เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ 3 แซบ โพสต์โดย คุณ lakornhd dottv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
การทำศัลยกรรมเพื่อความสวยความงามในบ้านเราได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เบื้องหลังใบหน้าเต่งตึง ดั้งโด่ง ตาสองชั้นสวยงาม คางแหลมได้องศา กับรูปหน้าที่ลงตัวของสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ หลายคนนั้น ไม่เพียงต้องแลกกับเงินในกระเป๋า เพราะพวกเขาและเธอต้องผ่านมีดหมอและขั้นตอนที่แสนเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า...
รายการ 3 แซบ (13 มีนาคม) จึงได้นำเรื่องราวแซ่บ ๆ เกี่ยวกับเรื่องการศัลยกรรม สวยด้วยมีดหมอ พร้อมเชิญแขกรับเชิญ 3 ท่าน ที่ผ่านการสวยด้วยมีดหมอมานับครั้งไม่ถ้วน ได้แก่ หนิง ปณิตา, แอนนา ชุง และดีเจเจ๊แหม่ม มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การศัลยกรรมของพวกเธอที่ครั้งเดียวไม่เคยพอ
เปิดฉากด้วยคำถามของพี่ม้าว่า "แต่ละคน ทำส่วนไหนมาบ้าง?" สาวหนิง ปณิตา เริ่มตอบว่า ทำจมูก 7 รอบ ยกตาข้างหนึ่งที่ตก ไปทำคาง แต่ทำได้ 5 วันไม่รอด เลยเอาออก ไปลองดูดไขมันขา ทั้งที่เป็นคนขาสวยอยู่แล้ว แต่ด้วยความอยากรู้ ผลก็ออกมาเละ เผละ ก็ต้องไปทำแก้หมดเงินไปหลายบาท กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หนิง ปณิตา เริ่มอธิบายวิธีการทำจมูกที่ผ่านมาถึง 7 ครั้ง พร้อมโชว์แท่งซิลิโคนว่า ใครที่ผ่านการทำจมูกมาเยอะ ๆ เช่นเธอ ครั้งสุดท้ายนี่แทบทำกันสด ๆ ยาชาก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะไม่มีเนื้อหนังอยู่ข้างในแล้ว มีแต่พังผืดจากการโดนเลาะบ่อยครั้ง
ต่อด้วย ดีเจเจ๊แหม่ม ที่ไปทำศัลยกรรมสุดฮือฮา เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน โดยเจ๊แหม่ม บอกว่า เริ่มเบา ๆ ด้วยการผ่าเก็บไขมันใต้ตาก่อน ตามด้วยทำจมูก 2 รอบ เสียบคาง ปลูกผมด้วยวิวัฒนาการที่ดาราฮอลลีวูดทำ และก็ดูดไขมันด้วยความเย็นที่พุง โดยไม่ต้องผ่าตัด สำหรับวิธีที่หมอทำศัลยกรรมคางนั้น เจ๊แหม่มบอกว่า ต้องยัดซิลิโคนใสเข้าไปทางช่องปากด้านใน ส่วนเรื่องเส้นผม ที่เป็นวิวัฒนาการใหม่ คือการปลูกย้ายเซลล์เส้นผมจากท้ายทอยมาไว้ตรงหน้าผากที่ไม่มีเส้นผม โดยการปักที่ละกราฟ ใน 1 กราฟจะมีเส้นผมได้ 2-5 เส้น ซึ่งทั้งหมดที่ทำมามีการย้ายมา 2,500 กราฟ ค่าเสียหายทั้งหมดก็ประมาณ 200,000 บาท
