แชร์ประสบการณ์ครั้งแรกกับการทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี เมื่อสาวตัดสินใจบินตรงไปโมหน้าใหม่ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร มาติดตามดูกันเลย...
สมัยนี้หากพูดถึงเรื่องการทำศัลยกรรม ร้อยทั้งร้อยเชื่อว่าสาว ๆ คงจะต้องนึกถึงประเทศเกาหลีมาเป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน เพราะที่นี่ถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านศัลยกรรมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากบินตรงไปทำศัลยกรรมไกลถึงที่ประเทศเกาหลี รวมถึงเธอคนนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ คุณ luckygwang สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งเธอได้วางแผนเอาไว้ว่าอยากจะทำศัลยกรรมเช่นเดียวกัน และหลังจากที่ได้เห็นเพื่อน ๆ ของเธอบินไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี กลับมาแล้วสวยเป๊ะกันทุกคน เธอจึงตัดสินใจอยากจะบินไปทำศัลยกรรมครั้งแรกที่ประเทศเกาหลีกับเขาบ้าง ซึ่งผลที่ได้กลับมาก็นับว่าเป็นที่พึงพอใจสำหรับเธอมากมายเลยทีเดียว
---------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เราชื่อปุ๋มนะคะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเราไม่เคยทำศัลยกรรมใด ๆ บนใบหน้ามาก่อน ถือว่าเป็นมือใหม่หัดศัลย์มาก ๆ สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดจะทำ เพราะค่อนข้างเป็นคนขี้กลัวค่ะ กลัวเจ็บ กลัวไม่สวย กลัวทำรอบเดียวไม่จบ กลัวสารพัดเลย พอยิ่งศึกษาก็ยิ่งเห็นเคสหลุดเคสแก้เยอะ ก็เลยเก็บแพลนทำศัลย์ไว้ก่อน แต่ช่วงระยะหลัง ๆ นี้กระแสการศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีมาแรงมาก ๆ บวกกับมีเพื่อนหลาย ๆ คนไปทำมาแล้วเริดมาก ๆ สวยแบ๊วกลับมากันเป็นแถว เราเลยตัดสินใจลองเสี่ยงดู ไหน ๆ จะทำทั้งที ขอทำที่เกาหลีไปเลยเนอะ
จากนั้นก็เลยไปถามเพื่อนค่ะ ว่าทำที่โรงพยาบาลไหน ราคาเท่าไร พักฟื้นนานไหม บลา ๆๆๆ ถามละเอียดยิบเลยค่ะ แล้วก็จัดการจองคิวปรึกษาและผ่าตัดกับทางโรงพยาบาลที่เกาหลี และจองตั๋วเครื่องบินทันที ด้วยความที่อยากรีบสวยแล้ว
นี่คือหน้าเดิมเราก่อนไปทำค่ะ >< เมื่อก่อนไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรค่ะ รู้สึกว่าหน้าเรายังขาด ๆ รูปหน้ายังไม่เป๊ะ เวลาถ่ายรูปต้องเอาผมปิดตลอดเลย T^T
1. จมูกค่ะ เป็นคนมีดั้งอยู่แล้วนะคะ มีมากไปด้วยค่ะ จมูกดูใหญ่และฐานจมูกดูกว้าง มีเนื้อเยอะเหมือนจมูกผู้ชายค่ะ
2. ตาที่เริ่มจะตกค่ะ พออายุเริ่มมากขึ้นหนังตาก็เริ่มตกมาปิดชั้นตา ทำให้ดูตาเล็กและรู้สึกว่าเห็นตาสองชั้นไม่ชัดเหมือนแต่ก่อน ดูหน้าแก่ ตาไม่แบ๊ว ดูดุมาก ๆ
3. เป็นคนคางสั้นค่ะ และคางดูตัด อยากให้มันเล็กเรียวเป็นทรง V สไตล์เกาหลีบ้าง
4. ใบหน้าตอบค่ะ เป็นคนเนื้อบนหน้าน้อย ทำให้ดูซูบ โทรม แก้มตอบ แล้วก็ดูหน้าไม่มีมิติ แบน ๆ ป้าน ๆ
พอไปถึงโรงพยาบาลที่เกาหลี เราก็ต้องไปคุยกับที่ปรึกษาของโรงพยาบาลก่อนค่ะ ซึ่งที่ปรึกษาสวยมาก พนักงานก็สวยทุกคน คือสวยเป๊ะ น่ารักมาก ตา จมูก หน้าเรียว ผิวเงาวาว เห็นแล้วคือมองเคลิ้มเลยค่ะ ก็รู้นะคะว่าทำมา แต่ทำมาดีจริง ๆ ค่ะ ดูไม่ปลอมไม่แข็งเลย ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งอยากทำเลยค่ะ ><
ทางที่ปรึกษาก็วิเคราะห์หน้าเราค่ะ แล้วก็แนะนำให้เราทำทั้งหมดดังนี้ค่ะ
1. ทำตา แบบจัดเต็ม ครบทั้งลิสต์ที่มี คือ กรีดตา 2 ชั้น เปิดหัวตา เปิดหางตา กดหางตาลงเพื่อทำให้ตาดูเป็นตาสระอิ แก้ไขรอยคล้ำใต้ตา และทำดอลลี่อายเพิ่มความแบ๊ว
2. ทำจมูก ด้วยการใส่ซิลิโคนและกระดูกอ่อนหลังหู แล้วก็เหลากระดูกตรงฐานจมูกให้เล็กเรียว
3. ฉีดไขมันทั่วหน้า หรือที่เรียกว่า Fat grafting คุณหมอจะนำไขมันของเราเองมาฉีดทั่วหน้า ที่หน้าผาก ร่องแก้ม ริ้วรอยต่าง ๆ ทำให้หน้าดูอิ่ม และดูมีมิติมากขึ้น
4. ทำคางด้วยการฉีดไขมันตัวเอง ซึ่งปลอดภัยมากกว่าการฉีดสารชนิดอื่น ซึ่งไขมันของเราจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ
รวมราคาออกมาก็... !!!! สู้ไหวค่ะ !!!! เอาน่า เพื่อความสวยถือว่าสมเหตุสมผล สำหรับเกาหลีงานดีมีคุณภาพ !!!
