x close

ความคิด แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข


แสตมป์ เซเว่นซีน



ความคิด แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข (Health plus)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Kris-Independent และ คุณ SassyChom จาก loveisloveis.com

          "ได้แต่ฝากความคิดของฉันนั้นไว้  เผื่อวันไหนเธอผ่านมา...เห็นที่เดียวกันนี้เธอจะนึกขึ้นได้ว่า เคยมีคนนึงยืนข้างเธออยู่ตรงนี้เสมอตลอดมา"  คือเนื้อร้องของเพลง "ความคิด" ที่ครองอันดับแชมป์อยู่นานหลายสัปดาห์ ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสะกดคนฟัง หรือความหมายที่สั่งให้ "ความคิด" ล่องลอยไปถึงใครสักคน แต่ความคิดนั้นก็ดึงรั้งสติฉันด้วย คำถามมากมาย ที่อยากได้คำตอบจากชายคนนี้

ผลงานตอนนี้มีอะไรบ้าง

          แสตมป์ : ตอนนี้กำลังทำอัลบั้มชุดใหม่ครับ  และก็มีแต่งเพลงให้กับนักร้อง คนอื่นๆ บ้าง พื้นฐานเพลงก็คงจะเป็นแนว Pop-Rock เหมือนเดิม

การเป็นนักร้อง-นักแต่งเพลง สื่ออะไรในตัวคุณ

          แสตมป์ : ผมเป็นคนชอบฟังเพลงครับ พอสำรวจความสามารถของตัวแล้ว  เลยพบและคิดว่าการร้องหรือแต่งเพลงเป็นสิ่งเดียวที่เราทำออกมาได้ดีที่สุด และผมก็ชอบมันด้วย พอลองทำอย่างอื่นดูแล้วมักจะออกมาไม่ค่อยดี

การร้องหรือแต่งเพลงสักหนึ่งเพลงอารมณ์มีความสำคัญขนาดไหน

          แสตมป์ : จริง ๆ  อารมณ์ก็สำคัญที่สุดในทุก ๆ  งานนะครับ บางทีเราทำงานศิลปะ ครึ่งหนึ่งจะต้องใช้เหตุผล  ส่วนอีกครึ่งปล่อยให้เป็นอารมณ์มันพาไปในการเขียนหรือร้องเพลงสักเพลงก็ต้องใช้อารมณ์เหมือนกัน ผมก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้โรแมนติกหรือสุขุมนุ่มลึกอะไรมากมาย แต่เพราะบางทีศาสตร์ของความเป็นเพลงหรือศาสตร์ของงงานในแขนงด้าน ศิลปะ เช่น รูปวาดบนผนัง งานปั้น มันก็ทำให้คนมองแล้วรู้สึกว่าขนมันลูกได้เหมือนกันนะ ความโรแมนติกมันก็มีซ่อนอยู่ในตัวของงานนั้น ๆ อยู่แล้วเป็นสิ่งที่ผมว่ามนุษย์ทุกคนมักจะแพ้เรื่องพวกนี้ เป็นสิ่งที่ง่ายถ้าจะทำงาน โดยใช้อารมณ์บวกกับเหตุผลแล้วออกมาเป็นงานสักชิ้นหนึ่ง



เพลง จึงสามารถสื่ออารมณ์ของคนเขียนได้

          แสตมป์ : ผมว่าเพลงอาจจะไม่สื่ออารมณ์นะ  แต่อาจจะสื่อพื้นฐานหรือสื่อทัศนคติที่เราคิดหรือมีต่อสิ่ง ๆ  หนึ่งมากกว่า บางทีอารมณ์มันมีเกิดแล้วก็ดับไป คือมันมีเกิดขึ้นได้ตลอด นาทีนี้อารมณ์ดี อีกหนึ่งนาทีถัดไปอารมณ์อาจจะไม่ดี ผมว่าทุกคนไม่ได้เจาะจงเฉาพาคนแต่งเพลงนะครับ ก็มีอารมณ์หนึ่งๆ ในเพลงนั้น ๆ อยู่แล้ว อย่างเพลง "ความคิด" ที่ผมเขียนขึ้นมา ก็ยังมีคนเขียนเพลงในรูปแบบของความคิดออกมาเยอะอยู่เหมือนกัน มันก็มีเรื่องหรืออารมณ์แบบนี้ในหลายแง่หลายมุม แต่เพลง "ความคิด" ที่ผมเขียนมันอาจจะถ่ายทอดทัศนคติที่ว่า พอเรามีอารมณ์อย่างนี้ เรามีทัศนคติต่อมันอย่างไรมากกว่า คนที่ฟังเพลงพอเค้าอยู่ในอารมณ์นั้นมันก็จะเข้าถึงง่าย ซึ่งได้ง่ายกว่าคนที่กำลังอินเลิฟหรือคนที่ความคิดเค้ามั่นคง ไม่นึกย้อนหวนคิดถึงเรื่องในอดีต แต่สักเวลาหนึ่งอารมณ์แบบในเพลงมันก็จะเกิดขึ้น

