ในโลกแห่งเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ฉับไว ทำให้เรามักจะได้อะไรมาอย่างรวดเร็ว ง่ายดาย มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จนทำให้เราติดเป็นนิสัยว่าอะไรที่เราอยากได้ก็ต้องได้ในทันที และมันก็เป็นนิสัยที่อาจจะเลยเถิดไปจนถึงเรื่องของความรัก เมื่อได้พบเจอใครสักคนเราก็มักที่จะตัดสินเขาอย่างฉับไว ด้วยข้อแม้ต่าง ๆ ที่อยู่ในใจ เช่น ผู้หญิงหรือผู้ชายคนนั้นต้องหล่อหรือสวย รวย เก่ง เพียบพร้อมไปในทุก ๆ ด้าน แต่หากมีข้อใดข้อหนึ่งไม่เข้าเป้า ก็มักจะตัดคนคนนั้นออกไปจากชีวิตโดยไม่ได้ศึกษาถึงนิสัยใจคอแต่อย่างใด ซึ่งนั่นเราอาจจะหลงลืมธรรมชาติของรักแท้ ที่มันจะต้องใช้เวลาในการศึกษา ดูใจของกันและกันพอสมควร มันจึงทำให้คุณยังคงไม่มีความรักสักที
2. ความไม่พร้อมทางอารมณ์
ในแรกเริ่มของการทำความรู้จักใครสักคน เรามักจะปิดบังความรู้สึกและตัวตนที่แท้จริงอยู่เสมอ บางคนอาจจะคิดว่าการที่เราแสดงออกมากจนเกินไปอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้จุดอ่อนของตัวเอง แต่อย่าลืมว่าเรื่องความรักมันไม่ใช่การเล่นเกม ที่จะต้องมาคอยมองว่าเราอยู่ในจุดที่เสียเปรียบหรือได้เปรียบต่ออีกฝ่าย ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก เพราะฉะนั้นถ้าคิดอะไร รู้สึกอย่างไร แสดงออกไปตั้งแต่แรก เพราะนั่นจะทำให้เรารู้ได้ว่าอีกฝ่ายรับตัวตนของเราได้หรือไม่ ระลึกไว้เสมอว่าถ้าเราไม่สามารถที่จะแบ่งปันความรู้สึกต่ออีกฝ่ายได้ ความเชื่อใจและความเคารพนับถือซึ่งกันและกันก็จะไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ในอนาคตด้วย
3. ค้นหาความรักอย่างจริงจังจนวิตกกังวล
จากอดีตที่ผ่านมาอาจจะทำให้ใจยังคงบอบช้ำและกลายเป็นความเข็ดขยาด จนตั้งใจอย่างจริงจังว่าหากจะต้องมีรักครั้งใหม่ ต้องหาคนที่ดีกว่าเดิมให้ได้ หากคุณยังคงค้นหาใครสักคนที่ดีกว่า สวยหรือหล่อกว่าคนเก่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด บอกตรงนี้เลยว่ามันอาจจะเป็นปัญหาในเรื่องความรักของคุณเสียแล้ว ซึ่งนั่นอาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสการได้พบเจอใครสักคนที่พอดีกับคุณ เรียนรู้ที่อยู่กับปัจจุบันดีกว่าไหม ทิ้งเหตุผลและทฤษฎีต่าง ๆ เสีย ลองเปิดใจให้กับคนตรงหน้าที่เดินเข้ามาบ้าง พิจารณาจากตัวตนที่แท้จริงของเขา และคุณอาจจะพบกับคนที่รอคอยอยู่ก็เป็นได้
4. อีโก้
หลายคนมักจะไม่ชอบให้มีความผิดพลาดในความรัก จึงมักต้องมอง ต้องทำทุกอย่างให้เพอร์เฟคท์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียหมดทุกอย่าง ต้องลดทิฐิ ทำใจยอมรับต่อสิ่งที่อาจจะผิดพลาด ไม่ใช่มองแต่ความต้องการของตัวเอง ส่วนหนึ่งของการพัฒนาความสัมพันธ์ก็คือต้องมองและเข้าใจในความต้องการของอีกฝ่ายด้วย นั่นจึงจะทำให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนอยู่ในความสมดุล เป็นการปูพื้นฐานความรักที่ยั่งยืน
