่นมาตอนเช้า แล้วต้องมางานรับปริญญา

          กิ๊บซี่ : หน้าก็ไม่แต่ง ใส่แว่นดำไป ก็ไม่มีอะไรมาก ไปแค่นี้ ใส่แค่นี้แล้วกัน ไปถ่ายรูปเสร็จกลับบ้านนอน

          กิ๊ฟซ่า : คือหลายความคิดเห็นลงลึกมากเกินไป จนกิ๊ฟรู้สึกว่าหาต้นตอของสาเหตุของการแต่งตัวแบบนั้นก่อน หรือถ้าจะว่าเนี่ยไม่ต้องพยายามไปค้นให้ลึก จริง ๆ แล้วตัวคนใส่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยด้วยซ้ำค่ะ

อึดอัดกับกระทู้ในอินเทอร์เน็ตมั้ย

          กิ๊บซี่ : เป็นบางครั้งค่ะ แต่บางทีมาบ่อย ๆ ทุกคนมันมีอารมณ์นะ แต่ก็ไม่ได้แบบว่ารู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าชิน เป็นแบบนี้บ่อย

รู้ตัวมั้ยว่าเราเป็นสาวมั่น

          กิ๊บซี่ : เรามั่นใจในเรื่องที่ถ้าคุยด้วยเหตุผล มันเหมือนกับว่าเราค่อนข้างที่จะเป็นหัวสมัยใหม่ ในบางเรื่อง แต่บางเรื่องก็เก่านะ เช่นผู้หญิงก็ต้องเป็นผู้ชายมาจีบก่อน แต่ไม่มีใครรู้เพราะมันเป็นเรื่องหัวโบราณเกินไป

          กิ๊ฟซ่า : อย่างเรื่องนี้หนูก็คิดเหมือนกัน ถ้าเราชอบใครก็เก็บไว้ (หัวเราะ) อย่างกิ๊ฟถ้าชอบใครมาก ๆ เราไม่ได้จีบเค้าตรง ๆ แต่ถ้าสมมติว่าเค้าปฏิเสธมา เราก็จะเลิก แต่สำหรับกิ๊ฟ ถ้าถามเรื่องหัวโบราณจะเป็นวิธีการปฏิบัติตัวต่าง ๆ มากกว่าค่ะ เช่นเวลาคุยกับผู้ใหญ่ควรทำยังไง ไหว้เราควรตั้งใจไหว้เค้า คือกิ๊ฟจะถนัดเรื่องนี้มากกว่า แต่กิ๊ฟมีข้อเสียเรื่องหลังค่อม ซึ่งก็ยังไม่หายค่ะ (ยิ้ม)

          กิ๊บซี่ : คือด้วยยุคด้วยสมัย บางอย่างคิดแบบเก่าไว้ก็ดี ก็ต้องประยุกต์เอาค่ะ เพราะโลกหมุนไป ไม่อย่างนั้นเราจะใช้ชีวิตลำบาก ชีวิตเกิดมา ตราบใดที่เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราก็ใช้ชีวิตฟรี ๆ หนูมองว่าชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อเอ็นจอยในแต่ละวัน แล้วจะเป็นความสำเร็จ หนูก็ไม่เคยไปกดดันชีวิตใครเลยว่าต้องทำอะไร แต่หนูก็จะพอประมาณเพราะหนูอยู่ในสังคม ไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่ก็ไม่ให้มากเกินไปจนสูญเสียความเป็นตัวเอง

กิ๊บซี่ มักมีภาพหลุด

          กิ๊บซี่ : ไม่หรอกค่ะ เวลาหนูไปตามงานสังสรรค์แล้วเจอคนนั้นคนนี้เยอะแยะ เค้าก็เฮ้ยมาถ่ายรูปกัน ถ่ายเสร็จ พี่เค้าก็ส่งมาให้หนู ก็ผ่าน ๆ ไป หนูไม่จุกจิกเรื่องอย่างนี้ หนูก็ไม่รู้ว่ามันหลุดจากไหน แล้วมองว่าไม่ใช้เรื่องคอขาดบาดตายมาก คือถ้าคิดแบบคนสมัยใหม่ การที่คนเราอยู่ในงานปาร์ตี้แล้วถ่ายรูป คิดว่าหนูเป็นแฟนกับทุกคนเหรอ ไม่เกี่ยว (เน้นเสียง) หนูงงมาก ไม่แฟร์นะ บางทีแฟนคลับมาขอถ่ายรูป ก็ถ่าย ๆ แต่บางทีรู้สึกเศร้าใจ ทำไมล่ะเราถ่ายรูปวันเกิดเราเก็บไว้ไม่ได้เลยหรอ ขนาดมีรูปหนูกับกิ๊ฟ ทำท่าจะจูบกันยังโดนเอามาลงเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรเลย (ยิ้ม)

