ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย LadyBimbettes
อาหารอร่อยนอกจากจะขึ้นอยู่กับการปรุงรสแล้ว วัตถุดิบนับเป็นส่วนสำคัญมากที่จะชูรสให้อาหารมีรสชาติดีและให้คุณประโยชน์ "รายการ กิน อยู่ คือ" (13 พฤษภาคม) จึงพาไปรู้จักกับพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่เป็นวัตถุดิบชั้นยอดในการปรุงอาหาร ทั้งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และมีคุณประโยชน์มากมาย นั่นก็คือ ผักหวานป่า พร้อมทั้งมีเมนูที่สร้างสรรค์จากผักหวานป่ามาฝากกันด้วย ..
ก่อนจะเริ่มต้นลงมือทำเมนูเด็ด คงต้องไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารครั้งนี้กันก่อน โดยมีผู้ใหญ่ รับ พรหมมา ผู้ใหญ่บ้านตำบลหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ผู้นำชุมชนการปลูกผักหวานป่า อาสามาให้ความรู้ถึงเรื่องราวของพืขสมุนไพรชนิดนี้
โดยผู้ใหญ่รับ เล่าว่า เมื่อก่อนชาวบ้านจะใช้วิธีการเผาไฟเพื่อกระตุ้นให้ผักหวานป่าแตกยอดใหม่ โดยที่ผักหวานป่าก็ทนไฟ ไม่ยอมตายไปจากผืนป่า จึงถูกขนานนามว่าเป็น พืชอมตะ และตนเองก็เป็นคนศึกษาพร้อมทั้งใช้ภูมิปัญญาจนผักหวานป่าขยายพันธุ์ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยใช้วิธีเก็บลูกผักหวานจากต้นแม่พันธุ์ที่มีอายุประมาณ 50 ปี นำไปคัดจนเหลือแต่เมล็ดข้างใน แล้วนำเมล็ดไปผึ่งลม 1 วันให้เปลือกแข็ง จากนั้นนำไปปักในถุงใบเล็กใส่ดินผสมปุ๋ย เพาะไว้ประมาณ 15 วัน จะเห็นรากงอกออกมาจากเมล็ด จึงนำไปปลูกได้
สำหรับวิธีการปลูก ควรเลือกปลูกในบริเวณที่มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ขุดหลุมขนาดเล็กเท่าถุงที่เพาะไว้ ใส่ปุ๋ยคอกลงไปรองพื้น แล้วเอาดินกลบบาง ๆ เพื่อไม่ให้รากผักหวานสัมผัสกับปุ๋ยโดยตรง จากนั้นตัดก้นถุงประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้ววางถุงผักหวานที่เพาะไว้ลงไปได้เลย ซึ่งจากภูมิปัญญาของผู้ใหญ่รับ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเลี้ยงเจ้าต้นผักหวานโดยทำให้ต้นผักหวานมียอดที่สั้นลง เพื่อการเก็บยอดได้ง่ายขึ้นไม่ต้องปีนขึ้นไปสูง ๆ เช่นแต่ก่อน และทำให้ใช้เวลาในการเก็บได้รวดเร็วกว่าด้วย
ส่วนข้อดีของการปลูกผักหวานป่า ก็คือเมื่อเพราะพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นได้แล้ว เจ้าผักหวานป่าจะมีอายุยืนยาวหลายสิบปี โดยสามารถเก็บยอดได้เรื่อย ๆ แบบไม่จำเป็นต้องปลูกต้นใหม่ นับว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวที่ให้ผลคุ้มค่า สมกับฉายาพืชอมตะจริง ๆ
นอกจากนี้ผักหวานป่ายังมีรสชาติออกหวานเป็นเอกลักษณ์ ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการหลากหลาย มีแหล่งโปรตีน วิตามินซี และให้พลังงาน ทั้งยังช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ส่วนรากสามารถนำไปปรุงยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้กระสับกระส่าย ใช้ปรุงยาเขียว และต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย เรียกว่าสรรพคุณครบถ้วนตามแบบฉบับพืชสมุนไพร จึงเหมาะกับการนำมาประกอบอาหารหลากหลายชนิด และหนึ่งในเมนูเด็ดที่สร้างสรรค์จากผักหวานป่าที่นำมาฝากกันในวันนี้ก็คือ แกงเลียงผักหวานป่าใส่ปลาย่างพร้อมเห็ดสามอย่าง ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์สุด ๆ เลยล่ะ
ส่วนประกอบ
- ผักหวานป่า
- ปลาย่าง
- เห็ดอะไรก็ได้ 3 อย่างตามต้องการ เช่น เห็ดนางรม เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เป็นต้น
- พริกไทย
- พริกแห้ง
- กะปิ
- เกลือ
- กระชาย
- หอมแดง
- น้ำปลา
- ใบแมงลัก
- ข้าวโพดอ่อน
วิธีการทำ
1. ตำพริกแห้ง กะปิ กระชาย หอมแดง พริกไทย เป็นเครื่องแกง แล้วนำใส่ลงไปในนำเดือด
2. ใส่เห็ดทั้ง 3 ชนิด และ ข้าวโพดอ่อนลงไปในหม้อ ตามด้วยปลาย่างเพื่อเพิ่มความหอม
3. ใส่ผักหวานป่าลงไป ตามด้วยใบแมงลัก
4. ปรุงรสตามต้องการ โดยไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะความหวานจากผักหวานป่าช่วยเพิ่มรสชาติหวานกลมกล่อมแทนน้ำตาลอยู่แล้ว
5. คนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จสิ้น
นอกจากเมนูแกงเลียงผักหวานป่าใส่ปลาย่างแล้ว ผักหวานป่ายังสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูต่าง ๆ ได้หลากหลายอีกด้วย เช่น ทอดมันผักหวานป่า ยำผักหวานป่ากุ้งสด ต้มยำไก่บ้านผักหวานป่า ห่อหมกผักหวานป่าปลาช่อน ก๋วยเตี๋ยวหมูผักหวานป่า และยำกรอบผักหวานป่า เป็นต้น ถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายและนำไปดัดแปลงเป็นเมนูได้หลากหลายจริง ๆ สำหรับท่านที่ชอบปรุงอาหารหากสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ จากผักหวานป่าได้แล้ว อย่าลืมนำเมนูเด็ดมาแชร์กันบ้างนะคะ
