เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
มีผลสำรวจว่ากันว่า ผู้หญิงพอใจใบหน้าตัวเองในช่วงวัย 30 นิด ๆ เป็นที่สุด ความอิ่มเอิบยังมีในระดับพอดี ๆ และในขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นเค้าโครงใบหน้าได้ชัดเจน แต่ในช่วงวัยนี้หากไม่บำรุงดูแลให้ดี ผิวหน้าก็จะเหี่ยวจากริ้วรอยแห่งวัยเอาได้ง่าย ๆ เพราะการทำงานของผิวหน้านั้นไม่ดีเหมือนกับสมัยคุณยังวัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว ผิวเริ่มชะลอการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน รวมทั้งองค์ประกอบที่คอยซัพพอร์ตโครงหน้าอย่างกล้ามเนื้อ และกระดูก ก็ค่อย ๆ เสื่อมลงอย่างช้า ๆ บางส่วนของใบหน้าอาจร่วงโรยจากไปไวกว่าส่วนอื่น ๆ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงในวัย 30 ต้น ๆ ต้องหันมาดูแลผิวหน้ากันอย่างจริงจังแล้วล่ะค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำเป็นประจำทุกวัน และหมั่นทาซ้ำในระหว่างวัน ไม่สูบบุหรี่ ผู้หญิงที่สูบบุหรี่เสี่ยงจะแก่ก่อนวัยนำหน้าเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันไปเยอะทีเดียว เนื่องจากสารในบุหรี่ทำให้ออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้น้อยลง การทำงานของคอลลาเจนและอีลาสตินก็ต่ำลง ทั้งยังไปลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะช่วยเรื่องการรักษาความเฟิร์มของผิวอีกต่างหาก ใครยังสูบอยู่ ลองลดปริมาณ จนกระทั่งงดสูบไปได้เลยก็จะดีที่สุดค่ะ จำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ สาวสังคมนักสังสรรค์ต้องระวังให้ดี เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากและถี่เกินไป จะไปเพิ่มระดับอินซูลินในร่างกาย ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบได้ง่าย และยังเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของผิว ทำให้เกิดริ้วรอยไวขึ้นด้วย จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ไว้ที่ 1-2 ขวด ทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ น่าจะเป็นทางออกที่ลงตัวกว่านะคะ (แต่ถ้าไม่ดื่มเลยได้ก็จะยิ่งดีนะจ๊ะ ^^) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเร่งการเกิดใหม่ของเซลล์ผิวด้วยเรตินอยด์ ให้ทาเรตินอยด์ที่มีความเข้มข้นเท่าที่ผิวคุณจะรับได้ในยามก่อนนอน หากเกรงว่าผิวจะเกิดอาการระคายเคือง คุณสามารถทามันโดยผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้ หรือจะทาในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ได้ แต่ทาเป็นประจำทุกคืน สครับผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายและเสื่อมสภาพแล้วออกไป นอกจากจะเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าขึ้นมา ยังช่วยให้สารบำรุงในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับใบหน้าที่คุณใช้ ซึมลึกลงบำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้นด้วย 
เลือกใช้อายครีมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ในวัย 30 ต้น ๆ คุณก็จะเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยที่หางตาได้ชัดเจน หรืออาจสังเกตเห็นเร็วกว่านั้น หากผิวหน้าของคุณไม่เคยได้รับการป้องกันจากแสงแดด เพื่อกระชับผิว และลดความบวมรอบ ๆ ดวงตา ให้ใช้อายครีมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่จะทำให้ผิวรอบ ๆ ดวงตา ค่อย ๆ กระชับฟื้นฟูขึ้นได้ หรือถ้าต้องการปรนนิบัติดวงตาแบบเร่งด่วน ก็สามารถนำถุงชาที่ใช้แล้วไปแช่ตู้เย็น แล้วนำมาประคบที่ดวงตา คุณจะได้ทั้งคาเฟอีนและสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากชา ที่จะทำให้ตาหายบวมและดูสดใสขึ้นได้ทันใจ ฟิลเลอร์ช่วยเติมความเต่งตึงคืนสู่ดวงตา หากมีปัญหาดวงตาดูโหลลึก รวมทั้งถุงใต้ตาเหี่ยว คุณอาจพิจารณาการฉีดฟิลเลอร์ เช่น Restylane หรือ Juvederm เพื่อเพิ่มคืนความเต่งตึงกลับคืนแก่ดวงตา แถมยังได้ผลพลอยได้จากการฉีดฟิลเลอร์ ที่จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่บริเวณรอบดวงตาด้วย แก้มไม่เหี่ยวไวด้วยเปบไทด์และเรตินอยด์ ให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารทั้งสองตัวนี้เป็นประจำ จะช่วยให้ผิวช่วงแก้มกระชับ ไม่ให้เหี่ยวย่นจนเห็นเป็นถุงยาน ๆ นอกจากนี้ยังต้องรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้ดีด้วย เพราะหากสูญเสียมันไปก็เท่ากับไม่มีโครงฐานให้ผิวช่วงแก้มและกรามได้ยึดเอาไว้นั่นเอง การฉีด Botox, Dysport หรือ Xeomin ช่วยลดอาการแก้มตอบ และลำคอที่ดูโปนเกร็งยามที่คุณแย้มยิ้มได้ รวมทั้งการฉีดฟิลเลอร์อย่าง Restylane, Juvederm, Perlane, Radiesse และ Sculptra ก็สามารถปรับรูปคางให้ดูอิ่มเต็ม เพิ่มความอิ่มเอิบให้พวงแก้ม และขมับได้ด้วยเช่นกัน เผื่อแผ่ครีมทาหน้าให้ทาลงไปถึงลำคอ เพื่อถนอมผิวที่ลำคอไม่ให้เหี่ยวไว อย่าลืมทาครีมที่คุณใช้สำหรับผิวหน้า รวมทั้งครีมกันแดด ลงไปที่ลำคอด้วย รับรองผิวจะไม่เหี่ยวไว หน้ายังสวย คอก็ยังกระชับอยู่แน่นอนค่ะ ใครอายุเข้าเลขสามแล้ว คงต้องตื่นตัวดูแลบำรุงผิวกันให้มากขึ้น ลองปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยชะลอความร่วงโรยแห่งวัยที่จะปรากฏบนใบหน้าออกไปได้อีกนานเลยล่ะค่ะ
