เสี้ยวเล็กๆ ของผู้ชายชื่อ เจสัน ยัง
เรื่อง : กาหลา
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดยคุณ CiNNtv1 , Youtube.com โพสต์โดยคุณ CatMatdz
นั่งดูหน้าจอตั้งแต่ตอนแรกของคืนวันพุธ-พฤหัสบดี ทางช่อง 3 เพื่อดู "มุกเหลี่ยมเพชร" งานของ เป่า จิน จง แล้วถ้าคนกำกับฯ ชื่อ นพพล โกมารชุน ด้วยแล้ว มันทำใจให้เชื่อเกินครึ่งไปแล้วล่ะว่า ไม่ห่วยแน่ และยิ่ง พัญสร มือเขียนบทคู่เป่าฯ เราจะพลาดได้อย่างไร
นักแสดงในเรื่องนี้ นอกจากพระเอก-นางเอก "โฬม" พัชฏะ นามปาน และ "ซูซี่" สุษิรา แองจิลีน่า จะเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทของตนที่น่าสนใจ มีมิติ อาทิ "ต๊ะ" วริษฐ์ ทิพโกมุท, "เอ" พศิน เรืองวุฒิ, "มะปราง" วิรากานต์ เสณีตันติกุล และ เจสัน ยัง ในบท "เจนจบ" ที่ทำให้คนดูไขว้เขวตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่ละครออกอากาศว่า เจนจบดูเป็นคนดี แต่ในนางห้วงอารมณ์ก็ทำให้คนดูได้กลิ่นแปลก ๆ
เจนจบ ใน "มุกเหลี่ยมเพชร" ทำให้มีคนกล่าวขานถึง เจสัน ยัง มากเป็นพิเศษในฐานะนักแสดงขั้นเทพคนใหม่ของวงการละครไทย คำกล่าวนี้ (นักแสดงขั้นเทพคนใหม่) เป็นความรู้สึกส่วนตัว จากการดู "มุกเหลี่ยมเพชร" ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม ทีผ่านมา Hot Issue นอกจากจะพูดคุยเกี่ยวกับผลงานเรื่องล่าสุดของ เจสัน ยัง เรายังได้มาอัพเดตข่าวดีถึง 2 เรื่องด้วยกัน !!!
"มุกเหลี่ยมเพชร" เป็นบทละครที่ดีมากครับ เจสัน ยัง เอ่ยประโยคแรก "คนเขียนเขาเฉลี่ยบทให้ทุกคนมีอะไรให้เล่นให้แสดง สำหรับบท เจนจบของผมนั้น ทาง "อาตู่" นพพล โกมารชุน ให้มารับบทนี้ ดีใจครับ เพราะบทบาทอย่างนั้นน่ะ (หัวเราะเบา ๆ นัยนั้นหมายถึงต้องแสดงเป็นเกย์) ครั้งหนึ่งในชีวิตมันแทบจะได้แค่ครั้งเดียว ในชีวิตจริง ๆ มันเป็นตัวละครที่ไกลตัว ฉะนั้นมิติของตัวละครมันน่าสนใจมาก ภายนอกเจนจบดูเป็นคนดี ในช่วงแรก ๆ ที่ออนแอร์น่ะนะครับ คนรอบข้างไม่มีใครจับผิดเขาได้เลย"
ตัวละครอย่างเจนจบ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อย่าตัดสินคนว่าดีหรือชั่วแค่เปลือกเจสัน ยัง : เจนจบ ดูนุ่มนวล เป็นสุภาพบุรุษ พูดจาดี แต่งตัวเนี้ยบมาก แต่มิติของตัวละครในด้านมืดของเขา เขาไม่ใช่คนดี เพราะสิ่งที่เขาทำขึ้นมามันชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นแผนการที่เขาวางแผนทั้งหมดนี้ก็เพื่อเรียกร้องอะไรบางอย่าง หรือทำไป เพราะมีจุดประสงค์ให้เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นมาทุกตอนมีอะไรให้น่าสนใจ มันจะเข้มข้นขึ้น และน้ำหนักก็ไม่ได้มาทานใครคนใดคนหนึ่ง ก็มีเรื่องของพระเอกนางเอก โฬม กับ ซูซี่ และของ พี่เอ กับ น้องมะปราง, ต๊ะ วธิษฐ์ กับ วิกกี้ อีก มันเข้มข้นน่ะครับ ทางด้านกลุ่มโจรของพวกภูผา คือ หนึ่ง ชลัฏ ก็มีทางของตน อย่างที่ผมบอกทุกตัวละครมีความหมายหมดเลย