มาถึงคุณแอนนา ชุง ที่เผยว่า ทำมาแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก ฟัน โดยเฉพาะฟัน เริ่มจากการกรอฟัน 2 ครั้ง แต่ทำให้ซี่ฟันเล็กลง จนทำให้ต้องใส่ไทเทเนียม ฝังรากเทียมเข้าไปทุกซี่ ซึ่งพิธีกร ม้า อรนภา บอกว่า เธอเองก็ไปทำฟันแบบนี้มาซี่ละ 100,000 บาท แต่คุณแอนนา ซุง ทำทั้งปาก คงราคาเป็นล้าน! แต่ไม่เพียงเท่านั้น คุณแอนนา ชุง เธอยังครอบฟันด้วยทองคำขาวบริสุทธิ์ จากนั้นศัลยกรรมปาก เริ่มจากฉีดฟิลเลอร์ แต่ก็ไม่ได้รูปเหมือนให้หมอผ่าตัด จึงมีการนำไขมันตรงกกหู มาเสริมตรงปาก และทำปากให้เป็นร่องเหมือนแองเจลินา โจลี นอกจากนี้ คุณแอนนา ยังผ่านวิธีการร้อยไหมทองคำ และผ่าศัลยกรรมหน้าอกมา 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่า จะไปทำจมูกเพิ่มในวันถัดจากถ่ายทำรายการด้วย ทำเอา 3 พิธีกรสุดแซบตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามพวกเธอทั้ง 3 ว่า ต่อจากนี้จะไปทำศัลยกรรมอีกไหม สาวหนิงเริ่มตอบทันทีเลยว่า ทำค่ะ ทำแน่นอน จะทำตรงหน้าท้อง เพราะหลังคลอดลูก หน้าท้องจะหย่อนคล้อย เลยจะไปทำให้หน้าท้องเนียนเรียบ ถึงจะมีแพลนมีลูกคนที่ 2 ก็ยังอยากทำอยู่ เพราะช่วงนี้ก็อยากเห็นตัวเองสวยบ้างอะไรบ้าง ส่วนทางด้าน คุณแอนนา ชุง ก็ตอบเสียงเบา ๆ ว่า พรุ่งนี้เลย พรุ่งนี้ว่าจะไปทำจมูกใหม่ละ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า คิดว่าพวกคุณเป็นคนเสพติดศัลยกรรมไหม ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า จริง ๆ มันเป็นเรื่องของความมั่นใจ ทำแล้วเราดูดีขึ้น มั่นใจขึ้น ทำอะไรก็ทำได้ดีขึ้นแน่นอน และถึงแม้วัยเราจะร่วงโรยขึ้น แต่ถ้าเรายังดูแลให้ดี ทำแล้วดีขึ้น ออกไปพบปะสังคม ก็ได้รับคำชม เป็นกำลังใจให้เราได้
แน่นอนว่า การทำอะไรทุกอย่างบนโลกล้วนมี 2 ด้าน การศัลยกรรมก็เช่นกัน มีด้านที่ดี ทำออกมาแล้ว สวยขึ้น มั่นใจขึ้น แต่ก็มีอีกด้านที่ทำออกมาแล้วแย่ ทางรายการจึงได้เชิญอีก 3 แขกรับเชิญ ได้แก่ คุณดาว มยุรี, ซันนี่ ยูโฟร์ และคุณจุฑามาศ ถาวร 3 สาว ที่ทำศัลยกรรมออกมาแล้วไม่แซบ มาพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวไว้เป็นอุทาหรณ์
โดยกาละแมร์ เริ่มเปิดคำถามว่า "ทุกคนทำศัลยกรรมมาทั้งหมดกี่ครั้ง รวมทั้งแก้ เพิ่มนั่นนี่ทุกสิ่งอย่าง?" เริ่มจาก ซันนี่ ยูโฟร์ บอกว่า โอ๊ย ทำมาหลายครั้งมาก นับไม่ถ้วน ส่วน ดาว มยุรี บอกว่า ทำคางมา 3 ครั้ง ทำจมูกมา 4 ครั้ง ส่วน คุณจุฑามาศ บอกว่า ทำจมูกเป็นหลัก เยอะมาก แก้นั่นแก้นี่ รวม 13 ครั้ง เมื่อถามว่า เริ่มต้นทำศัลยกรรมจากส่วนไหนก่อน ดาว มยุรี บอกว่า จมูก เพราะมีคนมาทักว่า ถ้าทำจมูกจะเงินไหลมาเทมา โหงวเฮ้งดี ก็ไปทำโดยเอาเนื้อสะโพกมาแปะปลายจมูก เพราะจมูกอันเก่าบางไป นอกจากนี้ ตนยังไปผ่าตัดแก้คาง 3 ครั้ง แต่โดนฉีดประมาณ 5-6 ครั้ง พร้อมนำวิดีโอที่บันทึกภาพช่วงคุณดาวทำศัลยกรรมมาให้ดู ทำเอาพิธีกรกรีดร้องด้วยความหวาดเสียว
