ทำเอาแฟนคลับฟินจิกหมอนอยู่ไม่น้อย สำหรับคู่จิ้น เต้ย พงศกร และ เชียร์ ฑิฆัมพร หลังเล่นละครคู่กันครั้งแรกก็เคมีความจิ้นพุ่งปรี๊ด แถมมีโมเมนต์หวาน ๆ ออกมาเพียบจนแฟนคลับเชียร์ให้เป็นมากกว่าคู่จิ้นในจอแล้ว
ที่เราออกมาชี้แจงเรื่องความสัมพันธ์กับ สา สาวนอกวงการในอินสตาแกรม
เต้ย พงศกร : ครับ ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกันครับ ก็ตามที่ลงในไอจี ผมจำไม่ได้ว่าผมลงอะไรไปบ้าง
บอกว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้เป็นแฟนกับ สา
เต้ย พงศกร : ครับ ก็ไม่ใช่อย่างที่พูดนะ มันก็เป็นไปตามที่ผมเขียนไปในไอจีครับ ผมจำไม่ได้เหมือนกัน
คนเข้าใจว่าเราเป็นแฟนกับสา
เต้ย พงศกร : หลายคนยังเข้าใจว่าคุยกันอยู่ ก็บอกไปในทางเดียวกันว่าเป็นยังไง ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน
ทำไมถึงชี้แจงในไอจี
เต้ย พงศกร : อยากให้คนเข้าใจไปในทางเดียวกัน เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคนจะเข้าใจไปเอง มโนไปเอง หาหลักฐานไปเอง เข้าใจผิดไปเอง แล้วไปว่าสาเขา ผมก็สงสารเขาเพราะว่าเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แล้วเขาต้องมาโดนแบบนั้นครับ
เป็นเพราะกระแสคู่จิ้นของเราด้วยไหมเลยทำให้ฝ่ายนั้นถูกต่อว่า
เต้ย พงศกร : ตามจริงแล้วแฟนคลับชาวหมีทุกคนเข้าใจนะครับ ส่วนใหญ่จะเข้าใจ ส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจ ผมก็อยากจะอธิบายให้เข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน
กับสาเขาเครียดแค่ไหน
เต้ย พงศกร : เขาเข้าใจครับ ผมโทร. ไปคุยกับเขาเลยว่ามันเป็นแบบนี้ เราขอโทษนะ ที่ต้องโดนว่า เขาก็บอกว่าเขาเข้าใจครับ เขาไม่เครียดหรือนอยด์อะไรเลย
เต้ย พงศกร : ผมอยากให้แฟนคลับเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องว่าเป็นยังไงครับ
ไม่เกี่ยวกับ เชียร์
เต้ย พงศกร : ตอนนี้เราก็เป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี เป็นคนที่เข้าใจกัน เป็นคนที่รู้ใจกัน เราก็รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง รู้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร
รู้ใจแบบไหน
เต้ย พงศกร : ก็รู้ใจว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
จีบเขาหรือเปล่า
เต้ย พงศกร : ผมจีบเขาไม่เป็นหรอก ส่วนใหญ่ก็ต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อนครับ
ด้วยความสนิทสนมกันในกองหรือว่ายังไง
เต้ย พงศกร : เขาก็ละลายพฤติกรรมเราตั้งแต่เปิดกล้อง ตั้งแต่ฟิตติ้งแล้ว ทำให้เรามีความสนิทสนมกันมากขึ้น เขาก็เป็นคนน่ารัก ใครอยู่ใกล้เขาก็ต้องรู้ว่าเขาเป็นคนน่ารัก
น่ารักแล้วชอบไหม
เต้ย พงศกร : ก็ไม่รู้สินะ
คนก็ลุ้นว่าเราคู่จิ้นหรือคู่จริง
เต้ย พงศกร : ทุกอย่างที่เราทำออกไป ไม่ว่าภาพอะไรที่มันเหมือนกัน มันคือความจริงนะ ไม่ได้เกิดจากการเตรียม ทุกอย่างมันเรียลตามที่พี่เชียร์ ได้บอกไป เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
อนาคตอาจจะมีโอกาสเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์
เต้ย พงศกร : ครับ ก็ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันครับ
เห็นว่าพาเชียร์เข้าบ้านด้วย
เต้ย พงศกร : มันเกิดจากการไลฟ์ท้ากันครับ คือเขามาจากที่ทำงานที่ธรรมศาสตร์ไง ผมเลยไปท้าเขาว่ามาบ้านผมสิ ถ้าใจ เขาก็มาจริง ผมก็ตกใจเพราะพ่อแม่ก็อยู่ด้วย เราก็เลยต้องต้อนรับเขา เราเป็นเจ้าบ้านที่ดี เหมือนถ้ามีคนมาบ้านพี่ พี่ก็ต้องต้อนรับ เป็นเจ้าบ้านที่ดี จะไปไล่เขาก็ไม่ได้ เขาไปครั้งแรกครับ ยังไม่เคยมีใครมาบ้านเลยนะ
เป็นผู้หญิงคนแรกที่พาเข้าบ้านไหม
เต้ย พงศกร : พาเข้าบ้านแบบโดนบุก
หลังจากนี้จะมีพาเข้าบ้านอีกไหม
เต้ย พงศกร : ไม่รู้เหมือนกันครับ
คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง
เต้ย พงศกร : คุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าพี่เชียร์น่ารักดี สวย ตัวจริงสวยกว่าในทีวี
ทุกคนในครอบครัวเชียร์ไหม
เต้ย พงศกร : คือเขาไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวอยู่แล้วครับ ให้เราตัดสินใจเอง
เรียกว่าหัวใจตอนนี้กระชุ่มกระชวย
เต้ย พงศกร : ถามใจแป๊บ หัวใจก็เต้นแรงทุกทีที่ถามถึงเขา ก็เต้นแรงทุกครั้งเลยนะ เพราะไม่รู้จะโดนแกล้งอะไร วันนี้เจอเขาอีกแล้ว เต้นแรงอีกแล้ว
ได้ถามเขาไหมว่าโสดหรือเปล่า
เต้ย พงศกร : เราก็รู้ ก็พอมีคนเข้ามาคุยกับเขาเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เราคะแนนนำ
เต้ย พงศกร : ไม่รู้เหมือนกัน ต้องถามเจ้าตัว
จีบไหม
เต้ย พงศกร : ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ถ้าเขาให้จีบ จีบไหม
เต้ย พงศกร : ก็ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติแหละครับ
ถ้าตามธรรมชาติมองว่าเราจีบเขานะ
เต้ย พงศกร : จริงหรอ หยอดไปเหรอ ก็อะไรก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ อะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยไปตามนั้นครับ
ตอนนี้เรากำลังมีความรัก
เต้ย พงศกร : ผมก็ดูเด็กขึ้นมาเลยดิ
มองเชียร์คนเดียวไหม
เต้ย พงศกร : ก็มีแฟนคลับครับ คือตอนนี้เราก็คุยกันหลังละครจบครับ ว่าเราจะจัดมีตติ้งไหมอะไรยังไงครับ
ภาพจาก Instagram kai_aukavut