แอนนี่ บรู๊ค
ฟิล์ม รัฐภูมิ
เฮียฮ้อ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รัฐมนตรีพร้อมกลุ่มผู้หญิงหลายฝ่ายออกโรงติง เฮียฮ้อ แถลงข่าวไม่เหมาะสม ชี้เป็นการเหยียบย่ำผู้หญิง วอนทุกฝ่ายหยุด ให้เป็นเรื่องของคนสองคนมาแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เด็กต้องตกเป็นเหยื่อไปมากกว่านี้
กลายเป็นข่าว (คาว) ที่เป็นประเด็นมากว่าครึ่งเดือนแล้ว สำหรับ ข่าวฟิล์ม แอนนี่ แต่ดูท่าทางว่าคงยังไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อต่างฝ่ายต่างออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันมากขึ้น โดยหลังจากนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ เฮียฮ้อ ออกมาพูดพาดพิงว่า แอนนี่ บรู๊ค เคยคบผู้ชาย 4 คน ก็ทำให้มูลนิธิ รวมทั้งกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสตรีหลายฝ่าย ออกมาต่อว่าต่อขานถึงสิ่งที่ เฮียฮ้อ พูดกันยกใหญ่ แม้แต่ระดับรัฐมนตรี
โดยนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ เฮียฮ้อแถลงข่าว เพราะ เฮียฮ้อ ไม่ใช่คู่กรณี จึงไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวของฝ่ายผู้หญิงมาพูด เพราะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหา และทำให้ฝ่ายหญิงเสียหาย เช่นเดียวกับ พจน์ อานนท์ ที่ไม่ควรออกมาพูดซ้ำเติมเช่นกัน เพราะไม่ใช่คู่กรณี
รมต.พัฒนาสังคมฯ กล่าวต่อว่า หากเป็นไปได้จะขอเสนอตัวเป็นตัวกลางเพื่อไกล่เกลี่ยปัญหา เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย โดยตนอยากพูดคุยกับ แอนนี่ บรู๊ค และได้พยายามติดต่อไปแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ นอกจากนี้ ยังไม่อยากให้ฝ่ายชายพยายามเอาชนะ ด้วยการทำให้ผู้หญิงมีภาพลักษณ์เสียหาย อีกทั้งบริษัทอาร์เอสควรจะหยุดขุดคุ้ย ทางออกของปัญหาคือ ต้องรู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก และมารับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องการตรวจดีเอ็นเอ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล อยู่ที่การตัดสินใจของฝ่ายหญิง แต่สิ่งสำคัญเวลานี้ก็คือ อยากให้ทุกฝ่ายที่ไม่ใช่คู่กรณีหยุดทั้งหมดอย่าพยายามเติมฟืนเติมไฟ
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้เหมือนกับว่าบุคคลภายนอกพยายามเข้าไปหาผลประโยชน์จากดารา และผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไม่ได้ช่วยเหลือให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง แต่ยิ่งไปทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เช่นเดียวกับสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว ลักษณะถามคนนั้นที คนนี้ที จึงยิ่งขยายผลการโต้แย้งให้ลุกลามมากขึ้น ดังนั้นปัญหานี้ต้องมีการเจรจาด้วยเหตุผล และผู้ใหญ่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้การเคารพ ต้องมีสติ เป็นหลักในการแก้ปัญหา
ขณะที่นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า รู้สึกเศร้าใจ และเสียใจที่มีการแถลงข่าวออกมาในลักษณะนี้ เพราะถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรงทางคำพูด และเหยียบย่ำผู้หญิง ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็มีเพียงแค่คน 2 คนที่รู้
เจ๊เบียบ
นางระเบียบรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่ตนออกมาพูด เพราะสื่อมวลชนมาถาม จึงเพียงแค่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น ไม่ได้มีอคติกับใคร และไม่ได้อยากเกาะกระแส หรือยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่ที่พูดเพื่อปกป้องลูกผู้หญิงและสังคม ตอนนี้เรื่องราวรุกล้ำเรื่องส่วนตัวของฝ่ายหญิงมากเกินไปแล้ว ดังนั้นบุคคลที่สาม และสื่อมวลชนควรจะยุติได้แล้ว และขอความเมตตาให้กับเด็กด้วย
