ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการทูไนท์ โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
มาร์กี้ ให้สัมภาษณ์ในรายการทูไนท์ โชว์ พร้อมย้ำ บอย ปกรณ์ เป็นได้ทุกอย่าง ยกเว้น แฟน และที่สนิทกันมาก เพราะดูแลกันเหมือนพี่น้อง แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
หลังจากได้รับบท กิมลั้ง นางเอกละครเรื่อง รักเกิดในตลาดสด ซึ่งเล่นประกบคู่กับหนุ่มหล่อหน้าใส มาริโอ้ เมาเร่อ ล่าสุด สาวลูกครึ่งสเปน มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า ก็ได้ไปร่วมรายการทูไนท์ โชว์ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดย มาร์กี้ เล่าว่า อยู่ในวงการละครมา 8 ปีแล้ว และที่ผ่านมา ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะดังหรือไม่ดัง แค่คิดว่าต้องทำงานให้ดีที่สุด และทุกครั้งที่ทำงาน ก็จะคิดว่าอย่าให้มันผ่านไปเฉย ๆ ต้องทำให้มันออกมาดีที่สุด ทำยังไงก็ได้ให้คนรัก ทำยังไงก็ได้ให้คนดูละคร ดูแล้วไม่เปลี่ยนช่อง
ซึ่งหลังจาก รักเกิดในตลาดสด ได้ออกอากาศไป เวลาไปไหนมาไหน ก็จะมีคนเรียกว่า กิมลั้ง หรือ บู้บี้ ซึ่งเป็นชื่อตอนรับบทในละครเรื่อง รอยมาร แต่ไม่มีคนเรียกว่า มาร์กี้ หรือ ราศรี ที่เป็นชื่อจริง และมีหลายคนได้พูดถึงบทบาทในละครเรื่อง รักเกิดในตลาดสด ว่า เวอร์ชั่นเก่า พระเอก นางเอก จะไม่ถูกชะตากัน ต้องมีปะทะคารมกันตลอด ซึ่งมาร์กี้ก็ได้ไปถามพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่เป็นผู้กำกับว่า ทำไมเวอร์ชั่นนี้ถึงแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่แล้ว ก็ได้คำตอบว่า เพราะมาริโอ้ดูดีขนาดนี้ ผู้หญิงที่ไหนจะเกลียดลง ดังนั้นจึงต้องมีการปรับใหม่ ทำให้มีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นก่อน
มาร์กี้ ยังเล่าอีกว่า ในการร่วมงานกับมาริโอ้ มีความสนุกสนาน และเป็นกันเองมาก แม้ละครเรื่องนี้จะเป็นละครฟอร์มเล็กที่สุดสำหรับละครช่วงกลางคืน แต่มาร์กี้มั่นใจว่าคนที่ดูละครเรื่องนี้ก่อนนอน จะต้องมีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม และนอนหลับอย่างมีความสุขแน่นอน ที่สำคัญคือ ผู้ชมจะได้แง่คิดดี ๆ จากละครเรื่องนี้ทุกวัน เพราะพี่อ๊อฟ จะสอดแทรกแง่คิดเล็ก ๆ ไว้ในละครเสมอ
นอกจากละครเรื่อง รักเกิดในตลาดสดแล้ว มาร์กี้ บอกว่า ตอนนี้เธอยังมีงานละครที่กำลังถ่ายทำอยู่ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกมีชื่อว่า รากบุญ แสดงคู่กับ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาสกุล ซึ่งละครเรื่องนี้จะออกแนวผี ๆ น่ากลัว และเป็นเรื่องที่สอนเกี่ยวกับความโลภของมนุษย์ ส่วนเรื่องที่สอง เป็นซีรี่ส์ 3 เรื่อง ที่ถ่ายทำขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 21 ปี ของทีวีซีน โดยเรื่องที่มาร์กี้เล่น มีชื่อว่า มนต์จันทรา แสดงคู่กับ ชาคริต แย้มนาม และเนื่องจากเป็นซีรี่ส์ต่อเนื่องกัน ดังนั้นมาร์กี้ก็จะได้ร่วมแสดงในอีก 2 เรื่องด้วย