เพลง เหมือนตัวแทนของความรักที่ผ่านมาหรือเป็นอยู่ของคนแต่งเพลง

          แสตมป์ : ไม่เชิงนะครับ  ผมว่าเพลงมันไม่ใช่ตัวแทนอะไรเลย  มันเป็นแค่เครื่องมือ ไม่ใช่ตัวแทนอะไรทั้งสิ้น ผมว่าทุกคนก็มีความรักมีประสบการณ์ในแบบซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่ที่เดิม คือทุกคนอาจจะมีประสบการณ์ มีความรักแบบนี้ เคยอกหัก เคยเหงา เคยร้องไห้ เคยสมหวัง ผมว่าเพลงเป็นตัวแทนของทัศนคติที่เรามี ที่เราคิดมากกว่า



มุมมองความรักเปลี่ยนไปเพราะการแต่งเพลงต้องมองความรักให้กว้างขึ้น ลึกขึ้น

          แสตมป์ : ไม่ครับ  ไม่เปลี่ยนอะไร แต่ตัวเราใจเราต่างหากที่เปลี่ยนเอง เพลงมันออกมาจากเรา ออกมาจากสิ่งที่เราคิดอยู่  สิ่งที่เรามองมัน แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรให้เรา แต่เราต่างหากที่ทำให้มันเปลี่ยน เราอาจจะร้องเพลงคนอื่นก็ได้ ถ้าหากว่าเรารู้สึกเหมือนเค้า หรือเราอาจจะแต่งเพลงของตัวเองออกมา เพราะเรารู้สึกในแบบของเรา แต่ถ้าพูดถึงเวลามีความรัก มันอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่มันก็เป็นเพราะความรักมันทำให้เราเข้าใจ ไม่ใช่เพราะการแต่งเพลงที่เราต้องมองให้ลึกมากขึ้น ซึ้งมากขึ้น คือถ้าเรารักแบบไม่เข้าใจ รักแบบอยากได้เค้ามาติดอยู่กับตัวอย่างเดียว มันก็เรียกว่ารักแบบเข้าใจในรักไม่ได้ มันมีความรู้สึกค่อนข้างเยอะที่มากกว่าคำว่าเข้าใจ ผมว่าถ้ายิ่งรักก็ยิ่งมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เพราะเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันคงอยู่

ความรักของคุณในตอนนี้

          แสตมป์ : นับว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีครับ เหมือนการมีคนรักทำให้เราได้แชร์อะไรบางอย่างกับคนอีกคน ทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง ผมไม่รู้ว่ามันเป็นความเคยชินรึเปล่านะ บางทีถ้าเราไม่มีคนแชร์มาตั้งแต่ต้นเลยก็อาจจะดี แต่พอมีคนรัก มันเหมือนว่าทำให้เรามีธีมใหม่ในชีวิต เป็นสีสัน เรามีเรื่องอะไรเราก็มาแชร์กัน มาแบ่งกัน หรือว่าเราเจอเรื่องนั้นเรื่องนี้เรามาแชร์ มันเหมือนกับว่ามาแบ่งเบาเรื่องที่เรากำลังแบกอยู่ ทำให้เหนื่อยน้อยลง ช่วงแรกๆ ก็น่าจะต้องปรับตัวเยอะอยู่นะครับ เพราะว่าเราอยู่คนละสิ่งแวดล้อม พื้นฐานก็ต่างกัน แต่ผมว่าการปรับตัวมันจะค่อยๆ น้อยลงเรื่อยๆ มันก็ต้องใช้เวลาจนกระทั่งไม่ต้องปรับอะไรเลย

มีสเปคหรือเปล่า

          แสตมป์ : ขึ้นอยู่ในช่วงขณะนั้นครับ  อะไร ๆ มันก็ใช่เสมอในเวลานั้น ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้คนที่ชอบกับคนที่ใช่ ผมว่ามันเป็นสิ่งเดียวกันในขณะนั้น  แต่ในช่วงขณะหนึ่ง เราก็กลับสิ่งต่าง ๆ ผ่านสิ่งต่าง ๆ มาเรื่อยๆ บางทีความคิดเราอาจจะโตขึ้น วันนี้ไม่เหมือนพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ก็เป็นอีกแบบนึง เราไม่ได้เกิดจากแม่พิมพ์เดียวกัน เราก็เปลี่ยนแม่พิมพ์ไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง มันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ อย่างที่เราต้องการ ผมว่าสเปคคนที่เราชอบมันเป็นแค่เรื่องของค่านิยมที่จะต้องมีสเปคอย่างนั้นอย่างนี้ สำหรับผมไม่มีตายตัวครับ