ทางด้านครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของคน 2 คน ไม่มีใครรู้ว่าใครโกหก หรือพูดจริง แต่คนที่เอาเรื่องราวไปพูดโดยไม่รู้ว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นบาปกรรมกับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ผู้หญิงถูกกล่าวหาเสียหายในการแถลงข่าวนั้น ก็สามารถฟ้องร้องได้
ขณะที่ นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า บริษัทอาร์เอสควรรับผิดชอบต่อสังคม ผู้หญิง และเด็ก เพราะสิ่งที่ เฮียฮ้อ แถลงข่าว เป็นการกระทำความรุนแรงต่อจิตใจของผู้หญิงและเด็ก และบริษัทต้องมีจรรยาบรรณ เคารพสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อย่างในต่างประเทศถือว่าความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเรื่องใหญ่ โดย เฮียฮ้อ ต้องทบทวนสิ่งที่ตัวเองพูด เพื่อให้เป็นบทเรียน และสังคมต้องให้กำลังใจแอนนี่ บรู๊ค และหาก แอนนี่ บรู๊ค จะฟ้องร้อง ทางมูลนิธิเพื่อนหญิงก็พร้อมช่วยเหลือ
ส่วนนางยุวดี นิ่มสมบุญ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวว่า ทั้ง 2 คนควรตกลงกันเพื่อผลประโยชน์ของเด็ก เพราะขณะนี้เด็กกลายมาเป็นเหยื่อ โดยมีบริษัทอาร์เอสมาเกี่ยวข้องด้วย ผู้ใหญ่ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และควรคิดถึงเด็กมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง
ด้านนางวิสา เบ็ญจมะโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็กเข้าไปดูแล และให้คำแนะนำกับแอนนี่แว เพราะตามสิทธิเด็กควรจะได้รับการปกป้องคุ้มครอง และมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ว่าใครเป็นบิดามารดา
ส่วนเรื่องที่มีการแถลงว่า ฝ่ายหญิงเคยคบผู้ชายหลายคนนั้น ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ควรนำมาเป็นวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคม อีกทั้งปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้า สามารถจัดเก็บ และเผยแพร่เรื่องในวันนี้ไปในอนาคตได้ จึงเป็นห่วงว่า ในอนาคตเด็กจะถูกล้อเลียนจากสังคม ดังนั้น สื่อต้องระวังเรื่องการนำเสนอข่าวและภาพของเด็กด้วย และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหยุดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เด็กบอบช้ำ
เฮียฮ้อ
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเฮียฮ้อ ได้ยกเลิกสัมภาษณ์รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 เมื่อช่วงเย็นวานนี้ และได้โพสต์ข้อความทวิตเตอร์เมื่อช่วงเย็นวันพุธว่า
"บางครั้งการจะค้นหาความจริงจากบางเรื่องในบางสถานการณ์ก็ยากหนักหนา แต่ต้องพยายามอดทนรอคอยเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ สังคมไทยต้องอยู่ด้วยความจริง"
"สังคมขัอมูลข่าวสาร สื่อมวลชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา และอย่าตกเป็นเครื่องมือให้ใครใช้ในการโกหกหลอกลวงพูดเรื่องเท็จกับสาธารณะ"
พร้อมกันนี้ เฮียฮ้อ ยังได้โพสต์ข้อความขอบคุณคนที่เข้าใจ และให้กำลังใจด้วยว่า
"ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่เข้าใจเฮียครับ /รับฟังและเข้าใจสำหรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ ขอบคุณทุกคนครับ"
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก
, 
, twitter.com/HereHorRS
