เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย, คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, Instagram woodytalk, เฟซบุ๊ก วู้ดดี้เกิดมาคุย
ภีม ภาคิน ลูกแอน กัญญารัตน์ เปิดใจชีวิตรันทดต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อครอบครัว หลัง พ่อของภีม ภาคิน คือ เจค ศตวรรษ เลิกรากับแม่ไปนานแล้ว ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย
ถึงจะเป็นน้องใหม่ป้ายแดงในวงการบันเทิง แต่ชื่อของ "ภีม ภาคิน บวรศิริลักษณ์" ก็เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะทายาทของอดีตนางแบบสาวสุดเซ็กซี่ "แอน กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ" กับ "เจค ศตวรรษ ดุลยวิจิตร" ซึ่งเลิกรากันไปเมื่อ 17 ปีก่อน... จากชีวิตลูกคุณหนูมีกินมีใช้เงินไม่ขาดมือ ใช้ชีวิตสุขสบายในครอบครัวที่อบอุ่น ถึงแม้ภีมจะขาดพ่อ แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกว่าขาด เพราะคุณแม่ได้เติมเต็มทั้งความรัก ทั้งความสุข ทำให้ชีวิตของ "ภีม" มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มเรื่อยมา จากการเลี้ยงดูของคุณแม่และคุณยาย...
แต่แล้วเรื่องราวชีวิตที่มีแต่ความสุข ก็ต้องเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อคุณแม่แอน กัญญารัตน์ เสาหลักของบ้าน ป่วยเป็นโรควัณโรคกระดูก ทำให้เดินไม่ได้... จึงกลายเป็นจุดพลิกผันในชีวิตของภีม ภาคิน เพราะเขาต้องหาเลี้ยงคนในครอบครัวทั้งหมด... ด้วยตัวเอง และด้วยวัยเพียง 20 ปี เท่านั้น
โดยภีม ภาคิน ได้เปิดใจเรื่องราวชีวิตอย่างหมดเปลือก ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ (21 เมษายน) ว่า ตอนเด็ก ๆ ตนอาศัยอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เป็นเด็กชื่อดังในอำเภอเลย เป็นลูกคุณหนูมีกินมีใช้ตลอด จำได้ว่าช่วง ม.ต้น ได้เงินอาทิตย์ละ 2 พัน ถ้าหมดเมื่อไรก็โทรไปขอได้ตลอด ส่วนคุณแม่ก็จะมาเจอเดือนละครั้ง เพราะแม่ทำงานที่กรุงเทพฯ พอแม่มาหาทีก็ไม่อยากให้แม่กลับ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอแม่กันอีก
"3 ปีก่อน คือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต แม่ป่วยจนเดินไม่ได้ ทุกอย่างมันเฟลมาก ในหัวคิดตลอดว่าควรจะทำอย่างไร จะหาเงินตรงไหนมารักษาให้แม่หายป่วย ตอนนั้นงานก็ไม่มีทำ เงินก็ไม่มีใช้ เพราะแต่ก่อนทุกอย่างแม่เป็นคนดูแลหมด ตอนนี้คือ ไหนจะน้อง ไหนจะยาย ไหนจะน้าที่ป่วย ไหนจะหลานอีก คิดตลอดว่าผมจะไปเป็นเด็กเสิร์ฟ หรือจะขับแท็กซี่ดี จะทำอย่างไรให้ทุกคนมีกินมีใช้ ส่วนผมไม่เป็นอะไร" ภีม กล่าว