หลังจ่ายเงินเสร็จก็นัดวันผ่าตัดเป็นวันมะรืนเลยค่ะ โรงพยาบาลของที่นี่ขึ้นชื่อว่าคุณหมอเก่งเป็นอันดับต้น ๆ ของเกาหลีเลย และจะมีหมอใหญ่ ๆ หลายท่านค่ะ ซึ่งแต่ละท่านจะชำนาญกันคนละส่วนค่ะ จึงไว้ใจได้ว่าคุณหมอที่จะมาทำให้เรานั้นชำนาญเฉพาะทางจริง ๆ ค่ะ
แล้วก็มาถึงวันผ่าตัด ตื่นเต้นมาก การผ่าตัดทำศัลยกรรมที่เกาหลี ไม่ว่าจะทำแค่ตา หรือแค่ทำจมูก เขาก็จะให้เราสลบค่ะ ซึ่งสำหรับคนขี้กลัวอย่างเราถือว่าดีมากค่ะ หลังผ่าตัดก็มีอาการสะลึมสะลือเล็กน้อย ตอนฟื้นมาไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย อาจเป็นเพราะยาชายังไม่หมดฤทธิ์ แล้วก็ออกจากโรงพยาบาลได้เลย เรานี่ไปเมียงดงต่อกินทัคคาลบี้กันเลยจ้า 555 ชิลไหมล่ะ
และนี่คือสภาพหลังผ่าตัด !!!
เฮ้ย บวมตุ่ยไปหมด แต่แลดูจะมีแววนะ มันเปลี่ยนไปเลยอะ คือชอบมาก ถึงจะยังเขียวช้ำบวมตุ่ย เพราะเราเป็นคนช้ำง่ายมาก ๆ นิดหน่อยก็เขียวอะ แต่ก็ไม่จิตตกนะคะ ก็เราเห็นได้ชัดเลยว่ามันน่าจะเปลี่ยน คงไม่แย่กว่าเดิมหรอกมั้ง 5555
หลังผ่าตัด 2 วันคุณหมอจะนัดเข้าไปทำความสะอาดแผล ทำทรีทเม้นท์ลดบวม ซึ่งดีมาก สำหรับเรามันช่วยได้เยอะอยู่ค่ะ และคุณหมอที่เกาหลีก็จะดูแผลให้เราก่อนกลับว่าโอเคแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร สามารถกลับได้ แล้วก็มาให้หมอที่เมืองไทยเป็นคนตัดไหมได้ค่ะ เพราะเราอยู่เกาหลีต่อได้อีกแค่ 4 วัน เนื่องจากติดงานที่ไทย ระหว่างอยู่ที่นั่นเราก็ออกไปข้างนอกเที่ยวเล่นตามปกติทั้งสภาพนั้นเลย เพราะคุณหมอสั่งไว้ว่าอย่านอนมากเกินไป ให้เราเดินไปเดินมาบ้าง จะได้หายช้ำและหายบวมไว ๆ
พอกลับมาไทยช่วงเดือนแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าที่หรอก เพราะทางเกาหลีก็บอกเราว่า 6 เดือนนะถึงจะเห็นว่าเข้าที่สวย แต่ก็ถือว่ามันยุบเร็วมาก และมันเริดมาก ส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ พอใจมาก ผิวก็ดูใสขึ้นจากการฉีดไขมันด้วย จนเพื่อนทักเลยค่ะ ว่าดูเกาหลีขึ้น อย่างกับคนละคน (อ้าว เมื่อก่อนฉันไม่สวยเหรอ 5555)
นี่คือรูปวิวัฒนาการตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ อย่าเพิ่งตกใจกันนะคะ ม่วงช้ำดูน่ากลัวเฉพาะอาทิตย์แรกค่ะ หลังจากนั้นจะเหลือแค่อาการบวม ตอนนี้ก็หลายเดือนแล้ว เริ่มเข้าที่แล้วค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ในการบินไปศัลยกรรมไกลถึงเกาหลีในครั้งนี้ถือว่าน่าพอใจ คุ้มค่าสมการรอคอย
ตอนนี้เรามีแพลนจะไปทำ Lifting ยกกระชับใบหน้าเพิ่มด้วยค่ะ 55555 ติดใจอะเนอะ !!! ไว้ถ้าเราได้มีโอกาสบินไปทำสวยเพิ่มอีก เราจะมาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ luckygwang สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก pumipangg