โหนกแก้ม คือส่วนประกอบหนึ่งของใบหน้าที่จะเห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ซึ่งถือเป็นจุดชี้วัดได้เลยว่า ใบหน้าของคุณจะดูสวยงามและมีมิติหรือไม่ ซึ่งหากใครที่มีโหนกแก้มสมส่วนรับกับใบหน้าก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับใครที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่-โหนกแก้มสูงก็คงจะคิดหนักหน่อย เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน หน้าบาน ไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้แต่งหน้าได้ยากอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีปัญหานี้ คิดอยากจะหาวิธีลดโหนกแก้ม แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนดี เอาเป็นว่าวันนี้กระปุกดอทคอมขออาสารวบรวมวิธีลดโหนกแก้มมาฝากกันเลยดีกว่า ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้าง ตามมาศึกษากันเลยค่ะ
สำหรับวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งเหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มนูนขึ้นมาไม่สูงมากนัก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดกระพุ้งแก้มด้านในช่องปากและใช้เครื่องมือเข้าไปกรอกระดูกบริเวณโหนกแก้มออก ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีคือหลังจากที่ผ่าตัดกรอกระดูกโหนกแก้มแล้วจะไม่มีแผล เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่บริเวณกระพุ้งแก้มด้านในช่องปากค่ะ
2. ตัดโหนกแก้ม หรือทุบโหนกแก้ม
สำหรับการตัดโหนกแก้มนี้เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มนูนสูง หรือคนที่มีโหนกแก้มกางออกทำให้หน้าบาน ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ค่อนข้างยุ่งยาก ซับซ้อน และต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาก ๆ โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลจากหลังแก้มบริเวณใกล้ ๆ ใบหู จากนั้นจะใช้เครื่องมือกรอกระดูกด้านหน้า พร้อมกับตัดกระดูกโหนกแก้มบริเวณด้านข้างออก จากนั้นจะทำการเลื่อนและเชื่อมต่อกระดูกเข้าด้วยกัน และเย็บปิดแผล ซึ่งวิธีนี้ข้อเสียก็คืออาจจะทำให้มีรอยแผลเป็นเกิดขึ้นได้ แต่ข้อดีก็คือจะช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าและช่วยลดโหนกแก้มให้ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ
การฉีดลดโหนกแก้ม คือการฉีดยาสลายไขมันบริเวณโหนกแก้มนั่นเองค่ะ โดยวิธีนี้จะมีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีแผล ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่เนื่องมาจากมีไขมันบริเวณโหนกแก้มเยอะ ซึ่งจะคล้าย ๆ กับการฉีดลดไขมันเฉพาะจุดนั่นเองค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อเสียก็คือหากไม่คุมน้ำหนัก ไขมันก็อาจจะกลับมาสะสมใหม่ทำให้โหนกแก้มกลับมาใหญ่ได้เหมือนเดิม ซึ่งต้องเสียเงินไปฉีดบ่อย ๆ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว
4. ฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม
วิธีนี้ก็จะคล้าย ๆ กับการฉีดยาสลายไขมันบริเวณโหนกแก้มนั่นแหละค่ะสาว ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่เนื่องจากมีกล้ามเนื้อตรงส่วนนั้นค่อนข้างมาก ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลงและช่วยให้โหนกแก้มมีขนาดเล็กลงได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ข้อเสียก็เหมือนกับการฉีกโบท็อกซ์ทั่ว ๆ ไป ผลลัพธ์จะอยู่ได้แค่ชั่วคราว ต้องกลับไปฉีดซ้ำทุก ๆ 3-6 เดือน ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกันค่ะ
เรียกได้ว่ารวมสารพัดวิธีจัดการกับปัญหาโหนกแก้มใหญ่-โหนกแก้มสูงกันเลยทีเดียว ซึ่งใครจะเหมาะกับวิธีไหนนั้นคงต้องคำนึงถึงรูปแบบโหนกแก้มของตัวเองเป็นหลักแล้วล่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ก่อนที่จะตัดสินใจทำ สิ่งสำคัญก็คือควรศึกษาให้ดีเสียก่อน พร้อมกับเดินเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำจะปลอดภัยและช่วยเลือกวิธีแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดที่สุดค่ะ