หลังจากนั้น ตนก็วางแผนหาเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีงานเดินแบบเข้ามา และตอนนี้พี่หน่องก็ให้โอกาสตนเล่นละครเรื่องน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ซึ่งก็ทำให้พอมีเงินบ้าง แต่ยังไงก็ยังไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะรายได้จากการเป็นนักแสดงก็เพียงเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท ส่วนรายได้ค่าใช้จ่ายในบ้าน มีถึงเกือบ 7 หมื่นบาท เนื่องจากครอบครัวของตนเป็นครอบครัวใหญ่ พอเงินไม่พอก็ต้องดึงเงินส่วนโน้น ส่วนนี้มาโป๊ะทดแทนกันไป เรียกได้ว่าปากกัดตีนถีบ พยายามทำทุกอย่างจริง ๆ ที่ให้มีเงินใช้พอในแต่ละเดือน
ส่วนทางพิธีกรก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่า เห็นในกองละครบอกว่า ภีมแต่งตัวค่อนข้างดี มีรถขับ ส่วนน้องสาวก็กำลังเข้าเรียน ม.กรุงเทพ จริง ๆ แล้ว ภีมกำลังแต่งเรื่องให้น่าสงสารหรือเปล่า ด้านหนุ่มภีม กล่าวตอบว่า จะมาปิดบังทำไม ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอะไรสร้างภาพ แม่ตนป่วยก็เห็น ๆ กันอยู่ ส่วนรถที่ตนใช้ขับนั้น ตนยืมเพื่อนมาอาทิตย์ละ 1 วัน เพื่อไปส่งแม่ที่โรงพยาบาลทุกวันอังคาร ส่วนอีกคันเป็นของเพื่อนน้องสาว ที่เขาฝากจอดไว้เพราะไปเรียนต่อต่างประเทศ ทุกวันนี้ตนไปกองละครก็นั่งรถตู้ นั่งรถเมล์ นั่งมอเตอร์ไซค์ตลอด ไม่มีอะไรจะสร้างภาพทั้งนั้น
ต่อด้วยคำถามที่ทุกคนอยากรู้... คือทำไมถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากพ่อ และอยากเจอพ่อบ้างหรือไม่...
"ผมเฉย ๆ และไม่เคยสงสัยว่าทำไมเขากับแม่ถึงเลิกกัน เพราะภาพที่เขาทะเลาะกับแม่มันชัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำไมต้องทำร้ายแม่ แม่เป็นผู้หญิงนะ เป็นสิ่งที่ผมเห็นมาโดยตลอด แต่ก็เคยโทรไปลองขออยู่ครั้งหนึ่งตอนเด็ก ๆ ประมาณ 8 ขวบ แม่ลองให้โทรไปขอเงินค่าเทอม แต่ผมไม่ได้โทรไปหาเขาโดยตรง ผมโทรไปหาปู่กับย่า ซึ่งปู่กับย่ารับปากว่าจะฝากพ่อเอามาให้ แต่ก็ไม่ได้..."
ทางด้าน แอน กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ ก็เปิดใจถึงการแยกทางกับอดีตสามีว่า... เราเลิกกันตอนที่น้องภีมอายุได้ 3 ขวบ น้องชิชาลูกสาวอายุประมาณ 1 ขวบ สาเหตุที่แยกทางก็คือเขาเจ้าชู้ ติดหญิง และพอเรามีปัญหาก็จะตีกันทุกครั้ง ลากขึ้นบนบ้านไปตีบ้าง ลูก ๆ ก็อยู่ข้างล่าง ก็เห็นกันหมด มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราทะเลาะกันบนห้องชั้นสอง น้องภีมก็เดินมาเคาะประตู บอกว่าอยากกินขนม แต่จริง ๆ แล้ว น้องภีมไม่ได้อยากกิน อยากมากอดตน มาปลอบตนเท่านั้นเอง
ถ้าถามว่า ถูกทำร้ายขนาดนั้น ทำไมต้องทนด้วย ตอนนั้นคือทนเพื่อลูก... แต่มันก็ทนไม่ไหว พอมาคิดอีกทีคือไม่อยากให้เขาโตมากับสภาพแบบนี้ เพราะมันจะส่งผลต่อเนื่องยันตอนเขาโต ส่วนกรณีที่หนักที่สุดคือ คิ้วแตก หัวแตก แก้วหูทะลุสามรู แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอ ไปตกลงกันที่โรงพักแทน
