x close

เปิดชีวิตการทำงานในวัยเรียน กับ มิ้นต์ ชาลิดา





Live & Learn Mint Charida (ภาพยนตร์บันเทิง)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ช่อง3
เรื่อง : MING


           กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ สำหรับสาว "มิ้นต์" ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ภาพยนตร์บันเทิงเลยขอเชิญเธอมาเปิดมุมมอง เรื่องความคิดชีวิต การเรียน กันสักหน่อย เพราะแม้ขณะเจอกัน สาวมิ้นต์จะอยู่ในกองละครเรื่อง "ตะวันเดือด" แต่เจ้าตัวก็ใช้เวลาว่างทุกนาทีหาหนังสือมานั่งอ่าน และทำแบบฝึกหัด เพรามิ้นต์มีความคิดที่ชัดเจนว่า การทำงานตรงนี้ อาจจะไม่ใช่งานที่ยั่งยืน ดังนั้นอนาคตเธอต้องเป็นคนจัดเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุด ส่วนข่าวลือ เรื่องความรัก ที่ล่าสุดถูกจับคู่กับ "โป๊ป" ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ นั้น เจ้าตัวก็ได้แต่ยิ้มขำพร้อมกระซิบว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ ๆ

ตอนนี้ปิดกล้องละคร "ตะวันเดือด" กันไปแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ ?

           มินต์ ชาลิดา : คิดถึงทีมงานทุกคนเลยค่ะ หนูอยากดูละครเรื่องนี้มากค่ะ เพราะพลิกคาแรกเตอร์มาเป็นสาวห้าวแล้วก็ถ่ายด้วยกล้อง HD คือมันชัดมาก ตัวมิ้นต์ดีใจมากเลย ที่ได้เล่นละครเรื่องนี้ คือชอบทั้งตัวบท เสื้อผ้าแล้วก็โลเกชั่นมันอลังการมากตอนถ่ายอาจจะเหนื่อยแต่พอละครใกล้ออกอากาศ นอกจากหายเหนื่อยมันก็ตื่นเต้นค่ะ อยากดูมากที่สุดเลย

อยู่ในกอง แม้จะต้องถ่ายละครตลอด แต่มิ้นต์ก็ยังหอบหนังสือมาอ่านไปด้วย ?

           มินต์ ชาลิดา : ช่วงนี้หนูเรียนหนักด้วยค่ะ อย่างมากองก็จะเอาหนังสือมาอ่าน เพราะว่ากำลังจะเอนทรานซ์แล้ว เกรดที่เรียนก็โอเค.นะคะ แต่อยากทำได้ดีกว่านี้ ตอนนี้เกรด ม.5 ได้ 3.1 คือเพื่อนในห้องมีได้เกรด 4.00 ด้วย แต่หนูมีเวลาเรียนน้อยกว่าคนอื่น ก็พยายามเรียนไม่ให้ตกกว่า 3 อยากแอ็กทีฟตัวเองเพื่อให้เกรดเรายื่นเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้น เรื่องสอบตรงด้วย ที่เราต้องตั้งใจเต็มที่ เลือกศิลปกรรมออกแบบดีไซน์ไว้ ที่มหาวิทยาลัย มศว

ทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้คะ ?

           มินต์ ชาลิดา : ที่อยากเรียนคณะนี้เพราะว่าที่บ้านทำเรื่องเสื้อผ้าอยู่แล้วค่ะ หนูก็อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ก็เลยเลือกที่จะเรียนทางนี้ นี่ก็มีเรียนเรื่องการวาดรูปเพิ่ม เพราะว่าตอนสอบต้องส่งผลงานเป็นคอลเล็กชั่นของเรา แล้วถ้าเกรดเราถึงเราสอบตรงได้ไม่ต้องไปรอผลแอดมิชชั่น ตอนนี้หนูก็เรียนวาดรูปอยู่เรื่อย ๆ แต่จริง ๆ เป็นคนวาดรูปไม่สวย ไม่เก่ง แต่หนูชอบครีเอต ชอบการสร้างสรรค์ชอบมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าที่เราใส่อยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าเราได้เรียนด้านนี้จริง ๆ นอกจากเราชอบอยู่แล้ว ยังได้ส่งเสริมอาชีพของที่บ้านด้วย

มิ้นต์ ชาลิดา

มิ้นต์ ชาลิดา

ละครก็ถ่ายหนัก...เรียนก็ต้องเร่ง เครียดบ้างไหมเนี่ย ?

