ท้อ...แต่ไม่ถอย มารี เบรินเนอร์ (ภาพยนตร์บันเทิง)
เรื่อง : Little Smile
ผ่านประสบการณ์งานแสดงมา 2 เรื่อง พร้อมกับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ไม่ทำให้กำลังใจของสาว มารี เบรินเนอร์ ถอยลงไปได้ เพราะเจ้าตัวบอก การเข้ามาทำงานตรงนี้ต้องเตรียมรับข่าวต่าง ๆ อยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือนำคำติชมที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ในการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ
ล่าสุดเจ้าตัวคว้าบท "หนูดี" ในละครเรื่อง "รักคุณเท่าฟ้า" ละครที่รวมนางเอกมากที่สุดมาได้ งานนี้มารีออกปาก ต้องปรับการแสดงไม่น้อยเลย กว่าจะเปลี่ยนจากสาวเปรี้ยว ห้าว แก่น เซี้ยว กลายมาเป็นสาวหวานเรียบร้อย ในชุดพยาบาลสีขาวได้
ที่ผ่านมามีข่าวออกมาเรื่องงานไม่รุ่ง มารีเครียดและหาทางออกในการแก้ปัญหาแบบไหนคะมารี เบรินเนอร์ : เครียดไหม แน่นอนมันก็คิดค่ะ เพราะบางคนก็พูดแรง แบบด่ายับเลย คือเรายอมรับว่าหนูเป็นคนตามอ่าน เพราะอยากรู้อ่านแล้วก็รู้สึกล่ะ ว่าบางครั้งมันแรงจังเลย แต่หนูจะไม่เก็บมาคิดนะ พยายามแบ่งถ้าข่าวที่ออกมานั้น บางข่าวแบบอารมณ์เพราะแค่จะทำร้ายเรา หนูก็จะไม่ใส่ใจกับมัน แต่ถ้าเขาตำหนิเพราะว่าอยากให้หนูดีขึ้น หนูก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามพัฒนาจากสิ่งที่ถูกตำหนิมา คือการที่หนูเข้ามาทำงานตรงนี้หนูไม่ได้ยกทั้งชีวิตให้วงการนี้ หนูแบ่งว่าหนูทำงาน แต่ขอมีความเป็นตัวเองอยู่
ข่าวแบบไหนที่ทำให้มารีต้องปรับตัวมากขึ้นมารี เบรินเนอร์ : อย่างเรื่องการแสดงค่ะ มันคือสิ่งที่หนูต้องการปรับ หนูเองก็อยากทำงานให้ได้มาตรฐาน ไม่ได้ท้อแบบไม่เอาแล้วเราทำได้เท่านี้ มันยังไม่ถึงขั้นที่หนูแบบจะไม่เอาแล้ว ถ้ามันจะถึงขั้นนั้น มันไม่ได้เป็นเพราะว่าคนด่าหรือว่าคนไม่ชอบ แต่มันจะเป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่าให้มากพอแล้วหรือว่าเราเสียความเป็นตัวเองมากพอแล้ว ดังนั้นเราจึงอยากเอาชีวิตเราไปไว้กับสิ่งที่มันจำเป็นมากกว่าค่ะ
มาคุยเรื่องละครบ้างดีกว่า มารับบท "หนูดี" ได้อย่างไรคะมารี เบรินเนอร์ : ตอนแรกงงค่ะ ตื่นเต้น คิดว่าจริงเหรอ เพราะเป็นบทที่หลายคนอยากเล่น ต้องเล่นกับพี่เคนด้วย มันตื่นเต้นมาก เกร็งไปหมดมาถ่ายละครวันแรกหายใจไม่ทั่วท้องเลยค่ะ มันเกร็งไปหมด อารมณ์เหมือนเราเพิ่งมาถ่ายละครครั้งแรก ลืมไปเลยว่าเคยเล่นมาแล้ว 2 เรื่อง (หัวเราะ) แต่การมาร่วมงานกับ พี่หน่อย พี่เคน พี่เขาเป็นกันเองมาก ทำให้เราไม่ตื่นเต้นเกินไป ในเรื่องเราต้องเป็นผู้ใหญ่ แต่อารมณ์แบบเพิ่งเรียนจบแล้วก็มาทำงานกับคนไข้เลย ก็มีปรับตัวพอสมควรค่ะ
