x close

บอล เชิญยิ้ม - ภรรยา เถียงกันวุ่น ประกาศเลิกกลางตี 10




บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ
บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ


บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ
บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ


บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ
บอล เชิญยิ้ม - หนู ปานชีวา จำเนียนกุล ประกาศเลิกกลางรายการตีสิบ



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         บอล เชิญยิ้ม ควงเมียเก่าประกาศเลิก กลางรายการตีสิบ ยันส่งเสียเงินให้ทุกเดือน โต้มีเงินเก็บ 10 ล้าน ท้าให้ไปเช็กดูได้ ด้านภรรยาเรียกขอเงินสด 5 แสน บอกไม่มีให้ ลั่นให้ไปฟ้องร้องและตนยอมติดคุก

         เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน ตลกชื่อดัง บอล เชิญยิ้ม หรือ นายชัชชัย จำเนียรกุล ได้ควงภรรยาสาว น.ส.ปานชีวา จำเนียนกุล หรือหนู มาอัดเทปรายการตีสิบ ณ ฮอลล์ชั้น 4 เซ็นทรัลพระราม 2 โดยทั้งคู่ได้ประกาศเลิกกันอย่างเป็นทางการในรายการ ถึงกรณีที่เป็นข่าวฮือฮาครั้งเมื่อบอล เชิญยิ้ม ประกาศแต่งงานกับสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น ชื่อ ยูริ สุกานดา พุทธคุณรักษ์ ไปเมื่อไม่นาน แต่ผลกลับเป็นว่า ภรรยาสาวตัวจริง (ปานชีวา หรือ หนู) ของบอล ปรากฏตัวออกมาร่ำไห้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อบางสำนักว่า สามีของตน จะแต่งงานใหม่ได้อย่างไร ในเมื่อตน และสามี ยังไม่เลิกกันเลย ทั้งนี้ ทำให้รายการตีสิบได้คว้าตัวทั้ง 2 มาเคลียร์กรณีดังกล่าว โดยทั้งคู่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ ตั้งใจจะมาประกาศว่า เลิกกันแล้ว หลังอยู่กินเป็นสามี ภรรยามากว่า 15 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน

         โดยฟากภรรยาสาว เป็นผู้เริ่มพูดก่อน ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "เค้าไม่รักเราแล้ว ก็คงไม่ต้องทนแล้ว"

          ขณะที่บอล กล่าวว่า "ตลอดเวลา 15 ปี ที่อยู่กันมา ก็รัก และดูแลมาตลอด ถามว่าทะเลาะกันไหม ทะเลาะกันบ่อยมาก ถามว่าเจ้าชู้ไหม ยอมรับว่า นอกกายมีบ้าง ผู้ชายครับ แต่ผมไม่เคยละเลยครอบครัวที่เรารู้ว่าเหมือนเราออกมาหาอาหาร ครอบครัวเรารออยู่ อิ่มไหม ผมให้อิ่มตลอด แต่สิ่งที่ผมได้รับคืนมาคืออะไร เขามาด่าผมอย่างโน้นอย่างนี้ ทำไมมึงไม่กลับอีกเหรอป่านนี้ กลับไปดึกเอามีดไว้ใต้หมอน" ซึ่งเมื่อถึงคำพูดที่ว่า "เอามีดไว้ใต้หมอน" ฝ่ายภรรยาสาวรีบโต้ว่า "มันเป็นเรื่องปกติ เพราะหากไม่ปกติเค้าคงไม่อยู่กับเรามาถึงป่านนี้หรอก และก็ไม่ได้ทะเลาะกัน" แม้ว่า บอล เชิญยิ้ม จะโต้กลับว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน

          ด้านพิธีกรวิทวัส ถามต่อว่า คำว่าไม่รักเราแล้ว ไม่ได้หมายถึงตลอด 15 ปีที่ผ่านมาไม่เคยรัก และ หนู ก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมา บอล เชิญยิ้ม ดูแลดีมาตลอด แล้วปัญหาอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนต้องตัดสินใจเลิกกัน ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาถึง 15 ปี ซึ่งเมื่อฟังคำถามนี้จบ หนู ได้ตอบว่า เป็นเพราะเรื่องผู้หญิงอย่างที่เป็นข่าวออกไปที่ว่า บอล จะแต่งงานใหม่

          ด้าน บอล ตอบว่า เรื่องเกิดจากการได้คุยกับพี่ ๆ นักข่าวว่า ปีหน้าจะว่า เพิ่งได้บ้านใหม่ และคบกับแฟนใหม่อยู่ อาจจะแต่งงานปีหน้า ซึ่งหากไม่ใช่ว่า ตนเลิกกับภรรยาเก่าแล้วจริง ๆ ตนจะกล้าพูดออกไปได้อย่างไร และก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องขนาดนี้

          "เขาเป็นคนบอกเองว่า กูไม่เอามึงแล้ว และบ้านหลังนี้กูก็ไม่อยู่ด้วย อายคนแถวนี้ ขาย ๆ ไปเลยไม่อยู่หรอก เขาพูดกับผมแบบนี้ แต่ผมไม่ขายบ้านหรอก เพราะผมกัดฟันผ่อนมาเหลืออีก 6 แสนกว่าบาทจะผ่อนหมด ผมจะขายเพื่ออะไร แต่ผมติดแบล็กลิสต์หมดเลยทุกธนาคาร เพราะ...."

