ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เวปไซต์ hardwarezone , huanqiu
หวังรุ่ยเอ๋อร์ ดาราสาวของจีน แถลงข่าวทั้งน้ำตา รับถูกหลอกไปถ่ายหนังเอวี ที่ประเทศญี่ปุ่น ยืนยันไม่ได้ถูกข่มขืน พร้อมวอนสื่อไม่ให้รบกวน เพราะเธอเป็นเพียงเหยื่อคนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556 เว็บไซต์โซเชียลตี้ ฮวานชิว ของจีน ได้รายงานว่า หวังรุ่ยเอ๋อร์ ดาราสาวจากปักกิ่ง ประเทศจีน ได้ออกมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนทั้งน้ำตา ถึงกรณีข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วสื่อออนไลน์ว่า เธอได้เข้าร่วมในการถ่ายทำหนังเอวี ที่ประเทศญี่ปุ่น และถูกข่มขืนโดยผู้ชายถึง 10 คน ซึ่งข่าวลือดังกล่าวนี้ก็สร้างความกังวลใจให้แก่เธอเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะตัดสินใจออกมาพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน และเธอก็ยืนยันว่าตัวเองยังไม่ได้ถูกข่มขืน
ทั้งนี้ หวังรุ่ยเอ๋อร์ ยอมรับว่า เมื่อช่วงสิ้นปี 2012 เธอได้เดินทางไปถ่ายทำหนังที่ประเทศญี่ปุ่นจริง เพราะคนที่ติดต่อมานั้นอ้างว่านี่จะเป็นการถ่ายทำหนังแนวอีโรติก และก็มีการเจรจาตกลงให้ค่าตอบแทนแก่เธอเป็นจำนวนเงินที่สูงจนน่ากลัว และเมื่อเธอไปถึงนั้นก็ได้พบว่า ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์กลับเล่นสกปรกกับเธอ โดยการเปลี่ยนบท และอ้างกับเธอว่าจะเป็นการถ่ายทำฉากข่มขืนง่าย ๆ โดยที่เธอไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นฉากข่มขืนที่ใช้การข่มขืนจริงในการถ่ายทำ โดยฉากที่ว่านี้ หวังรุ่ยเอ๋อร์ ที่รับบทเป็นนักแสดงนำจะต้องถูกมัดมือมัดเท้า ถูกจับกดน้ำ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจะต้องถูกรุมข่มขืนโดยผู้ชาย 10 คน ซึ่งนั่นทำให้หวังรุ่ยเอ๋อร์รับไม่ได้ ร้องไห้อ้อนวอนทีมงานว่าจะไม่ถ่ายทำฉากนี้ แต่ทีมงานก็ไม่ยอมและยืนกรานว่าจะเดินหน้าถ่ายทำต่อ สุดท้าย หวังรุ่ยเอ๋อร์ จึงตัดสินใจบินกลับประเทศจีนทันที โดยไม่สนคำสั่งของทีมงาน และหนังที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ
อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุการณ์ที่เธอถูกหลอกไปถ่ายหนังเอวีในครั้งนั้น ไม่นานนักก็มีภาพถ่ายของเธอหลุดออกมา และถูกเผยแพร่ส่งต่อว่อนไปทั่วสังคมออนไลน์ มีกระทู้ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเธอนับแสนกระทู้ผุดขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ และชื่อของเธอก็ได้กลายมาเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในโลก ขณะที่ไมโครบล็อกของเธอก็ได้มีคนยื่นคำขอเป็นเพื่อนเข้ามามากมาย และยังมีคนอีกบางส่วนที่ยิงคำถามคุกคามใส่เธอ
อย่างไรก็ตาม ดาราสาวกล่าวว่า การที่เธอตัดสินใจออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ เพราะว่าเธอไม่อยากจะปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นอีกต่อไป และเธอยังตัดสินใจที่จะติดต่อทนายความเพื่อใช้ช่องทางตามกฎหมายในการรักษาและปกป้องสิทธิ์ของเธอ และเธอยังวอนขอไม่ให้สื่อแขนงต่าง ๆ นำเรื่องราวเกี่ยวกับแก๊งข่มขืนนี้มากวนใจเธอ เพราะตัวเธอก็เป็นเพียงเหยื่อในเหตุการณ์นี้เท่านั้น