เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หลายคู่ดำเนินความสัมพันธ์ในแบบที่เขาเรียกกันว่า ... มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน จนทำให้ผู้หญิงบางคนว้าวุ่นใจ ว่าจริง ๆ แล้ว ตอนนี้เราอยู่ในสถานะอะไรกันแน่! เจอเข้าแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็อดที่จะนอยด์ไม่ได้แน่นอน แต่อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ บางทีฝ่ายชายเขาอาจจะกำลังบอกคุณอยู่ทุกวัน ผ่านการกระทำของเขาก็ได้ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำข้อสังเกตดี ๆ จาก Samantha Escobar มาให้ได้อ่านกัน เขาจะรักคุณจริงอย่างที่คิดเอาไว้หรือเปล่า มาพิสูจน์กันเลยค่ะ
1. ดูจากเพื่อนเขา
คุณรู้สึกเป็นสุขทุกครั้งที่ได้ไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนของเขา เพราะทุกคนดีและเป็นมิตรกับคุณมาก ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพื่อนสนิทกับคุณไปเลย นั่นแสดงว่าเพื่อน ๆ ของเขารับรู้ว่าคุณทำให้เพื่อนเขามีความสุขมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คุณเองก็ควรจะแสดงให้เขารู้ด้วยว่า การมีเขาก็ทำให้คุณมีความสุขไม่ต่างกัน
2. อยู่ใกล้คุณเสมอ
ทุกครั้งที่ได้เจอกัน เขาจะคอยมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เป็นเงาตามตัว ไม่ว่าคุณจะนั่ง ยืน หรือเดิน ก็จะมีเขาคอยอยู่ข้าง ๆ ตลอด ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็มั่นใจได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่รักก็คงไม่อยากอยู่ใกล้หรอก...จริงไหมคะ
3. รอยยิ้มสดใส
ถ้าเขาเป็นคนยิ้มง่ายเป็นปกติอยู่แล้ว ให้ลองสังเกตรอยยิ้มของเขาดู ว่าทุกครั้งที่เขายิ้มให้คุณมันแตกต่างจากตอนที่เขายิ้มให้คนอื่นหรือเปล่า ถ้าใช่ และมันเป็นยิ้มที่เจิดจ้าเหมือนคนที่กำลังมีความสุขมาก ๆ ก็เป๊ะเลยค่ะ เพราะรอยยิ้มที่ทำให้คุณตาพร่าอยู่นั้น กำลังทำหน้าที่แสดงความรู้สึกว่าเขาแฮปปี้แค่ไหนกับการมีคุณอยู่ใกล้ ๆ
4. พยายามทำตัวโดดเด่นตลอดเวลา
โดดเด่นในที่นี้เราไม่ได้หมายถึงการเรียกร้องความสนใจ แต่เป็นการที่เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีตัวตนอยู่ในสายตาคุณตลอดเวลา อย่างเช่น การนั่งตัวตรง หรือยืนขึ้นเต็มความสูง เพื่อที่เวลาอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย คุณจะได้เห็นเขาก่อนใครยังไงล่ะ
5. บีบมือ
การจับมือกันอาจจะไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไรมากนัก นอกจากเป็นการสื่อว่าเขาต้องการดูแลคุณ แต่ถ้าเมื่อไรที่เขาจับมือคุณและบีบมันเบา ๆ นั่นแสดงว่าเขาต้องการบอกรักคุณผ่านการกระทำแล้วล่ะ
6. โทรศัพท์หรือส่งข้อความมาหาบ่อย ๆ
เราไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนที่กำลังตกหลุมรัก จะต้องเป็นอย่างนี้กันทุกคนหรอกนะคะ แต่การที่เขาส่งข้อความหรือโทรศัพท์รายงานทุกความเป็นไปของเขาให้คุณได้รับรู้ รวมถึงอยากจะรู้ทุกความเป็นไปของคุณด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิด ความรู้สึกที่มีต่อคุณอย่างอิสระ ไม่ต้องเกร็งเพราะอาการเขินเหมือนตอนอยู่ต่อหน้ากันต่างหาก
7. ตามติดทุกสถานการณ์
ถ้าเขาเลือกที่จะไม่ไปกินข้าวกับเพื่อน แต่ออกมาเดินช้อปปิ้งกับคุณแทน แสดงว่าเขาแคร์คุณมากกว่าใคร แถมการปลีกตัวออกมาอยู่กันสองต่อสองอย่างนี้ จะทำให้คุณและเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย เห็นนิ่ง ๆ อย่างนี้แต่ก็ร้ายลึกไม่ใช่ย่อยเลยนะคะ
8. สบตาบ่อย ๆ
บ่อยครั้งที่คุณหันไปเมื่อไรก็ต้องเจอเข้ากับสายตาของเขาทุกที จนรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในสายตาของเขาอยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ก็มีคนอื่นรายล้อมอยู่มากมาย ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ เขากำลังอยากบอกให้คุณรับรู้ไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรก็ตาม จะมีเขาคอยห่วงใยอยู่เสมอ
9. เสยผม
การเสยผมหรือเล่นผมตัวเอง เป็นการบ่งบอกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำตัวไม่ถูก ถ้าเขามีอาการอย่างนี้บ่อยครั้งเมื่ออยู่ใกล้กับคุณ แสดงว่าเขามีบางอย่างที่อยากจะพูด แต่ไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรแล้วล่ะค่ะ
10. ให้ของขวัญมีค่า
ของมีค่าไม่ได้หมายความต้องมีราคาเสมอไป มีค่าในที่นี้เราหมายถึงคุณค่าทางจิตใจต่างหากค่ะ ด้วยความที่ผู้ชายมักไม่ค่อยมีเซ้นส์ในการซื้อของเท่าไร แต่ถ้าของขวัญที่คุณได้รับจากเขา เป็นของที่คุณเพิ่งบ่นไปอาทิตย์ก่อนว่าอยากได้ หรือของขวัญชิ้นนั้นเขาทำมันเองกับมือ แปลว่าเขาใส่ใจกับความต้องการของคุณมากเลยทีเดียว
11. หัวเราะบ่อย ๆ
ก็แหม...ถ้าเขายิ้มและหัวเราะกับคุณตลอด ถึงแม้ว่าคุณจะเล่นมุกสุดแป้ก แถมยังไม่มีใครขำสักคน นั่นคือเขากำลังแสดงความเอ็นดู และให้กำลังใจคุณผ่านรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอยู่นั่นเอง อิอิ
12. สัมผัสตัวคุณตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ไปเดินเล่น หรืออยู่ในที่สาธารณะกัน เขามักจะเอื้อมมือมาโอบหลังคุณเบา ๆ แตะข้อศอกให้เดินไปด้วยกัน หรือวางมือบนหลังมือของคุณ ขณะนั่งกินข้าวกันหรือเปล่า ถ้าใช่นั่นก็แสดงว่าเขาพยายามจะรักษาความใกล้ชิดกับคุณตลอดเวลา โดยไม่มีความรู้สึกในเรื่องเพศมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใดค่ะ
แม้จะไม่ค่อยมีคำพูดหวาน ๆ ให้ได้ฟังบ่อย ๆ แต่ภาษากายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถบอกรักได้อย่างจริงใจ และน่าประทับใจไม่แพ้คำพูด เพราะฉะนั้น ถึงเขาจะไม่เอ่ยคำว่ารักออกมาให้ได้ยิน สาว ๆ ทั้งหลายก็อย่าน้อยใจเขาเลยนะคะ