          ถึงตรงนี้ บอล มีท่าทีอึกอักหันไปหาภรรยา แต่ภรรยาบอกว่า ให้บอลพูดออกมาเลย ทำให้ บอล ตัดสินใจพูดว่า "ผมต้องเป็นหนี้ เพราะพี่สาวของ หนู เอารถบีเอ็มของผมไปขายให้คนอื่น ให้ใครก็ไม่รู้ เป็นญาติแฟนเก่าเขา ทุกวันนี้ผมต้องมารับใช้ 3 แสนกว่า ทนายบอกว่า ไฟแนนซ์จะยึดแล้ว แต่โทรหาคุณหนูแล้วไม่ยอมรับสายเลย เลยต้องโทรมาหาคุณบอล จนวันหนึ่งหมายศาลมาติดหน้าบ้าน "ยึดทรัพย์" ผมน้ำตาร่วงเลย" บอลกล่าว

          ด้านหนูบอกว่า ที่มีเรื่องรถบีเอ็ม เป็นเพราะบอลไปมีเรื่องกับผู้หญิงอื่นเหมือนกัน แล้วเมื่อไปแล้วก็ไม่หันกลับมาดูลูกเมียเลย พี่สาวจึงบอกจะเอารถบีเอ็มไปขายให้ เพื่อจะให้ลูกมีอะไรกิน เพื่อความอยู่รอด ส่วนเงินที่เหลือก็เอามาให้ตนและหลานไว้ใช้ แต่ไม่คิดว่า สิ่งที่พี่สาวทำไปเพราะรักตน รักหลานนั้น จะกลายเป็นความผิด กลายเป็นคนเลวให้สายตาของบอล และเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งบอลได้เสริมว่าว่า ตอนปี 2549 นั้น เราได้แยกกันอยู่แล้ว แต่ หนู ก็สวนกลับว่า "แยกกันอยู่ แต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่อีก"

           จากนั้น พิธีกร ได้ถามว่า บอล เชิญยิ้ม ได้ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ลูกบ้างหรือไม่ บอลกล่าวว่า "ผมเลิกกันทุกครั้งที่ออกจากบ้าน คือพอรู้ว่าผมมีผู้หญิงใหม่ เราก็จะเลิกกันแยกกัน ออกจากบ้านทุกครั้ง แม้กระทั่งครั้งนี้ผมยังงงว่า คุณมาตีมึนได้ยังไง เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่ากูไม่เอามึงแล้ว เขาเป็นคนบอกผมเอง หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่เอา เขาส่งข้อความมาขมาผมว่า ฉันจะมาขอโทษ ผมก็บอกหนูครั้งนี้ฉันไม่เอาแล้วนะ เพราะเราเคยคุยกันแล้ว"

          ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย บอล ยืนยันว่า ส่งให้ตลอด ซึ่ง หนู ก็ยอมรับว่า บอลส่งให้ตลอดจริง เดือนละ 10,000 บาท ค่าเรียนพิเศษลูกอีก 5,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอ ถึงตรงนี้ บอล ถามกลับว่า แล้วเงินอีกหนึ่งแสนบาท รวมทั้งรถวีออสตนได้ดาวน์ให้ หนู หรือไม่ ซึ่งภรรยาก็ยอมรับว่า ให้จริง แต่ต้องมานั่งผ่อนเอง เพราะตอนนี้ตนไม่มีงานทำ ส่วนเงินหนึ่งแสนที่บอลให้มา ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะตนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าเติมน้ำมันรถ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าใช้จ่ายรายวัน ซึ่งต้องจ่ายทุกเดือน ต้องสำรองออกไปก่อน เพิ่งจะ 4 เดือนเท่านั้น

