น้องฟ้า สาวเอแบค คว้ามงกุฏมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจําปี 2554

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สาวเอแบค "น้องฟ้า-ชัญษร สาครจันทร์" คว้ามงกุฏมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 54 ควบขวัญใจช่างภาพ

          ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการค้นหาสาวงามคนที่ 12 จากเวทีประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 จากผู้สมัคร 379 คน โดยภายในงานได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยการเปิดตัวสาวงามทั้ง 44คน ในชุดว่ายน้ำ ต่อด้วยการแสดงของ พอร์ช ศรัณย์ จากนั้นเข้าสู่รอบคัดเลือก 12 คน ที่มาด้วยชุดประจำชาติ จากความคิดของนักออกแบบรุ่นใหม่ ต่อด้วยการแสดงชุดพิเศษ "รักแท้..แด่ดาวทุกดวง" โดยกอล์ฟ พิชญะ นิว จิ๋ว แพท วง Klear หลังจากนั้นผู้เข้าประกวดออกมาเดินโชว์ในชุดราตรีสุดหรู พร้อมการแสดงของอ๊อฟ ปองศักดิ์

          หลังจากนั้นมีการประกาศผลรางวัลพิเศษ พร้อมคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย เพื่อตอบคำถาม และแล้วก็ถึงช่วงเวลาสำคัญ เมื่อพิธีกรเชิญฆิเมนา  นาวาเรเต้ มิสยูนิเวิร์ส 2010 ขึ้นมาประกาศผลการตัดสินและมอบมงกุฏให้แก่มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 ซึ่งได้แก่ หมายเลข28 นางสาวชัญษร สาครจันทร์ หรือน้องฟ้า สาวเอแบค แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ซึ่งเธอจะเป็นตัวแทนร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2011 ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ฉลอง 60 ปี ที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล


ผลการตัดสินมีดังนี้

          มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี2554 ได้แก่หมายเลข 28 นางสาวชัญษร สาครจันทร์ หรือน้องฟ้า รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฏเพชร และชุดเครื่องประดับ จาก Beauty Gems สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล รถยนต์ Toyota Camry Hybrid รุ่น2.4HV ของรางวัลจากผู้สนับสนุน

          รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สอันดับ 1 ได้แก่หมายเลข32 นางสาวณิรัฐชา ตังติสานนท์ หรือน้องเกรส รับเงินรางวัล5แสนบาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล พร้อมของรางวัลจากผู้สนับสนุน

          รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สทั้ง 3ตำแหน่ง ได้แก่ หมายเลข34 นางสาวภัสราภรณ์ คนคำแหง (นุ้ย), หมายเลข14 นางสาวกัญญารัตน์ พงศ์กัมปนาท (นินิว), หมายเลข5 นางสาวณัฐมน กฤษณคุปต์ (นัท เดอะสตาร์) รับเงินรางวัลคนละ2แสนบาท สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศคริสตัล พร้อมของรางวัลจากผู้สนับสนุน

          ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้แก่หมายเลข28 นางสาวชัญษร สาครจันทร์ (ฟ้า) รับเงินรางวัล2แสนบาท ถ้วยเกียรติยศ พร้อมสายสะพายจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และของรางวัลจากผู้สนับสนุน

          งามอย่างไทย จากสถานีโทรทัศน์สีกองทักบกช่อง7 ได้แก่หมายเลข31 นางสาวขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ (เกี่ยวก้อย)

          นางงามผิวสวย โดยสก๊อต คอลลาเจน-อี ได้แก่ หมายเลข1 นางสาวโชติกา เจริญภักดีกิจ (พีซ)

          รักษ์ความเป็นไทย จากบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด  ได้แก่หมายเลข5 นางสาวณัฐมน กฤษณคุปต์ (นัท เดอะสตาร์)

          นางงามสุขภาพดี โดย B-ing จากบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้แก่หมายเลข43 นางสาวฐิติกา  อุชุไพบูลย์วงศ์ (กิ๊ฟท์)

          Miss Popular จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ได้แก่หมายเลข 12 นางสาวรุ้งสินี ปัญจบุรี (ปุ้ย) รับเงินรางวัล 1แสนบาท สายสะพาย และโทรศัพท์ Sumsung Nexus S



           หลังจากที่ เปิดรับสมัครสาวงามจากทั่วทั้งประเทศ จนได้ตัวแทน 44 คนแล้วนั้น ก่อนที่จะถึงวันตัดสินจริงในคืนวันนี้  ว่าใครจะได้ สวมมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554

           เมื่อค่ำวานนี้ (25 มีนาคม) ได้มีการประกวดรอบสื่อมวลชนก่อน ซึ่งจัด ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ 2 สยามพารากอน โดยภายในงานได้มีการแสดง เพื่อเปิดตัวเหล่าสาวงามทั้ง 44 คน ในชุดไทย  ก่อนจะประกาศรายชื่อตัวแทนผู้เข้ารอบ ทั้ง 12 คน ในชุดราตรี และภายในงาน ยังมีการประกาศผลตำแหน่งพิเศษ รวม 3 รางวัล คือ