5. ไม่มีการประนีประนอม
ทุกคนมักจะมีสเปคของผู้ชายในฝัน บางคนถึงขนาดที่ว่าจดสิ่งที่คู่รักในอนาคตพึงมีไว้ในสมุด และมักจะนำข้อแม้เหล่านั้นมาใช้เป็นมาตรฐานวัดอีกฝ่ายเมื่อไปเดทด้วยกัน พอมีความไม่ลงตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่ตรงกับสเปคที่คุณเขียนไว้ คุณก็จะสลัดเขาทิ้งออกจากชีวิตทันที มันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะไม่มีทางหรอกที่เราจะเจอคนที่สมบูรณ์แบบตามที่เราต้องการ แม้แต่ตัวคุณเองก็ยังมีข้อบกพร่องในบางเรื่อง แทนที่เราจะมุ่งไปที่สิ่งที่ไม่ดีในตัวอีกฝ่ายเป็นมุ่งไปที่สิ่งดี ๆ ที่อีกฝ่ายมี นั่นจะดีเสียมากกว่าการเลือกหาคนที่มาเติมสิ่งที่ขาดหายในชีวิตของคุณ ย่อมดีกว่าคนที่มีทุกอย่างดีเลิศแต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวตนของคุณได้แน่นอน
6. วาดฝันถึงคู่ครองอย่างในเทพนิยาย
ต้องยอมรับว่าเราทั้งหลายต่างเติบโตมาในโลกที่มีละครน้ำเน่าสร้างขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งเนื้อเรื่องก็มักจะไม่ได้แตกต่างกันมาก พระเอกหรือนางเอกมักจะหล่อ สวย ดูดี มีชาติตระกูล มีความรักที่สุดท้ายแล้วก็มาลงเอยด้วยความสุข ซึ่งในชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เดินออกมาจากโลกนิยายเสีย มาเผชิญกับความรักที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ซึ่งมันมีความซับซ้อนและขั้นตอนที่มากกว่าให้ได้ศึกษาและผจญภัย แล้วคุณจะตกหลุมรักใครได้อีกครั้ง
7. มองหาคนที่มั่นคงทางการเงิน
ต้องยอมรับว่าเรื่องฐานะ หน้าที่การงาน เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกคู่ของคนในปัจจุบัน บางคนมักเลือกคบแต่คนที่มีเงินในกระเป๋ามากมายจนลืมไปเลยว่าความรักมันเป็นอย่างไร นึกคิดเพียงว่าขอให้ไม่อดตายก็พอใจแล้ว ซึ่งนั่นมันเป็นเพียงความสัมพันธ์ของคนเห็นแก่ตัว คุณจะไม่มีทางที่จะยืนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยจิตวิญญาณที่แท้จริงได้เลย หากต้องการใครสักคนที่คุณรักและเขาก็รักคุณ ลองให้เวลากับอีกฝ่ายมากขึ้น โดยใช้เวลาและความรู้สึกเป็นตัวขับเคลื่อนความสัมพันธ์ ซึ่งผลที่ได้อาจจะดีเกินคาด โดยมีทั้งคนที่รักเราและเราก็รักเขาจริง แล้วยังช่วยกันทำมาหากิน มีเงินทองใช้ไปตลอดชีวิตอีกด้วย
ความรักเป็นเรื่องที่บอบบาง มีความซับซ้อนมากกว่าที่เราเห็นในภาพยนตร์โรแมนติกทั่วไป เพราะฉะนั้นต้องค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ ทำความรู้จักกับมัน แล้วคุณจะไม่เจ็บปวดเพราะความรักอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lifegooroo.com และ puckermob.com