          ถึงตรงนี้ บอลถามกลับว่า "จะ 4 เดือนได้อย่างไร" หนู ปานชีวา จึงบอกว่า ได้เลิกกันมา 4 เดือนเท่านั้น แต่ตอนที่ตนพูดว่า "กูไม่เอามึงแล้ว" อันนั้น 4 เดือนจริง ๆ แต่ที่ บอล เป็นคนไปพูดกับรายการตีท้ายครัวว่า เลิกกันมาปีกว่าแล้ว และเมื่อรายการบอกจะขอมาเปิดบ้าน บอลก็ขอรายการว่า อยากให้ลูกเมียออกรายการด้วย เพื่อจะได้เอาเงินตรงนี้ให้ลูก ตนจึงงงว่า จะเลิกกันมาปีกว่าได้อย่างไร เพราะรายการเพิ่งถ่ายทำไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และหากเลิกกันแล้ว ตนคงไม่สามารถไปเฟคได้ว่า ยังรักกันอยู่ ตนจึงขอยืนยันว่า ตอนที่เลิกกันจริง ๆ คือตั้งแต่ที่บอลออกจากบ้าน คือประมาณ 4 เดือนก่อน แต่ บอล ยืนยันว่า เลิกกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เขาก็ได้กลับไปดูลูกบ้าง ก่อนหน้านั้นตนพยายามประคองแล้วประคองอีก เพื่อลูก แต่หนูก็เป็นเหมือนเดิม

          ด้าน หนู กล่าวต่อว่า เธอพูดความจริงทุกอย่าง และไม่อยากพูดอะไรมากแล้ว หากบอลเป็นลูกผู้ชายจริง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ถ้าเขาพูดอย่างนี้แล้วสบายใจก็พูดไป เธอไม่ได้ว่าอะไร ถ้าคิดว่าเขาพูดถูกก็ปล่อยให้เขาคิดไป ที่ทำทุกอย่าง เธอทนมาถึงที่สุดแล้ว ไม่งั้นคงอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ไม่ได้  ขณะที่บอล ยืนยันว่า ยังส่งเสียให้ลูก และช่วยส่งค่าผ่อนบ้านให้อยู่ เพราะไม่อยากให้ภรรยาและลูกเดือดร้อน

          ทั้งนี้ หนู ยืนยันด้วยน้ำตานองหน้าว่า มาครั้งนี้เพราะต้องการประกาศเลิก และที่เป็นเรื่องเพราะตกลงเรื่องเงินกันไม่ได้ ตนต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก อยากไปดูแลพ่อให้ดีกว่านี้ ด้าน บอล กล่าวว่า มีหรือที่จะไม่รักลูก และตนยืนยันว่า จะรับผิดชอบลูกจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะต้องหาให้ลูกจนได้ อย่างไรก็ตาม ตนเคยบอกหนูว่า หากเลี้ยงลูกไม่ได้ ตนจะขอลูกมาเลี้ยงเอง เพราะทราบว่า หนูมีภาระมาก นอกจากลูกที่เกิดด้วยกันคนนี้แล้ว ยังต้องเลี้ยงดูลูกของหนูเองอีกคนด้วย

          "ผมไม่อยากให้ลูกเหมือนผม แต่คนสองคนมันอยู่ด้วยกันไม่ไหวแล้วจริง ๆ "

          พิธีกรถามต่อว่า สิ่งที่ หนู เรียกร้องคือ แล้วชีวิต 15 ปีที่ผ่านมาของเธอ บอล จะรับผิดชอบและดูแลเขาอย่างไร แล้วจะคุยกันอย่างไร ตกลงกันอย่างไร หนู ตอบว่า "15 ปีที่หนูเสียไป หนูดูแลเขา ดูแลลูกเขา จนละเลยความเป็นลูก ไม่เคยดูแลพ่อ (ร้องไห้) ทุกครั้งที่หนูมีปัญหาพ่อหนูเจ็บมากกว่า 10 เท่า ทุกคนที่บ้านเจ็บหมด พ่อบอกเสมอว่า นี่แหละลูก….คน ถึงตอนนี้ยังไงลูกก็ต้องอยู่กับตน ลูกต้องมีชีวิตเดินต่อไป" ถึงตอนนี้ บอล ยืนยันว่า "อย่างไรลูกก็ต้องเดินต่อไปได้ เพราะผมจะส่งเสียต่อไปทั้ง 2 คน จะรับผิดชอบจนกว่าจะนอนไม่ไหวแล้ว 30,000 กว่าที่จะต้องส่งเสียให้กับทางนี้ แล้วไหนของผมอีก ของแม่ผมอีก อาผมก็ช่วยหมด จนบางทีผมกัดฟันสู้ งานอะไรก็รับหมด แม่ผมก็ช่วยเต็มที่"

          หนู ปานชีวา บอกว่า "บอลเป็นคนกตัญญู แต่ละเลยความเป็นสามีที่ดี และต่อไปคงจะไม่มีคำว่า สามี อีกแล้ว แต่ตอนนี้เธอต้องการชีวิตใหม่ของเธอ ที่เสียไป 15 ปี ตลอดเวลาเธอไม่มีเงินเก็บ ประกันสักเล่มก็ไม่มี ลูกทั้งสองคนก็ไม่มี ไม่มีอะไรที่ให้ความมั่นคงในชีวิต"

