เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Woman’s Story, Hi5 เจี๊ยบ เชิญยิ้ม
ตลกคู่พ่อลูก เจี๊ยบ เชิญยิ้ม และศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม เคยยืนเคียงข้างสร้างความสุขและเสียงหัวเราะผ่านหน้าจอทีวี จนกลายเป็นตลกดังแถวหน้าของประเทศ แต่แล้วโชคชะตาชีวิตของพวกเขาก็พลิกผัน เมื่อผู้เป็นพ่อล้มป่วยเส้นเลือดในสมองแตกจนเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ซ้ำร้ายลูกชายก็ป่วยเป็นโรคน้ำในสมอง เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ผู้ที่เป็นทั้งลูกของพ่อ และพ่อของลูก จึงต้องเจอกับบททดสอบชีวิตครั้งยิ่งใหญ่
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาผ่านรายการ เรื่องของเรื่อง ว่า ในวัยเด็ก เขาไม่เคยรู้จักคำว่าพ่อกระทั่งอายุได้ 4 ขวบ จึงได้เจอหน้าพ่อเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นครั้งแรกที่วิ่งหนีพ่อ เพราะไม่เคยเจอ ด้วยอาชีพของพ่อต้องเล่นละครเร่ไปทั่วประเทศ แล้วแยกทางกับแม่ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามีลูก ทำให้ตอนเด็ก ๆ เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นตลกเหมือนกับผู้เป็นพ่อ แต่แล้วโชคชะตาก็พาไป...
"ตอนผมเรียนจบ ปวช. ก็มาทำงานในสมุทรสาคร แต่ได้เงินเดือนน้อยมาก พ่อก็ชวนมาทำงานในคณะ เป็นเด็กถือถาด ซึ่งเป็นถาดที่เอาไว้ใช้ตบหัวกันเวลาเล่นตลก มีรายได้วันละ 200 บาท ทำอยู่อย่างนั้น 2 ปี ก่อนจะได้เล่นมาเป็นผู้จัดการ แต่ก็ยังไม่ได้เล่น แล้วจู่ ๆ ตัวเล่นขาดงานหลายวัน พ่อจึงให้ขึ้นเล่น ตอนแรกเราสั่นมากเพราะเป็นคาเฟ่ใหญ่ แต่พ่อก็คอยช่วยตลอด และแนะนำว่าลูกผม เลยกลายมาเป็นมุขตลกติดปาก พ่อผม-ลูกผม"
หลังจากประเดิมเล่นตลกครั้งแรก เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ก็หันมาศึกษาการเล่นตลกอย่างจริงจังตั้งใจ โดยในช่วงแรก เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ยอมรับว่าฝีมือการแสดงตลกของเขาต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพของพ่อเข้าช่วยอย่างมาก มุขไหนก็ตามที่เขาเล่นแล้วไม่ตลก ก็จะมีพ่อศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม คอยช่วยแก้สถานการณ์ให้ตลอด ซึ่งการที่มีพ่อเป็นเบื้องหลังนี้เอง ทำให้ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม สามารถกลายเป็นตลกคุณภาพได้ในเวลาเพียงปีเศษ และเริ่มมีงานวงการบันเทิง จากนั้นชื่อของเขาก็ค่อย ๆ เป็นที่จดจำ
แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม และครอบครัวของเขา เมื่อพ่อ ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม ล้มลง และเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เพราะความหวังในการมีชีวิตรอดริบหรี่เพียง 5% เท่านั้น
"สรุปคือต้องผ่าตัด แต่ต้องรอญาติไปเซ็น ผมโทรศัพท์ไปบอกให้ผ่าตอนนี้เลย ผมเจี๊ยบ เชิญยิ้ม เดี๋ยวจะหาเงินไปจ่าย แล้วก็ไปบนขอให้พ่อรอดชีวิต ตอนแรกหมอก็บอกให้ทำใจ แต่พอตอนรุ่งเช้าอีกวันจาก 5% ขึ้นมาเป็น 40% หมอบอกพ่อเรารอดแล้ว ดีใจมากครับ" เจี๊ยบ เชิญยิ้ม กล่าว