         รางวัลงามอย่างไทย โดยพิจารณาจากสาวงามที่มีกริยา มารยาทและความงามตามแบบฉบับสาวไทย  รับรางวัล 1 แสนบาท สายสะพาย พร้อมถ้วยเกียรติยศ ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งได้แก่ หมายเลข 31 นางสาวขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ (เกี่ยวก้อย)  อายุ 22 ปี ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

         รางวัลรักษ์ความเป็นไทย จากบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด โดยพิจารณาจากสาวงามที่มีการไหว้ได้สวยงามและถูกต้อง รวมถึง พูดจาฉะฉาน ชัดเจน รับรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพาย และผลิตภัณฑ์สิงห์ ดื่มฟรีตลอดปี  ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งได้แก่ หมายเลข 5  นางสาวณัฐมน กฤษณคุปต์ (นัท เดอะสตาร์ 5) อายุ 20 ปี นิสิตปี 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ

         รางวัลนางงามสุขภาพดี โดย B-ing จากบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด  โดยพิจารณาจากสาวงามที่มีหุ่นดี สมส่วน ดูดีมีสุขภาพ  รับรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพาย และผลิตภัณฑ์สิงห์ ดื่มฟรีตลอดปี   ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งได้แก่ หมายเลข 43 นางสาวฐิติกา อุชุไพบูลย์วงศ์ (กิ๊ฟท์)  อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

         จากนั้น สาวงามทั้ง 44 คน ได้ออกมาเดินในชุดราตรีอีกครั้ง ก่อนปิดงาน โดยรอบตัดสิน จะจัดขึ้น ในคืนวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม ช่อง 7 สี ถ่ายทอดการประกวดให้ชมทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป  ซึ่งจะมี น.ส.ฆิเมนา นาวาเรเต้ มิสยูนิเวิร์ส 2010 เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเป็นผู้สวมมงกุฎแก่มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สในปีนี้





เหล่าสาวงามลงมือดำนา เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง


            ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการตัดสินสาวงาม ในการประกวด มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส  ประจำปี 2554 โดยกิจกรรมสุดท้าย สาวงามทั้ง 44 คน ลงมือดำนา เลี้ยงเป็ด ปล่อยปลา ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง จ.ลำพูน

            กิจกรรมวันสุดท้ายเช้าวันที่ 22 มีนาคม 2554 เวลา 09.00 น. สาวงามผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 ทุ่มเทกับการฝึกซ้อมการแสดงที่วิทยาลัยเทคนิคลำพูน ย่างเต็มที่ ส่วนสาวงามอีกกลุ่มเดินทางไปที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบเกษตรผสมผสานทฤษฎีใหม่ บนเนื้อที่ 45 ไร่ โดย คุณวิโรจน์ นิไทรโยค ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลตำบลอุโมงค์ ให้การต้อนรับ และให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด


            คณะสาวงาม เยี่ยมชมโครงการ "1 ไร่ ได้ 100,000" เป็นการทำเกษตรแบบผสมผสานทฤษฎีใหม่ โดยการทำนาข้าว ควบคู่กับการเลี้ยงกบ  เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด เพื่อกำจัดศัตรูพืช และใช้บริโภค ใช้มูลสัตว์ทำปุ๋ย ส่วนบนคันนา ปลูกมะรุม และข้าวโพด ให้ร่มเงาและเป็นอาหารด้วย

            เหล่าสาวงาม สวมเสื้อม่อฮ้อม พร้อมรองเท้าบูธ ลงมือดำนาร่วมกับชาวลำพูน ปล่อยกบ ปลา และ เป็ด ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ควบคู่กับการทำนา  เพื่อช่วยกำจัดศัตรูพืชและเป็นอาหารของชาวบ้าน ปิดท้ายด้วยการนำหญ้าไปเลี้ยงควาย ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวนาอย่างใกล้ชิด บรรยากาศในการทำกิจกรรมวันสุดท้ายที่จังหวัดลำพูน เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น

            ด้าน น.ส.สุวัฒนา ดาวมณี หรือ น้องออย หมายเลข 33 สาวใต้จาก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า "วันนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้ลงมือปลูกข้าวด้วยตัวเอง เพราะบ้านเกิดเป็นเมืองทะเล ไม่เคยเห็นการดำนามาก่อน พอได้มาสัมผัสวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรแบบผสมผสานปลูกข้าวและเลี้ยงสัตว์ควบคู่กัน โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง การได้ลงมือดำนาวันนี้ ได้สัมผัสชีวิตชาวนาอย่างแท้จริง ทำให้รู้คุณค่าของข้าวทุกเม็ด และเข้าใจความเหนื่อยยากของชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ"


            ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ เทียนแท้ หรือ น้องปู หมายเลข 2 สาวใต้จากจังหวัดปัตตานี กล่าวเพิ่มเติมว่า "ถึงแม้ว่าจะเรียนจบมาโดยตรง ทางสาขาพัฒนาเกษตร และเคยสัมผัสชีวิตเกษตรกร จากการไปฝึกงานกับโครงการหลวงที่อมก๋อยมาบ้าง แต่การที่ได้มาลงมือทำเอง สัมผัสวิถีชีวิตชาวนาจริง ๆ ทั้งการดำนา การโยนข้าว การเลี้ยงกบ เป็ด ปลา หรือ แม้แต่การเลี้ยงควาย ทำให้ได้ประสบการณ์ และได้ความรู้ที่เราจะนำมาพัฒนา ปรับใช้ในชิวิตการทำงานในอนาคต ถือโอกาสนี้ ขอบคุณชาวนา ที่ทำให้พวกเราได้มีข้าวที่อุดมสมบูรณ์อย่างทุกวันนี้"

            หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมทัศนศึกษาที่จังหวัดลำพูนแล้ว คณะสาวงามทั้ง 44 คน ต้องเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมตัวขึ้นเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 รอบตัดสิน ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 ที่ พารากอน ฮอลล์ สามารถติดตามชมการถ่ายทอดสด ได้ทางช่อง 7 สี เวลา 22.30 น.

สาวงาม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส อวดโฉมชุดว่ายน้ำ

            เริ่มกิจกรรมเช้าวันใหม่ของวันที่ 19 มีนาคม 2554 เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา คณะผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ โดยมีคณะเด็ก ๆ จากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตำบลก้อ มารอต้อนรับ พร้อมพวงมาลัยดอกมะลิให้กำลังใจแก่สาวงามอย่างอบอุ่น หลังจากนั้นคณะสาวงามได้เดินเท้าขึ้นไปยังน้ำตกก้อหลวง ชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นชั้นที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดของน้ำตกในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ทันที ที่มาถึงได้เริ่มถ่ายทำ VTR อวดโฉมเหล่าสาวงามในชุดว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติ และเล่นน้ำ พร้อมร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งสาวงามแต่ละคนต่างมีความมั่นใจ สดใสในชุดว่ายน้ำหลากสี



            ก่อนมาร่วมรับประทาน อาหารกลางวันแบบพื้นเมืองกันที่แก่งก้อ ซึ่งเป็นทะเลสาบส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สามารถพักเรือนแพและนั่งเรือเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งแม่น้ำปิง และหน้าผาหินปูนริมฝั่งน้ำ โดยระหว่างล่องแพมีชาวบ้านให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของแม่น้ำ สายนี้ ทำให้สาวงามได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างพอเพียงของชาวลำพูน


            ต่อจากนั้นเริ่มถ่ายทำ VTR คณะสาวงามได้นั่งเรือหางไปยังโรงเรียนก้อจัดสรร (สาขาห้องเรียนเรือนแพ) ที่ตั้งอยู่กลางน้ำเป็นโรงเรียนเรือนแพแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชาวประมงและพักในเรือนแพ จึงส่งลูกมาศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยมีคุณครูสามารถ สุทะ เป็นคุณครูประจำโรงเรียนเพียงท่านเดียว ที่สอนนักเรียนทุกระดับชั้นเรียน ประมาณไม่เกิน 10 คน ซึ่งสาวงามขออาสาไปให้ความรู้สอนหนังสือ และเล่านิทานให้กับเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด


            โดย นางสาวฑิตยา บำรุงรัตน์ หรือ น้องปุ้ย หมายเลข 30 สาวเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากสอนหนังสือน้อง ๆ ว่า "พวก เราสาวงามได้เดินทางมาเยี่ยมเด็กนักเรียนโรงเรียนที่อยู่กลางน้ำ รู้สึกประทับใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการสอนหนังสือมอบความรู้ให้กับเด็ก ๆ ที่ยากจน พร้อมกันนี้ยังเล่านิทานเพิ่มความสนุกสนานอีกด้วย และที่สำคัญพวกเรายังได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติแบบวิถีชาวบ้านชาวลำพูน ที่เป็นกันเองและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น"

            ซึ่งกิจกรรมในวันพรุ่ง นี้ สาวงามทั้ง 44 คน จะเดินทางไปยังสวนลำไย บ้านห้วยอ้อ ตำบลน้ำดิบ อำป่าซาง และร่วมกิจกรรมศิลปหัตถกรรม ที่สวนไม้ไทยบ้านพ่อเลี้ยงหมื่น ปิดท้ายด้วยการปล่อยโคมลอย และการลอยโขมด ที่สะพานไม้