ถามจริง ๆ เถอะมีแฟนกันหรือยัง

          กิ๊บซี่ : ไม่มีแฟนค่ะ

          กิ๊ฟซ่า : ก็มีดู ๆ อยู่ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน

ดูคนที่จะเข้ามาจีบเรายังไง

          กิ๊บซี่ : หนูว่าคนเรามันมีเคมีค่ะ คนทุกคนไม่ใช่ใครคบกับใครก็ได้นะ มันจะมีเคมีที่จะรู้ว่าชอบกันได้ คบกันได้ ถึงแม้ว่าวันนึงต้องเลิกกัน ผู้ชายที่เข้ามาส่วนใหญ่ ถ้าเค้าไม่ได้คิดร่วมสมัยเค้าก็จะแบบ แต่งตัวโป๊ เป็นเกิร์ลลี่
เบอร์รี่ต้องแรงแน่เลย เราจะรู้เลยว่าไม่มีเคมี คิดคนละแบบ หนูชอบคนมีอีคิว มีโลจิก แยกแยะได้ เจอคนที่เข้าใจโลก โตด้านความคิด

แสดงว่าเลือกอยู่

          กิ๊บซี่ : หนูไม่ได้มีสิทธิ์เลือกขนาดนั้น ในขณะที่เรามองว่าเลือกเค้า เค้าก็เลือกเราเหมือนกัน

คุณแม่ช่วยสกรีนมั้ย

          กิ๊ฟซ่า : ยังไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าเคยแบบมีแฟนแล้วแนะนำให้พ่อแม่รู้จัก พอเลิกกันก็มีปัญหาที่เค้า เราก็แบบไม่เอาดีกว่า คบกันแล้วแบบชัวร์ ๆ ก่อน แล้วค่อยแนะนำ ก็จะมีคนสองคน ที่คบแล้วชัวร์ ๆ แต่สุดท้าย พอไปกันไม่เวิร์คหนูรู้สึกว่าต้องยากแล้ว


เกิร์ลลี่ เบอร์รี่

สเป็คหนุ่ม ๆ

          กิ๊ฟซ่า : หนูชอบคนที่เข้าอกเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง อะไรดี ไม่ดี อะไรถูกผิด อะไรควรทำ ไม่ควรทำ แล้วก็มีความเห็นแก่ตัวที่น้อยหน่อย คือไม่ต้องไม่มี เพราะเรายังมีเลย

          กิ๊บซี่ : แต่ผู้ชายที่เข้าใจผู้หญิงหายากนะ เพราะผู้ชายคิดคนละแบบ

          กิ๊ฟซ่า : คือคนเรามันก็มีข้อดีข้อเสียค่ะ ถ้าข้อดีมันเยอะกว่า ก็ไปกันได้ แต่ถ้าข้อเสียมันกลบข้อดีซะหมด มันก็ไปกันลำบาก

จำเป็นมั้ยต้องหล่อ รวย

          กิ๊ฟซ่า : ไม่ต้องขนาดนั้น (ยิ้ม) เพราะถ้าคบคนรวย แต่ก็ไม่ได้มาเลี้ยงเราอยู่ดี

          กิ๊บซี่ : อยู่ในจุดที่ว่าคบกันเพราะต้องการมีคนมาแชร์ อยากที่จะมีความสุขด้วยกัน แชร์ประสบการณ์ด้วยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน เข้าอกเข้าใจกัน แต่ไม่ต้องมานั่งเลี้ยง

          กิ๊ฟซ่า : ถูกต้อง ไม่ต้องมาซื้อของแพง ๆ ให้ตลอดเวลา จะส่งเรียนหนังสือเหรอ ไม่ต้อง (หัวเราะ)

          กิ๊บซี่ : แต่ผู้ชายประเภทที่แบบเก๋า ป๋า จะเลี้ยงนั่น ซื้อนี่ให้ก็ไม่มีทางเอา เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็น หนูเป็นคนที่ว่า ของพวกนั้นไม่ได้จำเป็นกับชีวิตหนู ก็เลยไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องการ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ สิ่งที่เราอยากได้ก็พอประมาณเท่านั้น ไม่ได้แพงมาก แต่หนูเป็นคนให้ความสำคัญกับการแชร์ประสบการณ์มากกว่า ถ้าหนูว่ามองว่าการที่ชีวิตคนเราสมัยก่อน ผู้หญิงถ้าไม่ทำงานก็จะโดนกด หนูรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เราอย่าไปให้เค้ากด