           มินต์ ชาลิดา : ช่วงที่ละครใกล้ปิดจะเครียดมากค่ะ เพราะว่าเราต้องเรียนไปด้วย เช้าก็มีนัดครูไปสอนเลขที่บ้าน แล้วไปเรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็มีลงคอร์สด้วย แต่หนูไม่ค่อยได้ไป ต้องให้เพื่อนช่วยจดเล็คเชอร์แล้วก็เอามาลอกไว้อ่าน ส่วนวาดแบบเนี่ยจะเรียนรอบดึกเลย เรียนตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มหนักมากไหม หนักค่ะ แต่ก็ต้องตั้งใจ จริง ๆ ไม่อยากคาดหวังกับมันสูงมาก หนูพยายามคิดว่าเราตั้งใจต้องทำให้ได้ แต่จะสอบติดไหม หนูก็ยังไม่รู้ คือไม่อยากหวังสูงเกินไปน่ะค่ะ แต่ในใจเนี่ย บอกตัวเองว่าต้องติด (หัวเราะ)

หลักในการเรียนของมิ้นต์ ?

           มินต์ ชาลิดา : หนูว่าการที่เราคิดว่าเราจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ มันเป็นการบอกตัวเองว่าเราต้องตั้งใจมากขึ้นถึงจะเหนื่อยกว่าคนอื่นแต่ถ้าเราพยายาม หนูเชื่อว่าต้องทำได้ จะไม่บอกตัวเองว่าเหนื่อย ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว เรียนอะไรก็ได้ ไม่ต้องสอบหรอก หนูว่าถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็จะไม่มีเป้าหมายในชีวิต คิดแต่ว่าจะเป็นดารา ซึ่งต้องยอมรับว่าอาชีพนี้มันไม่ได้ยั่งยืน วันนึงข้างหน้าหนูอาจจะไปเล่นเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นหนูอยากมีอาชีพของตัวเอง ทำธุรกิจของตัวเอง เป็นอาชีพหลักมากกว่า

จุดเริ่มต้นที่ทำให้มิ้นต์ คิดว่าเราต้องเรียนอย่างหนัก แม้จะทำงานไปด้วย ?

           มินต์ ชาลิดา : ตัวหนูไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้มายืนได้มาอยู่ตรงนี้มาเล่นละคร นี่ไม่ใช่ความฝันที่หนูคิดภาพไว้ แต่ภาพที่หนูคิดและเห็นมาตั้งแต่เด็ก คือหนูต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ คือ เราคาดหวังเอาไว้ ก่อนหน้านี้หนูเคยเสียใจมาครั้งหนึ่ง คือเด็ก ๆ จะคิดว่าจะสอบเข้าเตรียมอุดม แล้วก็มาสอบเข้าจุฬาฯ ให้ได้ แต่พอสอบเข้าเตรียมฯ ไม่ติด ตอนนั้นหนูเศร้ามากร้องไห้ บอกแม่ว่าจะไม่เรียนแล้ว ดร็อปไว้ก่อนปีหน้าจะมาสอบเข้าที่นี่ใหม่ให้ได้ เพราะคะแนนมันขาดอยู่นิดเดียว แต่สุดท้ายก็มาเรียนที่สาธิต มศว ซึ่งมันก็ทำให้เราปรับความคิดว่า เราจะไม่ตั้งความหวังไว้สูงกับทุก ๆ เรื่องแต่เราต้องพยายามทำให้สำเร็จ ต้องสู้ค่ะ อยากทำให้ได้ ถึงเราจะมีเวลาเรียนน้อยกว่าเพื่อน เพราะเราต้องทำงาน แต่ถ้าเราทำได้มันจะเป็นความภาคภูมิใจของเราและครอบครัว



ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง



คุยเรื่องเรียนมาสักพัก วกมาเรื่องความรักซะหน่อย ล่าสุดก็ถูกจับคู่กับ โป๊ป ซะงั้น !?

           มินต์ ชาลิดา : ทุกวันนี้เรียนแล้วก็ทำงานอย่างเดียวค่ะ อย่าง พี่หมาก ข่าวก็หายไปแล้วนะคะ เพราะทุกคนรู้ว่าไม่มีอะไร เราแค่เคยเล่นละครด้วยกันมาเลยดูสนิท แต่ตอนนี้มีข่าวกับพี่โป๊ป ด้วยหนูก็งงกันไป กับข่าวพี่เค้าเนี่ยจริง ๆ ขำ ๆ กันมากกว่า ทุกวันนี้บอกเลยอย่ามาใกล้น้องนะเดี๋ยวมีข่าว กลัวค่ะ (หัวเราะ) แต่หนูก็ทำตัวปกตินะคะ ไม่อยากไปอะไรมาก เพราะจริง ๆ ไม่มีอะไรอยู่แล้ว เราทำงานอย่างสบาย ๆ แต่ห่วงเขาว่าเดี๋ยวจะมีข่าว คือข่าวกุ๊กกิ๊กเนี่ยใคร ๆ ก็เจอนะคะ มันไม่ใช่ข่าวแรงอะไร คือข่าวแบบนี้พอเวลาผ่านไปคนรู้ว่าเราไม่ได้มีอะไร มันก็จะหยุดไปเอง

ทางบ้านซีเรียสไหมคะ ?