นอกจากนี้ มาร์กี้ ยังเล่าว่า สำหรับเวลาว่างที่นอกเหนือจากการทำงาน มาร์กี้ กับเพื่อน ๆ นักแสดง เช่น พี่บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และมิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง หรือคนอื่น ๆ ก็จะไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ซึ่งกับพี่บอย ปกรณ์ นั้น แม้จะสนิทกันมาก และมีข่าวลือว่าเป็นแฟนกันเสมอ แต่ตนก็ขอยืนยันเลยว่า ไม่ได้เป็นแฟนกันแน่นอน เพราะพี่บอยไม่ใช่คนในสเปคเลยสักนิด มาร์กี้ไม่ชอบผู้ชายมีหนวด ไม่ชอบผู้ชายผมยาว ไม่ชอบผู้ชายเซอร์ ๆ ดังนั้น พี่บอย ปกรณ์ เป็นได้ทุกอย่าง ทั้งพี่ชาย ทั้งเพื่อน ทั้งครู แต่อย่างหนึ่งที่เป็นไม่ได้ คือ แฟน
จากนั้น พิธีกร ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์ ก็ได้ถามว่า จริงหรือเปล่าที่ทั้งคู่สนิทกันมาก ถึงขั้นต่างคนต่างรู้ตารางการทำงานของแต่ละฝ่าย ซึ่งมาร์กี้ก็ยอมรับว่า สนิทกันจริง และรู้คิวว่า ใครทำงานตอนไหน ว่างช่วงไหน ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ จะนัดไปมาร์กี้ไปเที่ยว ก็ถามพี่บอยได้ ถ้าจะนัดพี่บอยไปเที่ยว ก็ถามมาร์กี้ได้ เพราะมาร์กี้กับพี่บอย คุยกันอยู่ตลอด แม้หลายคนจะมองว่าสนิทกันขนาดนี้เหมือนเป็นแฟนกัน แต่เพราะพี่บอยไม่มีน้องสาว และมาร์กี้ก็ไม่มีพี่ชาย ดังนั้นเลยช่วยกันดูแลก็เท่านั้นเอง ซึ่งมาร์กี้ยังโสดสนิท ไม่มีแฟนจริง ๆ
และในช่วงท้ายรายการ มาร์กี้ ได้กล่าวถึงการทำงานว่า จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด ซึ่งถ้าผู้ชมไม่ชอบการแสดงของมาร์กี้ ก็อยากให้ช่วยแนะนำติชมว่า ไม่ชอบการแสดงตรงไหน ไม่ชอบกิริยามารยาทตรงไหน มาร์กี้จะได้นำไปปรับปรุงตัว และมาร์กี้ ยังฝากข้อความถึงแฟนคลับว่า ตั้งแต่อยู่ในวงการบันเทิงมา 8 ปี ก็ยังมีแฟนคลับที่ติดตามผลงานมาร์กี้มาตลอด ตั้งแต่ละครเรื่องแรกมาจนถึงละครเรื่องปัจจุบัน ซึ่งมาร์กี้ก็ขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ติดตามผลงาน และให้กำลังมาร์กี้ตลอด
งานนี้ สาวมาร์กี้ ก็ได้ฟันธง อย่างชัดเจนแล้วว่า ความสัมพันธ์กับ บอย ปกรณ์ นั้น เป็นแค่พี่น้องกัน ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นจริง ๆ แถมยังตบท้ายด้วยประโยคหวาน ๆ มาเอาใจแฟนคลับอีกต่างหาก แบบนี้จะไม่ให้แฟนคลับรัก แฟนคลับหลง ได้อย่างไร ดังนั้นหวังว่าแฟน ๆ ละคร จะคอยติดตามผลงาน และเป็นกำลังให้สาวมาร์กี้กันต่อไปนะจ๊ะ