มีคนเกาะเราดังบ้างมั้ย

          กิ๊บซี่ : ไม่เจอค่ะ

          กิ๊ฟซ่า : เราไม่เจอ แต่คนอื่นเราไม่รู้

          กิ๊บซี่ : พี่ไม่ทันได้เจอหรอก แค่รู้จักก็ไม่ยุ่งแล้ว (หัวเราะ)

          กิ๊ฟซ่า : แต่ผู้ชายเป็นแบบนี้หมดแหละค่ะ คือแรก ๆ ดี แต่พวกที่อยากดัง ลักษณะมันจะไม่เหมือนคนธรรมดา ดูรู้เลยว่าอยากจะเป็น ซึ่งเป็นผู้ชายที่อีเดียดที่สุดเลย (หัวเราะ)

          กิ๊บซี่ : หนูจะดูออกไงคนประเภทนี้ แล้วเค้าคงไม่ชอบเราหรอก เพราะหนูคงไปทำลายความมั่นใจของเค้าเยอะ (หัวเราะ)

เป็นคนโรแมนติกมั้ย

          กิ๊บซี่ : สุด ๆ ค่ะ (ยิ้ม) หนูมองว่าความรักคือพลังอย่างนึง ซึ่งรักแท้ไม่ต้องการอะไรจากเรา นี่คือเรื่องจริง เหมือนน้ำเน่า แต่ถ้าเราคิดถึงเค้า บวกความรู้สึกดี ทำให้เค้า แล้วเราจะรู้สึกดีไปด้วย นี่คือความคิดหนู สำหรับหนูความสุขของหนูเวลามีความรักอยู่ที่การให้ แต่ถ้าเค้ามาทำให้เราหนูจะรู้สึกว่าเค้าจะลำบากหรือเปล่า ชอบให้มากกว่า

          กิ๊ฟซ่า : คงเป็นเรื่องแบบใช้ชีวิตประจำวันด้วยกัน กิ๊ฟเป็นคนค่อนข้างจะเอาใจ แต่จะไม่พูดเยอะ กิ๊ฟไม่ค่อยพูด แต่จะทำให้มากกว่า จะเทคแคร์ เรื่องโรแมนติกคงเป็นแบบเวลามีปัญหาอะไร หรือแบบรู้ว่าชอบกินอันนี้ก็ซื้อไปทิ้งวให้ที่บ้าน แล้วก็กลับ

          กิ๊บซี่ : ก็คือเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ หนูว่าคนเราสำคัญตรงที่ดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆมากกว่าที่จะมาทำสิ่งใหญ่ ๆ เพราะความประทับใจเกิดขึ้นได้จากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ความโรแมนติกถ้าเกิดจากความไม่ตั้งใจ หนูว่ามันจะ
โรแมนติกมากกว่า จริง ๆ นะ

คิดว่าจะแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่

          กิ๊ฟซ่า : คือขอหาสามีดี ๆ ก่อน (หัวเราะ) แล้วถึงตอนนั้นจะบอก

          กิ๊บซี่ : คือไม่ได้แต่งก็ไม่เป็นไร 30 กว่า แก่ ๆ ก็ไม่เป็นไร 40 ก็ไม่เป็นไร แล้วแต่เลย คือไม่ได้คิดค่ะ เพราะว่าหนูมองว่ามันลำบากนะ ถ้าคิดที่จะไปกะไปฟิกซ์ หนูมองว่าไม่จำเป็น สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปมาก (เน้นเสียง) ถ้าไม่เจออย่างนั้นจริง ๆ เราไม่ต้องแต่งก็ได้นะ เพราะจากประสบการณ์ที่หนูเห็น ก็เลิกเยอะนะ หนูว่าครึ่งนึงหย่าร้างกัน คือหย่าร้างไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่แฮปปี้ก็อย่าทรมานเลยดีกว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องของความรู้สึกมากกว่ากรอบบางอย่าง หนูมองว่าไม่ จะคิดออกมานอกกรอบ ที่บ้านหนูพี่น้อง 5 คน คาแร็คเตอร์ไม่เหมือนกันซักคน หนูค่อนข้างที่จะแก่นแก้วตั้งแต่เด็ก แต่หนูรู้เลยว่าหาคนที่เข้ากับหนูยาก

