x close

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก



ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก
 

          เป็นภาพที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นนักแสดงรุ่นใหญ่ "โกวิท วัฒนกุล" ร่ำไห้อย่างเจ็บปวดแสนสาหัสที่้ต้องสูญเสีย "น้องมายด์ มาธวี วัฒนกุล" ลูกสาวคนเล็กผู้เป็นแก้วตาดวงใจที่จากไปโดยไม่ได้ร่ำลาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ … แน่นอนว่า หัวอกผู้เป็นพ่อคงยังไม่สามารถทำใจกับการสูญเสียอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้ แต่เขาก็มองอีกมุมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะช่วยเป็นอุทาหรณ์ให้ได้ในหลาย ๆ เรื่อง จึงได้มาเปิดเผยความในใจ และฝากข้อคิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านรายการ 5 เช้าข่าวดี ทาง ททบ.5 

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          นักแสดงรุ่นใหญ่ เริ่มต้นพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า จนถึงวันนี้เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า "ปิ่มว่าจะขาดใจ" และ "หัวใจสลาย" ได้อย่างชัดเจน เหมือนใจจะขาดอยู่ตลอดเวลา และทรมานมาก แต่ฝ่ายภรรยามีอาการหนักกว่า เพราะเขาอุ้มท้องมา

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          พร้อมกันนี้ โกวิท วัฒนกุล ก็ได้ย้อนเล่าถึงวันที่ทราบข่าวร้ายว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน ตนกลับมาจากการไปทำงานที่ลพบุรี ลูกสาวก็นั่งกินขนมอยู่ ตนจึงเข้ามาหอมแก้มน้องมายด์ด้วยความรักตามปกติ เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็ลงมาหอมแก้มลูกอีกหลายครั้ง จากนั้นน้องมายด์ก็บอกกับตนว่า จะออกไปติวหนังสือกับเพื่อนแล้วนะ เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะพรุ่งนี้จะสอบแล้ว ตนก็บอกให้ลูกระวังตัว ขับรถดี ๆ นะ ตามปกติที่บอกทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก พอน้องมายด์ออกไป ตนก็ขึ้นนอน ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย 

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          โกวิท วัฒนกุล เล่าต่อว่า กระทั่ง 6 โมงเช้า ตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า รถเบนซ์สีนี้ ทะเบียนนี้เป็นของคุณใช่ไหม ตนก็บอกว่า ใช่ แล้วตำรวจก็บอกต่อว่า เด็กที่ชื่อมาธวีนี่เป็นลูกสาวใช่ไหม ไปดูลูกสาวด่วนเลย ตอนนี้อาการหนักมากอยู่ที่โรงพยาบาล

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          "ตอนนั้นช็อกครับ พยายามนึกถึงทุกอย่างที่จะเป็นปาฏิหาริย์ บุญกุศลทั้งหมดที่ตัวเองได้ทำมา ไม่ว่าจะชาตินี้ ชาติไหน ขอให้มาเป็นปาฏิหาริย์ให้ลูกสาวปลอดภัยด้วย ส่วนแม่เขาก็ร้องไห้ เจอพระที่ไหนก็ไหว้ สวดมนต์ตลอดเวลา พอเข้าไปถึงโรงพยาบาล ก็หวั่นวิตกสารพัด ไปถึงหมอก็บอกว่า อาการลูกสาวหนักมาก แต่ยังไม่ให้เราเข้าไปดู เพราะหมอกำลังปั๊มหัวใจอยู่ สุดท้ายทนไม่ไหว ขอเข้าไปยืนดูหน่อยเถอะ เห็นพยาบาลพยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือ ทุกครั้งที่ปั๊มหัวใจ เลือดก็ไหลออก สงสารลูกจับหัวใจ..." นักแสดงรุ่นใหญ่เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

          โกวิท เล่าทั้งน้ำตาต่อว่า ทางแพทย์ได้บอกแล้วว่า อาการของน้องมายด์หนักมาก ไม่น่าจะกู้ชีพได้แล้ว ก้านสมองยับเยิน ไหปลาร้าหัก ปอดฉีก ไม่รู้ว่าลูกจะเจ็บขนาดไหน แล้วก็นึกถึงตอนที่เข้ามากอดลูกก่อนที่ลูกจะออกไปติวหนังสือกับเพื่อน ตอนนั้นก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไร คิดแค่ว่าอยากไปกอดลูกตามปกติ ปกติจะกอดครั้งเดียว แต่คืนนั้นกอดหลายครั้งมาก