ส่วน ซันนี่ ยูโฟร์ ให้ทายว่า เธอทำส่วนไหนมาบ้าง หลายคนอาจคิดว่า เธอทำเยอะ แต่ความจริง เธอทำแค่แก้ม ให้มีลูกส้ม เพราะโครงหน้าผู้หญิง ผู้ชาย จะต่างกันตรงนี้ เธอเลยอยากทำหน้าให้มีลูกส้ม ยิ้มน่ารัก ปัดบลัชออนสวย เลยไปให้หมอที่เป็นหมอคนเดียวที่ทำให้ดาว ให้จุฑามาศด้วย อารมณ์คล้าย ๆ หมอกระเป๋า ทำมาก็เลยแย่พอกัน ซึ่ง ซันนี่ บอกว่า จริง ๆ แล้ว ตนทำน้อย แต่ว่าแก้เยอะสุด เริ่มจากทำหน้าผลลูกส้ม แล้วมาฉีดสะโพก โดนหลอกไปฉีดนม ฉีดซิลิโคนเหลว แต่ก็ไม่ถูกใจกลับไปแก้ ส่วนหน้าก็อย่างที่ทุกคนทราบ ทำมาแรก ๆ หน้าเน่า ไม่เท่ากัน สะโพกก็มีปัญหา ซิลิโคนไหลไปทับเส้นประสาท และทำให้เป็นเส้นเลือดขอดที่ต้องเลาะทั้งเส้นเลือดออกมาทำใหม่ เฉียดเป็นอัมพาต
เช่นเดียวกับคุณจุฑามาศที่ไปฉีดจมูกก่อน ต่อมาซิลิโคนก็เริ่มแข็ง ก็เลยอยากจะผ่าทำจมูกเลย หมอก็ต้องขูดเอาซิลิโคนเก่าออก แต่ซิลิโคนยิ่งมันอยู่กับเนื้อเรานานเท่าไร มันก็ยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น พอใส่อันใหม่เข้าไป มันก็ไม่เกาะ แต่ตอนเอาเข้าก็ไม่เจ็บเท่ากับตอนเอาออก เจ็บแสบมาก แต่ยิ่งขูดออก เนื้อก็ยิ่งหายไป มีอยู่วันหนึ่ง เนื้อทะลุ ซิลิโคนโผล่ออกมา หมอบอกไม่ต้องตกใจ เอาแหนบมาดึงออก เนื้อ ซิลิโคน น้ำหนอง ไหลปนออกมาหมด สุดท้าย ก็ไปเย็บและต้องทิ้งไว้ 6 เดือน ให้เนื้อสมาน
ต่อมา คุณจุฑามาศ ทนไม่ไหว เปลี่ยนไปหาหมอคนใหม่ ซึ่งบอกเธอว่า สงสัยน่าจะต้องขูดอีก ก่อนนำเอ็นเนื้อหลังกกหูที่มีความเหนียวเหมือนเนื้อจมูกมาทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ประสานกัน จมูกเน่า หมอเลยบอกให้ถอด ให้ทำใจ แต่ไป ๆ มา เห็นคนอื่นจมูกโด่ง เธอก็ทนไม่ไหว ไปทำอีกในที่สุด เท่านี้ยังไม่พอ ไปทำคางอีก แต่พอเราอ้วน หน้าก็บาน ก็ไปทำแก้แล้วแก้อีก ยัดซิลิโคนอันแล้วอันเล่า จนคางแข็งไม่มีความรู้สึก ต่อยยังไม่เจ็บเลย
ปิดท้ายรายการ คุณม้า อรนภา ถามว่า ทั้งหมดที่ไปทำกันมานี้ เสียเงินไปเท่าไหร่ คุณจุฑามาศ บอกว่า แค่จมูกหมดไปเป็นล้าน ส่วน ดาว มยุรี ก็บอกว่า เยอะ แต่ไม่เท่าสภาพจิตใจที่ต้องทนกับกระแสวิจารณ์ตอนนั้นว่า หน้าเน่า หน้าพัง มันรู้สึกเจ็บช้ำใจไปหมด ส่วนซันนี่บอกว่า ทำไปทั้งหมดทั้งมวล 6,000 บาทเอง เพราะคุณหมอทำให้ฟรี แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงไม่ทำ