เป้าหมายในงานวงการบันเทิง

          กิ๊ฟซ่า : ก็ต้องดูแนวโน้มค่ะ ว่าสิ่งที่เราทำไปในทางที่ดี ก็คงไปแนวนั้น ไม่ได้วางเป้าไว้ว่าต้องเป็นดาราดัง หรืออีก 20 ปีก็จะเป็นนักร้องอยู่ เพียงแต่ว่าโอเค เราไหลไปตามวิถีของมันเรื่อย ๆ ถ้าตรงนี้ใช่เลย เราก็แหวกทางไปของเราเอง อาจจะเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังก็คงเป็นอีกเรื่องนึง แต่ก็คงทำงานในวงการแบบนี้ค่ะ

          กิ๊บซี่ : สำหรับหนู ๆ ไม่เคยรู้สึกตัวเองว่าเป็นดาราเลย คิดว่ามันเป็นงานอย่างนึง ไม่ได้มานั่งคิดว่าตัวเองเป็นดารา เพราฉะนั้น ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยคิดเลย หนูเตรียมพร้อมที่จะไม่มีงานเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมันเกิดขึ้นได้ตลอด เพราะรู้เลยว่าการคาดหวังในอนาคตเราควรที่จะไปอยู่เรื่องอื่นมากกว่า เช่น ธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่มันขึ้นอยู่กับเรา เป็นนายตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องของความสามารถ แต่เป็นเรื่องของโชคชะตาและโอกาส ที่เราเลือกไม่ได้ หนูไม่อยากคิดในสิ่งที่คาดหวังไม่ได้ แต่ทุกวันนี้งานยังดีอยู่ ดีมาก แฮปปี้ เพราะฉะนั้นคาดหวังในระยะใกล้ได้ ทำช่วงนี้ให้ดีที่สุด สุดแค่ไหนแค่นั้น เพราะเป้าหมายหลักมองเป็นด้านอื่นมากกว่า

กิ๊ฟซ่า ล่ะ อยากทำธุรกิจะไรมั้ย

          กิ๊ฟซ่า : ตอนนี้ก็มีร้านโซฟาค่ะ ตรงถนนหลานหลวง ทำเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ตอนนี้ดูอยู่ว่าอาจจะปรับเป็นขายตอนกลางวันด้วยค่ะ (ยิ้ม)

กิ๊ฟซ่า ฝากผลงานหนัง

          กิ๊ฟซ่า : ค่ะ สำหรับหนังเรื่องสามย่านนะค่ะ เป็นหนังเรื่องแรกของกิ๊ฟ ยังไงก็ติดตามแล้วกัน ประมาณ 20 พฤษภาก็คงได้ดูกันค่ะ

กิ๊บซี่ ฝากละคร

          กิ๊บซี่ : ก็คิดว่าภายในปีนี้น่าจะได้ดูกัน มงกุฏดอกส้ม หนูคิดว่ามันเป็นมาสเตอร์พีซ ผลงานที่หนูก็รู้สึกว่าตัวเองทุ่มทุนสุดชีวิต ถ่ายเป็นปีนะค่ะ เพราะฟอร์มใหญ่ ละเอียดมาก ถ่ายต่างจังหวัดตลอดเลย คิดว่าดีค่ะ เพราะบทประพันธ์ดีอยู่แล้ว คนหลายคนก็รอดูอยู่ เราก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว

อัลบั้มใหม่จะได้ฟังเมื่อไหร่

          กิ๊ฟซ่า : ก็ถ้าเป็นซิงเกิ้ลใหม่ ไม่น่าจะเกินกลางปีนี้ค่ะ แต่อัลบั้มดูอีกทีนึง เพราะเราต้องเอาที่ดีที่สุด

          ในความเป็นสาวเปรี้ยว แต่เราก็ได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของทั้งคู่ เป็นคนที่มีความคิด และมุมมองที่ฉลาดเข้าขั้นเลยทีเดียว ดังนั้น หนุ่มไหนคิดจะเข้ามาเพียงเพื่ออยากคบเพราะอยากดังด้วย หรือเพราะแค่อยากเชยชมความเซ็กซี่ ก็จะได้รู้กันสักทีว่า "หมดหวัง" ชัวร์!


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก FHM

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กิ๊บซี่-กิ๊ฟซ่า สาวเปรี้ยวซ่า เปิดใจสเป็คหนุ่มในฝัน อัปเดตล่าสุด 14 เมษายน 2553 เวลา 17:51:36 1,468 อ่าน
TOP