เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Alasdair McLellan , stylefrizz.com
ขึ้นชื่อว่าวงการแฟชั่นแล้ว ก็ย่อมเอาอะไรที่แปลกไม่เหมือนใครมาทำให้มันดูเก๋ไก๋จนใคร ๆ อยากทำตามกันอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่นำเสนอมันออกมาอย่างมั่นใจ ไม่ว่าอะไรก็อินเทรนด์ได้ไม่ต่างกัน
และแฟชั่นที่หยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะมันสามารถเปลี่ยนความแปลก และเปลี่ยนสิ่งที่ใคร ๆ เคยคิดว่ามันเป็นปมด้อย ให้กลายมาเป็นจุดเด่น เป็นเสน่ห์เฉพาะอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างแฟชั่นฟันห่าง ที่กำลัง "อินเทรนด์" ในวงการแฟชั่นระดับโลกอยู่ในขณะนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้งจริง ๆ
เทรนด์ฟันห่างเริ่มจะมาบูมในวงการแฟชั่นเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจาก ลารา สโตน นางแบบชื่อดังระดับโลกได้พกความมั่นใจเต็มร้อย เผยฟันห่างทุกครั้งที่เดินแบบและถ่ายแฟชั่นด้วยความภาคภูมิใจ ไม่มีอะไรต้องเคอะเขิน โดยท่วงท่าลีลาการเดินแบบและโพสท่าของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นนางแบบที่ถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนั้น และในที่สุด เธอก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง 1 ใน 5 สุดยอดนางแบบระดับโลกเลยทีเดียว และไม่เพียงแค่นั้น เธอยังได้รับการติดต่อให้ไปถ่ายแบบให้กับนิตยสารระดับโลกอย่าง Vogue Paris แถมเป็นนิตยสารฉบับที่ตีพิมพ์รูปภาพและเรื่องราวของเธอโดยเฉพาะ หลังจากที่เธอเคยเป็นนางแบบให้ Vogue มาแล้วก่อนหน้านั้นถึง 2 ครั้ง งานนี้ก็เลยทำให้เธอโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด โดยเฉพาะปีนี้ที่ถือเป็นปีทองของเธอ เมื่อเธอได้รับการจัดอันดับจาก models.com ให้เป็นนางแบบอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว
การพกพาเสน่ห์แห่ง "ฟันห่าง" ขึ้นมาเฉิดฉายในวงการแฟชั่นของเธอ จึงเหมือนเป็นการปูทางให้กับนางแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคล้าย ๆ กับเธอ เพราะหลังจากที่ลาร่าขึ้นมาโดดเด่นในวงการแฟชันได้ไม่นาน จอร์เจีย เมย์ แจ็กเกอร์ ลูกสาวคนสุดท้องของ มิค แจ็กเกอร์ นักร้องวง The Rolling Stones กับอดีตนางแบบยุค 70 นามว่า เจอร์รี่ ฮอล ก็ก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการแฟชั่นตามรอยเท้าแม่ ซึ่งสาววัย 18 ปีคนนี้ก็ได้ใช้เสน่ห์ของฟันห่างบวกกับความสามารถ ผลักตัวเองขึ้นมาโดดเด่นในวงการแฟชั่นไปอีกคน และในที่สุด เธอก็เดินตามรอยเท้าของนางแบบฟันห่างรุ่นพี่ ด้วยการได้รับการติดต่อให้ไปถ่ายแฟชั่นเซ็ทใหญ่ลงในนิตยสาร Vogue เช่นกัน
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีนางแบบฟันห่างขึ้นมาเฉิดฉายในวงการแฟชั่น กลายเป็นคู่แข่งของสาวจอร์เจีย ไปโดยปริยาย เธอคนนั้นก็คือ ลินเซย์ วิกซ์สัน นางแบบวัยเพียง 16 ปี จากสหรัฐฯ ที่พกพาเสน่ห์แห่งฟันห่างด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ขึ้นไปเฉิดฉายอยู่บนแคทวอล์คอย่างโดดเด่น จนได้รับเลือกให้เป็นนางแบบหน้าใหม่ในแฟชั่นโชว์ของ Prada เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว และนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ เพราะหลังจากนั้นเธอก็ได้รับการติดต่องานแฟชั่นต่าง ๆ จนกลายเป็นนางแบบชื่อดังไปอีกคน
วาเนสซ่า พาราดิส
ยิ่งล่าสุด นิตยสาร WMagazine ได้เอาดาราสาวทั้งสามคนมาประชันฟันห่างเจ้าเสน่ห์ด้วยการถ่ายแบบลงในนิตยสารแล้ว ก็ยิ่งตอกย้ำและการันตีความฮอตของแฟชั่นฟันห่างสุดเซ็กซี่ได้ดีเลยทีเดียว และแค่นั้นยังไม่พอ ยังมีเสื้อผ้าแบรนด์ดังของโลกอีกหลายชิ้นที่ติดต่อนางแบบฟันห่างไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ ซึ่งนอกจากสามนางแบบสาวสุดฮอตแล้ว ก็ยังมี วาเนสซ่า พาราดิส ภรรยาสาวสุดที่รักของ จอห์นนี่ เด็ปป์ ที่ถูกติดต่อไปโชว์ฟันห่างในโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งเช่นกัน
สำหรับประเด็นแฟชั่นฟันห่างดังกล่าว ได้มีเหล่าเซเล็บหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็น ด๊อกเตอร์บิล ดอร์ฟแมน ทันตแพทย์ชื่อดังที่ดูแลเรื่องฟันให้เหล่าดาราหลายคน ได้กล่าวว่า มีเพียง 5% ของผู้หญิงในอเมริกันที่มีฟันห่าง และยากที่จะค้นหาถ้าพวกเขาไม่ใช่คนเด่นคนดังในสังคม เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงลักษณะเฉพาะที่หลาย ๆ คนมักไม่มองว่ามันเป็นเสน่ห์อะไรเลย และสุดท้ายพวกเขาก็ดัดฟันให้ชิดติดกันในที่สุด
ขณะที่โมเดลลิ่งของบริษัทแห่งหนึ่งในอเมริกา ได้กล่าวว่า เทรนด์นางแบบฟันห่างเป็นแฟชั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น แต่มันก็ส่งผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การนิยมนางแบบฟันห่างนั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันผู้คนได้ยอมรับความงามตามธรรมชาติกันมากขึ้น แต่กลับกันเจ้าตัวกลับคิดว่าเป็นปมด้อยและหันหน้าหาหมอฟันเพื่อให้จัดการกับเรื่องฟันห่างในที่สุด แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แฟชั่นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว เรื่องฟันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับคุณภาพของดารานางแบบแต่อย่างใด เพียงแต่ในวงการฮอลลีวูด แฟชั่นนี้เป็นแฟชั่นที่แปลกใหม่เท่านั้นเอง