จากลุกส์สาวแก่นที่เคยเห็นต้องมาเป็นสาวหวานเรียบร้อยมารี เบรินเนอร์ : ก็คิดอย่างแรกเลยคือมันตรงข้ามกับชีวิตจริงของมารีหลาย ๆ อย่าง อย่างแรกเลย คือหนูเดินหลังค่อม นั่งหลังค่อม ตอนนี้ก็ต้องมาปรับนั่งเดินให้หลังตรงขึ้น แล้วก็ฝึกการหายใจใหม่ หายใจให้เต็มปอดเพื่อที่เวลาเสียงออกมาจะได้ออกมาเต็ม ๆ กว่า ปรับเรื่องเสียงให้ดูมั่นใจเหมือนกับเวลาพูดกับคนไข้ เราต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เราพูดเนี่ยเรารู้จริง ๆ เพราะบทของเราเป็นนางพยาบาล ถึงจะแบบเพิ่งเรียนจบแล้วมาเป็นพยาบาล แต่ก็ต้องมีความรู้จริง ๆ ค่ะ
สวมชุดพยาบาล ครั้งแรกเป็นอย่างไรมารี เบรินเนอร์ : โห...อันนี้เรื่องใหญ่มากค่ะ ห่วงมากเพราะขาหนูดำมาก (หัวเราะ) เรียกว่าสีมันตัดกันอย่างดีเลย แต่ภาพที่ออกมาในกล้องมันสวยนะคะ เพราะว่าพี่ ๆ เขาจัดแสงเก่ง ก็เลยไม่รู้สึก แต่ตัวหนูรู้สึก เพราะมันชัดมาก (หัวเราะ) แต่จะว่าไป จริง ๆ การใส่ชุดพยาบาลก็ดีนะคะ เพราะทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนชุดหลายชุด สบายตรงที่ใส่ชุดเดียวอยู่ได้ตลอดวันเลยค่ะ แล้วชุดพยาบาลเนี่ยหนูชอบนะ เพราะพอใส่แล้วมันทำให้เราดูโตขึ้นทันทีเลยค่ะ เนี่ยครั้งแรกใส่ชุดเสร็จก็รีบเอากล้องมาถ่ายเลยค่ะ เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้ใส่อีกหรือเปล่า (หัวเราะ)
ในเรื่องมีฉากกุ๊กกิ๊กกับพี่เคนเยอะไหมคะมารี เบรินเนอร์ : กุ๊กกิ๊กก็มีไม่เยอะค่ะ เรียกว่าเล็กน้อยเลยค่ะ เพราะเรื่องราวจริง ๆ จะอยู่ที่คุณแม่ของพระเอก ส่วนเราต้องมาทำงานเพราะใช้หนี้ให้แม่เรา คือเรามาเป็นพยาบาลดูแลคุณแม่ของพระเอก เรื่องราวระหว่างเรากับพระเอกไม่ได้แบบว่าต้องกุ๊กกิ๊กเยอะอะไรแบบนั้นค่ะ
ฝากละครเลยค่ะมารี เบรินเนอร์ : อยากให้ติดตามชมละครด้วยนะคะ "รักคุณเท่าฟ้า" เป็นละครอีกแบบนึง มีนางเอกหลาย ๆ คนเล่น คิดว่ามันเป็นแบบใหม่ที่คนน่าจะชอบกัน อยากให้ทุกคนได้ชมนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพยนตร์บันเทิง ปีที่ 38 วันที่ 25 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 2555 Vol.1833