...อย่างฉากหน้าของพี่เอกับน้องมะปราง ชนินทร กับ นิจนันท์ เนี่ยดูเป็นคู่รักที่ดี ต่อหน้าเพื่อนรักภรรยา ลับหลังตบตีเมีย ถ้าดูแล้วมันไม่ได้สนุกอย่างเดียว มันได้อรรถรส จะรู้ว่านี่คือความจริงนะ ความจริงของสังคมที่เราเห็นว่าข้างนอกก็คือเปลือก เพราะต่อหน้าคนอื่น ๆ เราอยากให้เขาเห็นแต่สิ่งดี ๆ ฉะนั้นการที่เราจะไว้วางใจใครสักคนหรือเราจะเทใจ ทุ่มใจ เชื่อมั่นใครเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างตัวเจนจบที่ผมบอกว่ามีมิติ คือ นอกจากมันเป็นคนไม่ดีแล้วเขายังเป็นเกย์ด้วย แอบรักพระเอก แล้วออกแนวจิต ๆ อีก
ตอนเปิดกล้อง รู้สึกอึดอัดไหม ที่ถูกถามถึงบทของตนที่ได้รับ ?เจสัน ยัง : คือเรื่องนี้มันซับซ้อนนิดหนึ่งน่ะครับ ถ้าเราบอกหมด มันก็ไม่สนุก ผมปิดมาตลอดเลย เวลาให้สัมภาษณ์ตอนแรกๆ ผมจะเฉยๆ คือไม่รู้ว่าจะพูดอะไร อย่างถามว่าเล่นเป็นตัวดีหรือไม่ดี ผมก็บอกไม่ได้ว่าเป็นตัวไม่ดีเพราะแรก ๆ เปิดมาดี ผมก็จะบอกว่า "ผมเล่นเป็นเพื่อนพระเอกครับ คอยปกป้องดูแล" พล็อตของละครจะเกิดเหตุการณ์อะไร และจะมีการวางแผนอะไรต่อไปสลับซับซ้อน แผนซ้อนแผนกันอีก ซึ่งแต่ละคนมันมีแววร้าย มีความร้ายกาจของตัวละคร
ถึงกับยอมเลื่อนงานอุปสมบทจากปีที่แล้วเป็นปีนี้เพื่อผลงาน "มุกเหลี่ยมเพชร" ?เจสัน ยัง : ชอบมากเลยครับ ชอบตั้งแต่ยังไม่เห็นตัวบทเต็ม รู้เพียงว่าคาแรกเตอร์ของเจนจบจะเป็นแบบนี้ โอ้โฮ ไม่ง่ายเลยนะครับ ผมก็โอเค. (หัวเราะ) คือความจริงผมมีแพลนที่จะบวชปีที่แล้วช่วงเข้าพรรษา อันนี้เรียนตามตรง แต่อาตู่มาทาบทามและบอกว่าอยากให้เล่นมาก และผมก็รู้สึกว่าบทมันท้าทาย น่าสนใจ และที่สำคัญไม่ค่อยจะมาบ่อยหรอก นาน ๆ ที หรือละครเรื่องหนึ่งจะมีให้เราแสดงอย่างหลากหลายมิติอย่างนี้ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก ก็รู้สึกว่ามันท้าทาย ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่าเราจะทำให้ดีหรือไม่ดี รู้แต่ว่ามันท้าทาย เมื่อผู้ใหญ่มอบงานมาให้เราก็พยายามทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด เหมือนที่บอกแหละครับ ครั้งหนึ่งในชีวิตจริง ๆ เพราะถ้าจะเล่นในลักษณะแบบนี้อีก คือในลักษณะของชายรักชายน่ะครับ คนดูจะไม่เชื่อแล้ว ฉะนั้นมันได้ครั้งเดียว แต่ในบทบาทของตัวร้าย มันก็ยังได้อยู่ เดี๋ยวมันพลิกไปดีบ้าง ร้ายบ้าง เพราะผมไม่ได้ยืดติดบทบาทว่าไม่อยากเล่นร้ายแล้ว อยากเล่นเป็นคนดี หรืออยากรับแต่บทผู้ร้าย สำหรับผมอะไรก็ได้ที่เรารู้สึกท้าทายและน่าสนใจทำให้เรามีพัฒนาการในการแสดงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