"ทำไมแอนถึงไม่พาลูกไปหาพ่อ คือเราโดนเขาทำร้ายเราขนาดนี้ ยังอยากจะไปเจอเขาอีกเหรอ วันสุดท้ายที่ได้คุยกัน คือวันที่ศาลตัดสินให้เขาต้องจ่ายเงินให้ลูกทั้ง 2 คน ทุกวันที่ 1 ของเดือน เดือนละ 2 หมื่นบาท จนกว่าลูกจะบรรลุนิติภาวะ ซึ่งลูกก็ได้เพียงก้อนเดียวคือตอนที่เซ็นสัญญานั่นแหละ แต่หลังจากนั้น แอนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับเขาอีก และการที่เขาไม่ได้จ่ายเงินเลี้ยงดู ก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะตอนนั้นแอนเลี้ยงลูกของแอนเองได้" แอน กัญญารัตน์ กล่าว
ส่วนทางพิธีกรเผยว่า ในวันนี้ได้แจ้งถึงคุณพ่อของภีม ว่าจะมีการถ่ายทำรายการ ซึ่งเขารับรู้ แต่ก็ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว และตอนนี้เขามีครอบครัวใหม่ มีลูก 1 คน และอีกหนึ่งคนกำลังจะลืมตาดูโลกอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมบอกว่า ยินดีที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือคุณแอนกับลูกสาว แต่ในส่วนของภีม ภาคิน เขาไม่แน่ใจว่าใช่ลูกของเขาหรือไม่ เนื่องจากยังมีความคลางแคลงใจ เพราะช่วงที่คบกันคุณแอนก็คบคนอื่นอยู่ด้วย
คุณแอน กล่าวตอบว่า "ใครกันแน่คบหลายคน แอนเคยมีแฟนมาก่อน แต่พอมีเขาแอนก็ไม่ได้มีใคร สัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงมันรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าลูกเป็นลูกใคร ถ้าไม่มั่นใจ จะตรวจดีเอ็นเอก็ได้ แอนพร้อม"
ส่วนทางด้านภีม กล่าวตอบว่า หากเขามาในรายการจริง ๆ สิ่งที่อยากจะถามคือ ตนใช่ลูกเขาไหม ส่วนน้องสาวตอบว่า ไม่มีคำถาม ไม่รู้จะถามอะไร....
สุดท้ายนี้ ภีม ภาคิน ได้กล่าวกับแม่ของเขาว่า... "ทุกอย่างตลอด 20 ปี อยากจะขอบคุณที่เลี้ยงดูผมกับน้องมาตั้งแต่เด็กจนโต จนถึงทุกวันนี้ เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ทั้งสุขและทุกข์ ทุกสิ่งทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวเราก็ผ่านมันไปได้ ด้วยเรา 3 คน เราไม่มีเขา.. เราก็อยู่ได้แม่"
...ถึงแม้ตอนนี้ เรื่องราวชีวิตของ "ภีม ภาคิน" จะโซซัดโซเซเปรียบเสมือนโดนพายุโหมกระหน่ำ แต่เชื่อเลยว่า อีกไม่นานเขาจะฝ่ามรสุมลูกโตนั้นไปได้ ด้วยความกตัญญู อย่างแน่นอน
วู้ดดี้เกิดมาคุย ตอนที่ 3 ภีม ภาคิน ลูก เจค ศตวรรษ-แอน กัญญารัตน์ 21 เมษายน 2556 โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
วู้ดดี้เกิดมาคุย ตอนที่ 4 ภีม ภาคิน ลูก เจค ศตวรรษ-แอน กัญญารัตน์ 21 เมษายน 2556 โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
วู้ดดี้เกิดมาคุย ตอนที่ 5 ภีม ภาคิน ลูก เจค ศตวรรษ-แอน กัญญารัตน์ 21 เมษายน 2556 โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม