x close

8 วิธีดี ๆ ช่วยประหยัด ในการซื้อของสดเข้าบ้าน

เคล็ดลับคู่ครัว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เดี๋ยวนี้ข้าวของหลาย ๆ อย่างราคาสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในหมวดหมู่อาหารจำพวกอาหารสด ทั้งผักผลไม้ และวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารทั้งหลาย แต่ไม่ว่าจะราคาจะสูงขึ้นเนื่องด้วยราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง ยาฆ่าแมลง หรือค่าบรรจุภัณฑ์ก็ตาม การบ่นอุบทุกครั้งที่ออกไปช้อปปิ้งไม่ได้ช่วยสถานการณ์ใด ๆ ดีขึ้น คงถึงเวลาที่เราจะต้องรัดเข็มขัดอย่างจริงจัง รู้จักเลือกซื้อเลือกกินกันให้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ ลองมาดู 8 วิธีดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเมื่อถึงคราวต้องช้อปปิ้งซื้อของสดเข้าบ้าน ที่เรานำมาฝากกันดูนะคะ

1. ซื้อของแบบแพ็คใหญ่ หรือไซส์สำหรับครอบครัว

           ของประเภทโยเกิร์ต น้ำผลไม้ ผลไม้ หรือซุป ที่มักมาในแพ็คเกจที่เป็นกล่องหรือกระป๋อง ยิ่งจำนวนบรรจุภัณฑ์มาก ราคาก็ยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นไปด้วย โดยราคานั้นผันแปรตามปริมาณของวัสดุบรรจุภัณฑ์นั่นเอง ฉะนั้นลองเปลี่ยนมาเลือกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในแพ็คที่ใหญ่ขึ้น หรือระบุว่าเป็นไซส์ขนาดครอบครัวหรือแฟมิลี่ไซส์ จากนั้นค่อยมาแบ่งเป็นสัดส่วนย่อย ๆ เก็บในตู้เย็นด้วยตัวเอง ก็จะได้ของในปริมาณพอกัน ๆ (อาจน้อยหรือมากกว่าเล็กน้อย) แต่ประหยัดได้มากกว่าแน่นอน

2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ตัดแบ่งมาพร้อมปรุง - พร้อมกิน

           อาหารอย่างเนื้อ ชีส แฮม ผลไม้ หรือผักสดทั้งหลาย ที่สไลซ์หรือหั่นเป็นชิ้น ๆ มาแล้ว แพ็คมาในโฟมพร้อมนำไปปรุงหรือพร้อมรับประทาน อาจจะสะดวกสบายกว่าก็จริง แต่ก็แพงกว่าด้วยเช่นกัน สู้ซื้อแบบสด ๆ มาหั่นเองจะดีกว่า

3. รับประทานผักและผลไม้ท้องถิ่นตามฤดูกาล

           ในเรื่องนี้นับว่าประเทศไทยของเราได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความเป็นประเทศเมืองร้อน เราจึงมีผักผลไม้นานาชนิดกินตลอดทั้งปี และถ้ายิ่งเลือกกินผลไม้ที่ปลูกได้ในประเทศ และเลือกกินให้ถูกฤดู ก็ได้ทั้งของดีราคาถูก และได้อุดหนุนเกษตรกรไทยด้วย

4. เลือกของยี่ห้อห้างหรือของโนเนมดูบ้าง

           แน่นอนว่าสำหรับเรื่องของกินแล้ว หลาย ๆ คนคงมียี่ห้อที่ในดวงใจ ที่ไปเมื่อไหร่ก็ต้องซื้อแต่ยี่ห้อนี้เท่านั้น แต่ความจริงคุณทราบหรือไม่ว่า สินค้าโนเนมหรือที่ยี่ห้อเดียวกับห้างเอง ก็มีแหล่งผลิตที่ส่งมาจากโรงงานเดียวกับที่ผลิตสินค้าป้อนของมียี่ห้อ เพียงแต่อาจไม่ได้คัดเกรดดีเท่ากับของมีแบรนด์เท่านั้น ถ้าเป็นสินค้าอย่างพวกปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง หากคุณลองหันมาซื้อของแบรนด์ระดับล่าง ๆ ดูบ้าง ก็จะช่วยประหยัดได้หลายบาทอยู่เหมือนกันนะคะ (ยิ่งพวกของอุปโภค อย่างน้ำยาขัดห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างมือ ก็จะยิ่งประหยัดได้อีกมากทีเดียว)

 5. ลดการให้ความสำคัญกับดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ลง

           ผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัว ถูกบรรจุมาในหีบห่อที่ออกแบบมาให้สะดวกกับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นซิปล็อก ถุงไล่อากาศ ถุงกันความชื้น ฯลฯ แม้จะสะดวกสบายกว่าก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาในราคาที่เพิ่มขึ้นมาด้วย ลองหันมาซื้อสินค้าในหีบห่อแบบธรรมดาแล้วใช้หนังยางรัด หรือแบ่งลงใส่ภาชนะที่ทำให้เก็บรักษาได้ง่ายเองที่บ้านจะดีกว่าค่ะ

 6. ไม่ช้อปปิ้งของสดในซูเปอร์มาเก็ตแบบ 24 ชั่วโมง

           ซูเปอร์มาเก็ตที่ขายของสดแบบ 24 ชั่วโมง มักขายของสดในราคาที่แพงกว่าที่วางขายที่อื่น ๆ  ส่วนต่างเหล่านี้เป็นมูลค่าของความสะดวกสบาย ที่ผู้บริโภคจะออกมาหาซื้อสินค้าที่ต้องการเมื่อไหร่ก็ได้ รวมไปถึงค่าไฟที่ทางห้างร้านนั้นต้องเสียไปกับการเปิดให้สว่างโร่ทั้งวันทั้งคืน เปลี่ยนนิสัยให้เดินช้อปในซูเปอร์ธรรมดา ๆ หรือซื้อของตามตลาดสด จะได้ราคาที่ย่อมเยากว่าแน่นอน

 7. ไม่ซื้อน้ำแบบแบ่งบรรจุขวด

           การซื้อน้ำแบบแบ่งบรรจุขวด ไม่ว่าจะขวดเล็ก ขวดใหญ่ เป็นลิตร หรือเป็นแกลลอน ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เลย มีแต่ยิ่งจะทำให้คุณแห้งเหี่ยวลงไปอีก (ไม่ใช่ตัวแห้งเหี่ยวเพราะขาดน้ำนะ กระเป๋าตังค์ต่างหากที่แห้ง ^^") เปลี่ยนเป็นซื้อเครื่องกรองน้ำ หรือตู้กดน้ำใช้ดีกว่า ลงทุนเป็นเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว แต่คุ้มค่ากว่า และใช้ได้ในระยะยาว

 8. หากทำเบเกอรี่ ผสมแป้งด้วยตัวเอง แทนการใช้แป้งผสมสำเร็จรูป

           หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทำขนมอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เค้ก มัฟฟิน แพนเค้ก ฯลฯ แม้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะมีผลิตภัณฑ์แป้งขนมผสมสำเร็จ แค่เติมน้ำ นม ไข่ ก็ใช้ได้เลย แต่ราคาต่อหน่วยของสินค้าเหล่านี้ก็แพงกว่าหากนำมาคิดเทียบกับการซื้อวัตถุดิบมาผสมเอง แป้งเค้กสำเร็จกล่องหนึ่งทำเค้กได้ 1 ก้อนย่อม ๆ แต่ถ้าคุณซื้อวัตถุดิบสำหรับทำเบเกอรี่มาให้เพียบพร้อมในทุก ๆ ส่วนผสม ย่อมคุ้มค่ากว่าแน่นอน เมื่อแป้งหนึ่งถุงที่ราคาอาจสูงกว่าแป้งผสมสำเร็จสักเท่าตัว แต่ว่าทำเค้กได้เกือบ 10 ก้อน ..เห็นไหมว่าคุ้มค่ากว่าชัด ๆ เลย

           ใครที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน หรือว่าเป็นคนจ่ายตลาดด้วยตัวเอง ลองจำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าประหยัดเงินได้มากขึ้นเดือนละหลายบาทเลยทีเดียวค่ะ >_^



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 วิธีดี ๆ ช่วยประหยัด ในการซื้อของสดเข้าบ้าน โพสต์เมื่อ 31 พฤษภาคม 2555 เวลา 14:47:55 2,383 อ่าน
TOP