รู้สึกอย่างไรกับฉากหวิวๆ ที่แสดงกับผู้ชายด้วยกัน กำลังพอดีนะ ไม่เยอะเกินไป ไม่แช่ภาพไว้นานเกินที่จะทำใจยอมรับ ?เจสัน ยัง : ผมดูตัวเอง ผมยัง โอ๊ย (หัวเราะ) อาตู่ทำได้สวยงามมาก คือมันไม่น่าเกลียดเลย คือเป็นภาพกว้าง แล้วกล้องดอลลี่ ตัดไป อาตู่เล่าเรื่องด้วยภาพได้สวยงามนะ แหมมันบอกไม่ถูก นี่ก็ยังถ่ายอยู่นะครับ ยังเก็บรายละเอียดกันอยู่ อยากติดตามครับ
แล้วงานบวชล่ะ มีกำหนดที่แน่นอน เมื่อไหร่ ที่ไหน นานแค่ไหน ?เจสัน ยัง : วันที่ 1 เมษายนนี้ครับ ที่วัดธรรมมงคลสุขุมวิท 101 ก็ตั้งใจว่าไม่เกิน 2 เดือน แต่ไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแน่นอน ก็เดี๋ยวดูฤกษ์สึกอีกทีหนึ่ง
เข้าเทศกาลวาเลนไทน์ ไม่ถามถึงความรักก็ดูจะแห้งแล้งเกินไป เจสันมีแพลนจะแต่งงานเร็วๆ นี้เมื่อไหร่ค่ะ ?เจสัน ยัง : เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ นี่ผมยังไม่บอกใครเลยครับ
ไหนๆ ก็เจอกันแล้วข่าวดีปีนี้หรือปีหน้า ?เจสัน ยัง : ผมขอบวชก่อนแล้วกันครับ แล้วใกล้ๆ จะบอกกันอีกที
ไหนๆ ก็มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ปีนี้หรือปลายปี ?(หัวเราะ) แต่เห็นลูกตื๊อตาใสของเราแล้วก็จำยอม
เจสัน ยัง : ปลายปีนี้ครับ
คบกับแฟนนานหรือยัง ?เจสัน ยัง : 2 ปี แล้วครับ
ระยะเวลาในการคบกัน มีผลแค่ไหนในการตัดสินใจร่วมชีวิตด้วยกัน ?เจสัน ยัง : นานไม่นาน ผมว่าไม่ใช่สูตรนะครับ บางคู่คบกัน 6 เดือน ก็แต่งงานกัน อยู่กินกันมีความสุขจนเฒ่า บางคู่คบกันมา 10 ปีถึงแต่งงาน ก็อยู่กันอย่างมีความสุข จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรแน่นอนระยะเวลานั้นบางคนอาจบอกว่ารู้จักกันน้อยไป บางคนอาจบอกว่านานไปแล้วนะ ผมว่านะครับมันเป็นเรื่องของคนสองคนว่ามันคลิกกันไหม คุยกันรู้เรื่องมั้ย ทัศนคติ มุมมอง วิธีคิดไปในแนวเดียวกันไหม ถ้ามันสวนทางกันก็คุยกันไม่รู้เรื่องช่วงแรกคบกันด้วยตัณหามันไปไม่รอดหรอก ก็แค่ฉาบฉวย เพราะฉะนั้นเนี่ยอยู่ๆ ไปความรักมันจะเพิ่มพูน เป็นเพื่อนและดูแลกันมันต้องสร้างครอบครัว ต้องเป็นผู้นำ ดูแลลูก เป็นอะไรต่อไปที่มีมากกว่าความรักที่ฉาบฉวย ฉะนั้นความรักของผม จึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ณ เวลานี้ครับ เพราะตอนเด็ก ๆ ผมก็คิดไม่ได้ขนาดนี้หรอก แต่มาถึงตอนนี้แล้ว เราก็จริงจังและซีเรียส แต่ก็ดีใจที่เจอคนที่ใช่ที่ถูกใจ
ว่าที่เจ้าสาวคือคนที่ใช่และถูกใจตรงไหนคะ ?เจสัน ยัง : ผมได้เจอน้องเขา (น้องดา เป็นคุณครูสอนเด็กเล็ก INTERNATIONAL SCHOOL สุขุมวิท) ก่อนที่คุณแม่ผมจะเสียได้สักระยะหนึ่ง เราคุยกันเรื่องธรรมะ แล้วเขาเป็นคนที่พาผมไปปฏิบัติธรรมซึ่งเราก็จะได้ยินได้ฟังว่า "ปฏิบัติธรรม" แต่เราไม่เคยไปและไม่รู้ว่าทำยังไง น้องดาก็พาไป ก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ผมมีความสุขที่เกิดแรงบันดาลใจ คือน้องดาเขาทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ทุกวันนี้ก็พยายาม ไม่ได้บอกว่าทำได้นะ เอาเป็นว่าผมพยายาม พยายามที่จะรักษาศีล 5 บริบูรณ์ มีอะไรขาดตกบกพร่องเราก็ต้องมีสติ คือรู้ให้เท่าทันจะได้ไม่ผิดพลาด