หลังจากนั้นเป็นเวลาอีกกว่า 2 เดือนที่ ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม ยังต้องนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู ซึ่งลูกอย่าง เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ก็จะหมั่นไปเฝ้าหน้าห้องของพ่อ และพูดคุยด้วยทุกวันไม่เคยขาด แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาต้องรับภาระหนักอึ้งในการก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลทุกคนในบ้าน และที่สำคัญคือการรักษาพ่อให้หาย แม้ว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ลูกคนนี้ไม่เคยย่อท้อ ด้วยเพียงคิดว่าแค่ขอให้ได้พ่อคนเดิมของเขากลับมาแค่นั้นก็พอแล้ว
"คิดอย่างเดียวคือทำให้พ่อหาย เอาพ่อกลับมาก่อนได้ไหม เรื่องเงินผมไม่สน คิดว่าเดี๋ยวหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่แค่ขอพ่อผมกลับมา จนทุกวันนี้เราได้พ่อกลับมา แม้ว่าพ่อจะเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว แต่พ่อก็เริ่มสื่อสารได้รู้เรื่องแล้ว เหลือเรื่องเดิน ยังเดินไม่ได้ ต่อไปจากนี้ก็ถือว่าเป็นกำไร"
ขณะที่คนใกล้ชิดของ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วงที่ต้องเจอมรสุมชีวิต เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ไม่เคยปริปากว่าเขากำลังลำบาก แม้กระทั่งคนในบ้านยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นของหนุ่มคนนี้ ทั้งยังให้คำมั่นสัญญากับทุกชีวิตที่เคยอยู่ในความดูแลของพ่อด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะมาแทนพ่อ จะคอยอยู่ดูแลน้อง ๆ เสมอ ไม่มีวันทิ้งกัน และนี่เองที่ทำให้ทุกคนในบ้านรักและมองเห็นเขาเป็นวีรบุรุษรองจากผู้เป็นพ่อ
อย่างไรก็ตาม แม้ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม จะทำหน้าที่ลูกได้อย่างดีเยี่ยมแล้วหน้าที่พ่อและสามีที่ดีเขาก็ทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่องเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาให้กำเนิดลูกชาย นามว่า "น้องเหนือ" ซึ่งป่วยน้ำในสมองเยอะตั้งแต่แรกเกิด ทำให้มีอาการตาเหล่ พัฒนาการกล้ามเนื้อแขนขาช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป และนั่นทำให้ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม มุ่งมั่นรักษาลูกชายของเขาจนเกือบจะหายเป็นปกติแล้ว
"ตอนภรรยาผมท้อง เขาแพ้หนักมาก 8 เดือน แล้วยังแพ้อยู่เลย กินอะไรก็ไม่ได้ แม้แต่น้ำยังอาเจียน จนเราพูดว่า มีอาหารที่ไหนที่ภรรยากินแล้วไม่อาเจียนบ้างไหม จานละแสนก็จะซื้อ เพราะตอนนั้นเขาตัวผอมมาก โตแต่ท้อง พอลูกออกมา น้ำในหัวสมองเยอะ ไปเบียดเส้นประสาทตา แขน และขา ทำให้แขนขาไม่มีแรง ตาเหล่ ตาลอย แต่สมองปกติ ตื่นเช้ามาต้องปิดตาข้างหนึ่ง เที่ยงต้องปิดอีกข้างหนึ่ง ทำอย่างนั้นตั้งแต่ 6 เดือนครึ่งถึง 3 ขวบ แล้วก็ผ่าตัด ตอนนี้ได้ลูกกลับมาดีใจแล้ว"
ทุกวันนี้ ในฐานะพ่อ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม จะบอกลูกทุกวันว่า "รักลูกนะครับ" และลูกของเขาก็จะบอกกลับมาด้วยเช่นกันว่า "รักพ่อครับ" ขณะที่ภรรยาของ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม บอกว่า ดีใจที่เขาเกิดมาเป็นลูกพ่อ เป็นพ่อของลูก และ...เป็นสามีของเรา
จากเรื่องราวที่ผ่านมา ถือได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นทั้งลูกที่ดี พ่อที่ดี และสามีที่ดีคนหนึ่ง ทีมงานกระปุกดอทคอมคงต้องขอปรบมือดัง ๆ ให้ผู้ชายคนนี้ค่ะ.... "เจี๊ยบ เชิญยิ้ม"