          ถึงตรงนี้ พิธีกรถามว่า บอลจะช่วยเหลือเรื่องเงินให้หนูได้หรือไม่ บอล ตอบว่า ตอนนี้เขาพอช่วยได้หนึ่งแสนบาท เพราะเขาไม่ได้มีเงินเยอะเลย ถ่ายละครเรื่องหนึ่งก็ไม่ได้เงินมาก บางครั้งต้องสำรองออกไปก่อน แล้วถ้าหากเดือนไหนเขาไม่มีเงินจะทำอย่างไร

          เมื่อบอลพูดถึงตอนนี้ หนู โต้กลับว่า บอลเคยพูดกับพี่สาวว่า ตอนนี้เขามีเงินเป็นสิบล้าน เธออยากได้อะไร บอลจะหามาให้หมด ทำให้บอลรีบปฏิเสธทันทีว่า โดยท้าว่า ให้ไปตรวจสอบบัญชีธนาคารตอนนี้ได้เลยว่าไม่มี เพราะตนพูดว่า ต่อให้มีเงิน 10 ล้าน ก็จะให้ และถ้ามีเงินมากขนาดนั้นจริง ตนคงไม่ต้องไปถ่ายสกู๊ปครั้งละ 8,000 บาทอยู่หรอก

          ด้านหนูบอกว่า ถ้าบอลพูดว่าไม่มีเงินสิบล้าน ก็คงต้องเชื่อ เพราะถึงจะโกหกตัวเองได้ โกหกคนดูได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ และไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่บอลพูดมา ถ้าโกหกแล้วสบายใจก็คงให้พูดไป โดยถึงตรงนี้ บอลยืนยันว่า มีเงินไม่ถึงสิบล้านแน่นอน และตนจะขอช่วยตามกำลังเต็มที่ที่มี พร้อมกับขอร้องว่า เวลาที่ตนมาหาลูก อยากพาไปเที่ยว ก็ต้องให้เขาได้เจอลูก ให้ทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อด้วย แต่ หนู ตอบว่า ตรงนี้ต้องมีข้อตกลงกัน เพราะเงินที่บอลให้เลี้ยงลูกแต่ละเดือนไม่พอจริง ๆ จึงอยากจะได้เพิ่มอีก 5 พัน เป็นเดือนละ 20,000 บาท

          ถึงตรงนี้ บอล ทำท่าคิด แต่สุดท้ายก็ยินดีจะช่วยอีก 5 พันต่อเดือน รวมเป็นสองหมื่นบาท และยืนยันว่า บ้านที่กำลังผ่อนอยู่นี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องให้ลูก เป็นของลูกแน่นอน ซึ่ง หนู ขอคำยืนยันว่า ต้องมาเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะยกให้ลูกของบอลทั้ง 2 คน เมื่ออายุเท่าไหร่ เพื่อจะได้มั่นใจ

         โดยหลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องเงิน หนู ยอมรับว่า ไม่พอใจกับเงินหนึ่งแสนบาท เพราะเสียเวลาไปถึง 15 ปี ต้องประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งบอลก็ยืนยันว่า เขาไม่มีให้จริง ๆ และหากไม่ให้ ก็จะฟ้องร้องขอค่าเลี้ยงดู โดยบอลบอกว่า ก็ต้องให้ฟ้องไป ต่อให้เขาต้องติดคุกก็คงไม่มีให้

          สุดท้ายแล้ว บอล ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง หลังจากตกลงกับภรรยานอกรอบว่า หนู จะขอเงินสามแสน ซึ่งบอลต่อรองว่า จะให้สามแสนได้ แต่ลูกต้องอยู่กับเขา 2 คน แต่หนูไม่ยอม ก่อนจะตกลงกันได้ที่ 150,000 บาท และส่งเสียให้ลูกเหมือนเดิม ด้าน หนู ก็ยินดีจะรับเงิน 150,000 บาท เพราะไม่ต้องการให้ลูกไปจากเธอ




คลิป บอล เชิญยิ้ม ออกรายการตีสิบ ตอนที่ 1



คลิป บอล เชิญยิ้ม ออกรายการตีสิบ ตอนที่ 2



คลิป บอล เชิญยิ้ม ออกรายการตีสิบ ตอนที่ 3



คลิป บอล เชิญยิ้ม ออกรายการตีสิบ ตอนที่ 4



คลิป บอล เชิญยิ้ม ออกรายการตีสิบ ตอนที่ 5




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บอล เชิญยิ้ม - ภรรยา เถียงกันวุ่น ประกาศเลิกกลางตี 10 อัปเดตล่าสุด 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา 11:56:09 42,487 อ่าน
TOP