เหตุนี้จึงไม่เบียดเบียนสัตว์ ? (เจสัน ยัง กินมังสวิรัติ)เจสัน ยัง : โดยส่วนตัวไม่อยากทานเนื้อสัตว์อยู่แล้ว แล้วบังเอิญน้องเขาไม่ทานเนื้อสัตว์ ซึ่งไม่ทานมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเราก็คุยกันว่า ทำได้ยังไง ไม่ลำบากเหรอ เขาบอกไม่ลำบากเลย เราก็ได้แรงบันดาลใจลองทำซิ คือตัดหมดเลย ผมเองน่ะไม่ทานเนื้อหมูกับเนื้อวัวมา 15 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ผมเข้าวงการใหม่ ๆ ส่วนมังสวิรัติจะทานตอนวันเกิด พอไปเรียนเมืองนอก ก็ปล่อยไปตามปกติ แต่มาตัดเนื้อสัตว์ทุกสิ่งอย่างก็ 2 ปีนี่แหละครับ ผมก็แฮปปี้และเขาก็ไม่ได้มาบังคับว่าเราต้องทานเหมือนเขา ไม่เลย แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากเขา ก็เนี่ยแหละครับเราคุยกันรู้เรื่อง
สิ่งที่ถูกใจนอกเหนือจากนี้ ?เจสัน ยัง : เขาให้คำแนะนำแก่เราได้ในสิ่งที่เราฟังเขาเขาฟังเรา ก็ฟังซึ่งกันและกัน อย่างนี้แหละครับแฮปปี้ ครอบครัวน้องเขาก็น่ารัก คบกันมาก็อย่างที่บอกเป็นช่วงสุดท้ายของคุณแม่ผม ก่อนที่คุณแม่ผมจะเสีย ผมก็มีโอกาสสร้างบุญสร้างกุศลตรงนี้ให้คุณแม่ เป็นสิ่งที่สุดยอดแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะได้ทำอะไร การทำสมาธิแบบไหนก็ตามนะฮะคือเป็นการสร้างบุญกุศล หนึ่งให้กับตัวเองให้กับคนที่เรารัก บุพการี คุณพ่อคุณแม่ ตรงนี้แหละครับได้โดยตรงเลย คุณแม่อยู่ก็ดูแลอย่างเต็มที่ น้องเขาก็น่ารักมาช่วยดูแลให้ ตอนช่วงที่ผมไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัดเขาก็มาดูแลคุณแม่ คุณแม่อยู่โรงพยาบาล ช่วงที่ท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้วไม่รู้สึกตัว ก็เป็นหน้าที่คุณหมอ ผมตอนนั้นก็ไปเก็บบุญอย่างเดียวเลย (คุณแม่เสียเดือนพฤศจิกายน 53)
ตลอดเวลาที่สนทนา เราเอ่ยคำว่า ดีจังเลย ดีเนอะ อยู่บ่อย ๆ ถึงการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนเจสันต้องขอกับเรานิดหนึ่งว่าเจสัน ยัง : คนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์มังสวิรัติแล้ว ภาพลักษณ์อาจจะดูดีนะ แต่ผมไม่ได้บอกว่าทำเพื่อให้คนมามองว่าเราเป็นคนดี ไม่ใช่อย่างนั้น เราทำแล้วเราสบายใจ แต่การที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดีเนี่ย สิ่งตรงนี้ไม่ใช่ มันก็แค่เปลือก แต่ถ้าทำแล้ว สบายใจก็ทำ มันก็เป็นบุญกุศลอย่างหนึ่งแค่นั้นเอง ครูบาอาจารย์บอก ทำอย่าเพื่อโอ้อวดใคร !!!
เราจบการสนทนาด้วยความรู้สึกดี ๆ และมีสิ่งที่ดีกลับมากับใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ปีที่ 38 วันที่ 8-21 กุมภาพันธ์ 2555 Vol.1821