          ทั้งนี้ แพทย์ได้ชี้แจงว่า หากยื้อชีวิตน้องมายด์ไว้ เขาก็จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่ถ้าปล่อยเขาไป เขาก็จะไปอย่างสงบ ตนก็นั่งปรึกษากับแม่น้องมายด์ แต่แม่เขาก็ช็อกไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่ตนที่ต้องตั้งสติอีกครั้งว่า จะเอาลูกไว้ทรมานไหม นึกถึงกรณีของคุณอโนเชาว์ ยอดบุตร เพื่อนที่เป็นเจ้าชายนิทราที่เคยได้ไปช่วยเหลือ ตอนนั้นแม่ของเขาพยายามรั้งชีวิตลูกไว้ตลอด 20-30 ปี ตนเลยนั่งนึกว่าเราจะทำอย่างไรดี ก็มีแม่ของเพื่อนลูกสาวที่มาด้วยลองอธิษฐานจิต ก็สัมผัสได้ว่า ลูกสาวไม่ไหว ถ้าให้ลูกอยู่ก็จะทรมานเขาตลอดชีวิต 

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          "พอเป็นแบบนี้ เราก็เลยตัดสินใจให้เขาไปอย่างสงบดีกว่า แต่บอกเขาว่า ถ้าไหว กลับมาเป็นลูกของพ่อตามปกตินะลูก แต่ถ้าไม่ไหวให้ลูกไปอย่างสงบ สุดท้ายก็ยืนจับที่ฝ่าเท้าเขา เพื่อดูลมหายใจ และดูที่จอ ก็เห็นเส้นกราฟค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนนิ่ง" โกวิท เล่าถึงนาทีที่ต้องสูญเสียลูกด้วยความเจ็บปวด

          เมื่อถามว่า ตอนนั้นคุณพ่อได้พูดอะไรกับน้องมายด์บ้างไหม... คุณพ่อโกวิท บอกว่า ตอนนั้นนึกถึงคำเดียวคือ "พ่อรักหนูสุดหัวใจ" (ร้องไห้) เพราะลูกสาวคนนี้เป็นลูกที่อ้อนพ่อตลอด แอบทำอะไรดี ๆ ให้พ่อตลอดเวลา หลังจากเกิดเรื่องขึ้น มันก็ยังตั้งรับไม่ทัน เพราะยังช็อกอยู่ แต่ที่สุดแล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ มีสติรู้ว่า สิ่งที่เราไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครรู้ได้ เมื่อเผชิญกับความจริงแล้ว ก็ต้องนั่งพิจารณาด้วยสติว่า คร่ำครวญไปก็เอาคืนมาไม่ได้ ต้องตั้งสติให้เร็วที่สุด และตั้งหน้าตั้งตาทำงาน จะล้มจะเอียงไม่ได้ เพราะมีอีก 3-4 ชีวิตที่ต้องคอยดูแลอยู่

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          "เรามานั่งนึกประมวลเรื่องราวของลูกสาวที่ผ่านมา จะบอกว่าหลอกตัวเองก็ได้ว่า เขาเป็นนางฟ้าที่แอบออกมาเก็บดอกไม้ มาเห็นครอบครัวนี้อบอุ่นดี ก็เลยขอมาแจมด้วย แบบไม่ได้ขอวีซ่า เขามาอยู่ให้เรารักชื่นชม พอหมดเวลาก็ต้องกลับขึ้นไปรายงานตัว คิดได้แบบนี้ มันก็เลยเริ่มคลายขึ้น ตอนนี้ตั้งใจว่าพอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะบวชให้ลูก 1 เดือน เพื่อเอาบุญให้มากที่สุด เพื่อขอให้น้องมายด์กลับมาเป็นลูก หรือเป็นหลานของเราอีกครั้งหนึ่ง เป็นลูกพี่สาวเขา ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตา รอการกลับมาของเขา รอหลานตา มันก็เลยมีพลังขึ้นมา" คุณพ่อโกวิท กล่าว