ผู้หญิงมีบทบาทในชีวิตคุณมากแค่ไหน

          แสตมป์ : ผมว่าเพศตรงข้ามมีบทบาทกับทุกชีวิต  กับทุกสิ่งบนโลก ผมว่าทุกคนให้ความสำคัญ แต่จะกล้าพูดออกมารึเปล่าเท่านั้นเอง  ทุกคนคงขี้เหงา ขึ้นอยู่ว่าจะยอมรับตรงนั้นหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ผมว่าขึ้นอยู่กับเค้ามีอะไรบ้างแล้วเราขาดอะไรบ้างมากกว่า ณ เวลานั้น ถ้าหากเปรียบผู้หญิงเป็นเพลง ก็คงเป็นเพลงได้ทุกแนว ไม่ว่าจะเพลงป๊อป เพลงแจ๊สหรือเพลงแดนซ์ ผมว่าผู้หญิงไม่ใช่ส่วนเติมเต็มนะ แม้ผมอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วผู้หญิงคืออะไร แต่โลกมันก็หมุนด้วยเรื่องพวกนี้อยู่แล้วมีผู้ชายกับผู้หญิง



คิดว่าผู้หญิงมีอะไรเหนือกว่าผู้ชาย

          แสตมป์ : ผมว่าก็มีหลาย ๆ อย่างนะครับ ผู้หญิงอาจจะเหนือกว่า  เรื่องการแต่งกายกับเรื่องต่าง ๆ อย่างความสวยงามต้องมีเหนือกว่าเราแน่นอน  ผมว่าความรับผิดชอบเค้าเหนือกว่าเรามาก แต่อย่าลืมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างได้มาแล้วก็จากไป อย่างเวลาคู่รักทะเลาะกัน มันขึ้นอยู่อะไรสำคัญกว่า ใช้วิธีชั่งน้ำหนักดู หรือถ้าพูดด้วยเหตุผลจะดีกว่านะ แต่มันก็ต้องเป็นเหตุผลจากทั้งสองฝ่าย ถ้าหากเรามัวแต่ใช้เหตุผลของตัวเอง เรื่องมันก็ไม่จบ ผมว่าแค่เกิดเป็นผู้หญิงก็ชนะแล้ว คือเค้าก็มีเสน่ห์อยู่ในตัว มีเสน่ห์กว่าพวกผู้ชายอยู่แล้ว

ผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจ

          แสตมป์ : ผมคงเจาะจงไม่ได้ครับ ก็เดินไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับเวลา  สถานการณ์ มันอาจมีหลายคน อาจจะเป็นดาราคนหนึ่ง คุณแม่ อาจจะเป็นเพื่อนหรือแฟนก็ได้  ผมว่าผู้หญิงเป็นขั้วตรงข้ามของเรา เหมือนโลกมันหมุนด้วยระบบ หยิน-หยาง มีขาวกับดำ หากสิ่งที่มันขัดแย้งกันอยู่ด้วยกันมันจะเกิดพลังอันยิ่งใหญ่ มันเกิดการสปาร์คบางอย่างของขั้วตรงข้าม ทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจและเกิดพลังในชีวิต



What a man wants? คุณอยากบอกอะไรผู้หญิง

          แสตมป์ : ขอบคุณที่มีผู้หญิงในโลกครับ ก็ขอให้จงมีต่อไป ขอบคุณครับ


          แสตมป์-อภัวัชร์ เอื้อถาวรสุข  นิสิตหนุ่มจากคณะสถาปัตย์ฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ผ่านการเคี่ยวกรำจากปรมาจารย์เพลงอย่าง บอย โกสิยพงษ์ เป็นเวลาว่าสามปีจนการันดีด้วยรางวัลสีสัน อวอร์ด สาขาเพลงยอดเยี่ยมจากเพลง “น้ำตา” ในอัลบั้ม Simply Bird ของ ธงไชย แมคอินไตย์ และมีผลงานการแต่งเพลงอีกมากมาย อาทิ เงินล้าน โมเดิร์นด็อก, รักคุณเข้าอีกแล้ว, หวานขม จากอัลบั้ม Bitter sweet ของ Boyd-Pod และเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ฝัน/หวาน/อาย/จูบ และ A moment in June


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก LOVEiS



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ความคิด แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2553 เวลา 16:46:40 1,108 อ่าน
TOP