           มินต์ ชาลิดา : จริง ๆ อยากให้มีข่าวเรื่องการทำงานบ้าง เพราะเรื่องพวกนี้มันก็ปกตินะคะ ใคร ๆ ก็มีข่าวจับคู่ผิดจับคู่ถูก แต่ถ้าไม่มีจะดีกว่านะคะ หนูมองว่าด้วยวัยด้วยล่ะ บางคนอาจจะไม่เข้าใจก็จะมองว่าเด็กอายุเท่านี้ทำไมมีข่าวคุณพ่อคุณแม่ก็ซีเรียสเพราะท่านเลี้ยงเรามาแบบอาจจะโบราณนิด ๆ กับคุณพ่อเนี่ยไม่ค่อยได้มากอง พอมีข่าว ก็จะมาถามคุณแม่ว่าอะไรยังไง จริงเหรอ คือท่านไม่ชอบ แต่คุณแม่ก็จะบอกว่าไม่มีอะไร เพราะคุณแม่ก็เห็นทุกอย่างในกองก็จะไปเล่าให้คุณพ่อฟังอีกที

คุณแม่แนะนำมิ้นต์อย่างไรบ้างคะ ?

           มินต์ ชาลิดา : คุณแม่เตือนเสมอค่ะ เพราะเราเป็นลูกผู้หญิงคนเดียว คุณแม่จะเน้นสอนเรื่องการวางตัวของผู้หญิงต้องมีระเบียบเรียบร้อย เก็บของอะไรก็ต้องเป็นระเบียบ คือเรื่องพวกนี้คุณแม่จะปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กค่ะ แต่กับคุณพ่อก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ เรื่องหนุ่ม จะเป็นคุณแม่ล่ะที่คอยบอกว่า ถ้าจะมีแฟนก็ขอให้ได้อย่างคุณพ่อนะ เพราะคุณพ่อเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แล้วกับคุณแม่เนี่ย หนูจะเล่าให้ฟังทุกเรื่องไม่ว่าเพื่อน เรียนการทำงาน คุณแม่จะคอยให้คำปรึกษาตลอด


ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

หนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบมิ้นต์ มิ้นต์ทำยังไงคะ ?

           มินต์ ชาลิดา : คุณแม่จะมีเตือนเหมือนกันกับบางคนที่เข้ามาจีบเราแล้วทำแปลก ๆ หนูเองบอกตรง ๆ บางทีเราก็ไม่รู้การที่มีผู้ชายคนนึงเข้ามาสนิทกับเรา แล้วเขาคิดกับเรายังไง แต่พอคุณแม่ได้เห็น ก็จะมาบอกว่าให้ห่าง ๆ ไว้ดีกว่าบ้าง หรือก็วางตัวเป็นเพื่อนซะ เพราะผู้ใหญ่มองแล้วเขารู้ว่าคนที่เข้ามาต้องการอะไร แล้วก็ให้เราวางตัวปกติแบบเป็นเพื่อน ซึ่งพอเราทำแบบนี้ เขาจะห่าง ๆ ไป พอห่างไปแล้ว คุณแม่ก็จะมาสอนว่ารู้ไหมเนี่ยเขาเข้ามาจีบเรานะ แบบนี้ คือบางครั้งเราไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้น เราวางตัวเป็นเพื่อนกับทุกคน มีทั้งในและนอกวงการค่ะที่เข้ามา แต่วันนี้เป็นเพื่อนกันไปหมดแล้วค่ะ

 วัยแบบนี้ต้องถามความคิดเรื่องปั๊บปี้เลิฟ มิ้นต์ว่าสามารถมีได้ไหม ?

           มินต์ ชาลิดา : ปั๊บปี้เลิฟ หนูว่ามันเป็นอะไรที่สวยงามนะคะ มนุษย์ทุกคนต้องมีอยู่แล้ว แต่เราต้องรู้จักคำว่าขอบเขต คือจะทำอะไรต้องมีขอบเขตกับตัวเองและความสัมพันธ์ด้วย ตัวหนูวันนี้ไม่อยากมีความรัก ไม่อยากมีแฟน เพราะมันจะทำให้เราคิดเรื่องความรักจนมาทำให้เรื่องเรียนเรื่องงานปวดหัว เวลาใครเขาชัดเจนว่าเข้ามาจีบเรา หนูก็บอกเลยว่าคิดเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันไปก่อนเถอะ แบบนี้คบกันได้นานกว่าเป็นแฟนกันนะ เพราะถ้าเป็นแฟน พอทะเลาะกันก็ต้องเลิกกันไป แต่ถ้าเป็นเพื่อนเนี่ยมันยาวกว่าอยู่แล้วค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 37 วันที่ 3-9 สิงหาคม 2554


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดชีวิตการทำงานในวัยเรียน กับ มิ้นต์ ชาลิดา โพสต์เมื่อ 3 สิงหาคม 2554 เวลา 11:16:43 1,205 อ่าน
TOP