เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย hottvnews
ฟลุค ให้สัมภาษณ์ วอยซ์ ทีวี คิดเล่น ๆ อยากให้มีวันพูดความจริงแห่งชาติ เหตุทุกคนกลัวการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ชี้ ความจริง เป็นยารักษาของทุกเรื่อง งง ความเห็นของตัวเองถูกจับตามองมากขนาดนี้
เป็นศิลปินอีกหนึ่งคนที่ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจน สำหรับ "ฟลุค เดอะสตาร์" หรือ ฟลุค พชร ธรรมมล จนได้รับทั้งกำลังใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา และล่าสุด ฟลุค เดอะสตาร์ ก็ได้แสดงมุมมองทางการเมืองของตัวเองอีกครั้ง ผ่านรายการ "ดีว่า คาเฟ่" ทางช่องวอยซ์ ทีวี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ฟลุค เดอะสตาร์ กล่าวว่า ที่กล้านำเสนอจุดยืนทางการเมืองของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เพราะตัวเองเป็นคนสนใจข่าวสารบ้านเมือง รวมทั้งเรื่องการเมือง ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นมาก เพราะยังมีสัญญากับต้นสังกัดเก่าอยู่ ถ้าหากคำพูดถูกนำไปตีความผิด ๆ ก็จะกระทบกระเทือนถึงต้นสังกัดได้ แต่ตอนนี้ได้ขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดเก่าแล้ว จึงกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของ อากง หรือนายอำพล ตั้งนพกุล นั้น ฟลุค เดอะสตาร์ มองว่า ขณะนี้ถูกคนมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งถ้าติดตามมาแต่แรกจริง ๆ จะรู้ว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวเขาไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นสีเหลือง หรือสีแดง เพราะส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการ นักเขียน ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในทางการเมือง แต่พอหลัง ๆ คนกลับมองเป็นเรื่องเสื้อแดงไปหมด
ฟลุค กล่าวว่า เขาเริ่มสนใจเรื่องการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เพราะคุณพ่อเคยชวนตนเองไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ได้เห็นภาพการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่าง ๆ แต่ตอนนั้นยังเด็ก ๆ อยู่ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็เริ่มศึกษาและหาข้อมูลทางการเมืองบ้าง พอช่วงหลัง ๆ มาสนใจมากขึ้น ติดตามทั้งเรื่องของนิติราษฎร์ เรื่องในสภา หรือแม้แต่รายการสายล่อฟ้า ตนก็ดูทั้งหมด ไม่ใช่ว่าสนใจฝั่งใดฝั่งเดียว จนมารู้สึกว่า การนำเสนอของนิติราษฎร์ก็มีเหตุมีผล เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน แต่กลับถูกคนมองว่าเป็นเรื่องของการล้มล้างสถาบัน ซึ่งสิ่งที่คนอื่นมองเหมือนกับไปทำลายคนกลุ่มนี้ เพราะในความเป็นจริงแค่ความคิดและคอนเซปต์แบบนี้คงไม่สามารถไปทำร้ายใครได้ และก็ไม่มีใครจะมาล้มล้างสถาบันได้อยู่แล้ว
ฟลุค กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงการทำงานของสื่อกระแสหลัก พร้อมตั้งคำถามว่า ทุกวันนี้สื่อหลัก ๆ ทำเพื่อสังคม หรือเพื่อเอาตัวรอด เพราะทุกวันนี้ ตนเห็นว่า สื่อหลักกำลังนำเสนอข่าวแบบปกป้องตัวเอง คือไม่นำเสนอความจริงแบบตรงไปตรงมา ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่ากำลังคิดร้ายกับแผ่นดินเกิดอยู่ เช่นเดียวกับคนในวงการ ก็ยิ่งต้องป้องกันตัวเอง เพราะเมื่อสื่อก็ไม่กล้านำเสนอ คนในวงการก็ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมา ทั้งที่จริง ๆ ถ้ามองกันยาว ๆ ความจริงจะเป็นยารักษาของทุกเรื่อง
ส่วนเรื่องที่ว่าหากศิลปินแสดงจุดยืนทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อแฟนคลับหรือไม่นั้น ฟลุค บอกว่า มันก็มีผล อย่างตัวเขาเอง แฟนคลับของเขามาจากผลงาน การร้องเพลง การแสดง แต่เมื่อปัจจุบันมีเฟซบุ๊ก มีทวิตเตอร์ ทำให้กระจายข่าวสารได้มากขึ้น ก็ทำให้แฟนคลับของเขาหลายคนรับรู้ข้อมูลมากขึ้นก็ยังมาพูดคุยกันได้ ส่วนเรื่องที่นักแสดงออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย คือ แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ อยู่บนหลักความเป็นจริง เพราะการเป็นศิลปินมีคนจับจ้องมาก
"หากศิลปิน นักแสดง กล้าแสดงออก และรับผิดชอบ โดยมีแหล่งที่มาของสิ่งที่เขาต้องการจะบอก ฟลุค คิดว่ามันคงจะเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนส่วนใหญ่ในสังคม ฟลุคเคยคิดเล่น ๆ ว่า เราควรจะมีวันพูดจริงแห่งชาติ เหมือนที่ฝรั่งมีวันโกหก เพราะอย่างฟลุคทำงานก็จะรู้ว่าในวงการเป็นเรื่องของภาพ แม้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หรือไม่สนิทกันมาก่อน ก็ต้องทำสิ่งดี ๆ ในอีกฝั่งเห็น รวมไปถึงเรื่องทัศนคติทางการเมืองที่จะนำมาพูดคุยกัน แต่สถานการณ์ทางการเมืองทุกวันนี้ คนกลัวที่จะถูกตีความว่าเป็นคนไม่รักสถาบัน หรือเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางการเมือง เลยกลายเป็นว่าทุกคนโกหก เก็บเอาไว้ข้างในเพื่อเอาตัวเองรอด เพราะจะมีผลกับงาน" ฟลุค กล่าว
ฟลุค ยังบอกด้วยว่า ตอนแรกที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองก็ไม่ได้คิดว่า จะถูกจับตามอง หรือคนสนใจถึงขนาดนี้ เพราะแม้ตนจะอยู่ในวงการ แต่ชื่อเสียงก็ไม่ได้อยู่ในระดับท็อป เลยคิดว่าสิ่งที่ตนทำไปคงมีผลกับกลุ่มเล็ก ๆ มากกว่า แต่พอผ่านมา 3 วัน กลายเป็นข่าวขึ้นมาขนาดนี้ ก็ทำให้ตนงงอยู่ว่าเรื่องนี้ถูกคนให้ความสนใจมากขนาดนี้เลยหรือ
รายการ ดีว่า คาเฟ่ ทางช่องวอยซ์ ทีวี วันที่ 16 พฤษภาคม