          ทั้งนี้ เพราะข่าวคราวการเสียชีวิตของน้องมายด์กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ จึงมีคนจำนวนมากร่วมกันส่งกำลังใจมายังครอบครัวของน้องมายด์ให้เข้มแข็ง และสู้ต่อไป ซึ่ง โกวิท วัฒนกุล ได้กล่าวขอบคุณมายังทุกคนที่ส่งความปรารถนาดีมาให้ ทั้งในอินเทอร์เน็ต หรือมาร่วมงานด้วยตัวเอง ซึ่งเขาอาจไม่มีโอกาสได้เข้าไปดูแล เพราะคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงอยากจะขอจดจำในน้ำใจของทุกท่านไปชั่วชีวิต และขอกราบอภัยที่ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้อย่างทั่วถึง ทั้งที่บางคนไม่เคยรู้จักกันเลย แต่ได้ติดตามข่าวก็รู้สึกเห็นใจจึงเอาซองมาร่วมด้วย หรือคนที่มาร่วมงานศพคนอื่น เมื่อผ่านมาเห็นก็เข้ามาเคารพศพน้องด้วย ต้องขอบคุณมาก ๆ

ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก

          อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ โกวิท วัฒนกุล อยากจะขอพูดตรงนี้ก็คือ "นอกจากความเมตตา หวังดี และกำลังใจที่ได้จากทุกท่านแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มาบั่นทอนเหมือนกัน ก็คือบางท่านโพสต์ข้อความซ้ำเติม สมน้ำหน้าในอินเทอร์เน็ต เอาล่ะครับ ผมก็ขออโหสิ เป็นอภัยทานบารมี เพื่อให้เกิดอานิสงส์แก่ลูกสาว ผมไม่รู้จักกับท่าน ไม่เคยเจอหน้าท่าน ไม่รู้ท่านโกรธเกลียด ชิงชัง พยาบาทอะไรนักหนา ถึงขนาดลูกตายทั้งคน ยังมีจิตใจมาถล่มอะไรแบบนี้ได้ ผมขออโหสิกรรมนะครับ (ยกมือไหว้)"

          ในตอนท้าย โกวิท วัฒนกุล ในฐานะพ่อ ยังฝากบอกถึงเด็ก ๆ ในฐานะลูก ๆ ทุกคนว่า ตอนนี้ลูกอาจจะยังเด็ก ไม่ได้เป็นพ่อแม่คน คงไม่รู้ว่า เวลาที่ลูกยังไม่กลับบ้าน คนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้สึกห่วงขนาดไหน เวลามีเสียงรถผ่านก็จะชะโงกดู แม้จะนอนแล้วก็ยังเงี่ยหูฟัง แง้มหน้าต่างไว้เพื่อให้ได้ยินเสียง 

          "ขอให้ลูกทุกคนได้รับรู้ว่า ทุกนาทีที่เรายังไม่ถึงบ้าน พ่อแม่ไม่มีความสุขเลย นั่นเป็นบาปกรรมที่เราสั่งสมเพิ่มขึ้น ๆ อยากให้พ่อแม่สบายใจ อย่าออกไปไหนในยามวิกาลจะดีที่สุด และขอให้รับรู้ว่า ลูกเป็นหัวใจของพ่อแม่" โกวิท กล่าวในที่สุด

          ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสยามดารา ก็ได้ไปสัมภาษณ์ มิ้น เอเอฟ 3 พี่สาวแท้ ๆ ของน้องมายด์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดย มิ้น บอกว่า การสูญเสียน้องสาวไปถือเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับตน แต่คงไม่เท่ากับที่พ่อแม่ต้องเสียลูก ทุกคนช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองก็เช่นกัน เพราะสนิทกับน้องมาก เราต้องให้กำลังใจกันเป็นพัก ๆ ถ้าใครร้องไห้ อีกคนก็ต้องเข้มแข็ง ตนเชื่อว่า น้องยังอยู่กับเรา แต่เขาเปลี่ยนไปสื่อสารกันทางอื่น เราก็ต้องทำบุญตักบาตรส่งให้ไปเขา 

          นอกจากนี้ มิ้น ยังได้ฝากบอกถึงน้องสาวที่อาจจะได้ยินว่า ตอนนี้น้องต้องเดินคนเดียวแล้ว อยากให้น้องเดินอย่างมีสติ เดินตามรอยพระพุทธศาสนา อย่าให้ใคร หรือคนที่ไม่รู้จักมาดึงเราเดินไปในทางที่ไม่ดี และถ้าเรามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ความในใจของ โกวิท วัฒนกุล พ่อผู้สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก อัปเดตล่าสุด 16 สิงหาคม 2555 เวลา 17:12:59 3,745 อ่าน
TOP